โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ยอดนักเทนนิสหมายเลข 1 ของโลก เอาชนะ แอนดี เมอร์เรย์ มือดีจาก สกอตแลนด์ 3-0 เซต คว้าแชมป์ ออสเตรเลียน โอเพน 2010 ซึ่งเป็นแชมป์แกรนด์สแลมรายการที่ 16 ของตนเอง
ศึกแกรนด์สแลมแห่งเอเชีย-แปซิฟิก "ออสเตรเลียน โอเพน 2010" ชิงเงินรางวัลรวม 24.1 ล้านเหรียญออสเตรเลีย(ราว 723 ล้านบาท) แข่งขัน ณ เมลเบิร์น ปาร์ก นครเมลเบิร์น ประเทศ ออสเตรเลีย ระหว่างวันที่ 18-31 มกราคม ดำเนินมาถึงรอบชิงชนะเลิศ ชายเดี่ยว ในวันอาทิตย์ที่ 31 มกราคม ระหว่าง โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ มือ 1 ของโลกและแชมป์เก่า 3 สมัย พบ แอนดี เมอร์เรย์ มือ 5 ของรายการจาก สกอตแลนด์ ที่เสียไปเพียงเซตเดียวตลอด 6 แมตช์ที่ผ่านมา
โดยการแข่งขันใน รอด เลเวอร์ อารีนา เสมือนเป็นการรีแมตช์รอบชิงชนะเลิศ ยูเอส โอเพน 2008 ซึ่ง เฟเดอเรอร์ ชนะไปได้ 3-0 เซต ซึ่งเกมในครั้งนี้ "เฟดเอ็กซ์" เครื่องร้อนเร็วอีกครั้งด้วยเบรกเกมเสิร์ฟ เมอร์เรย์ ได้ตั้งแต่เกมที่ 2 ทว่าหนุ่มสกอตวัย 22 ปี กลับมาด้วยประสบการณ์มากกว่าเก่าเบรกคืนในเกมที่ 3 จากนั้นทั้งคู่ผลัดกันรักษาเกมเสิร์ฟตนเอง กระทั่งแชมป์เก่า 3 สมัย เบรกได้อีกครั้งในเกมที่ 8 ก่อนออกมาเสิร์ฟปิดเซต 6-3
จากนั้นในเซตที่ 2 เมอร์เรย์ ยังคงพยายามตีจี้ไปที่แบ็คแฮนด์มือเดียวของ เฟเดอเรอร์ ทว่ามือ 1 โลกในวัย 28 ปี ไม่พลาดง่ายๆและออกมาเบรกเกมเสิร์ฟได้อีกครั้งในเกมที่ 3 ทำให้ "เฟดเอ็กซ์" เก็บเซตที่ 2 ไปได้อีกด้วยสกอร์ 6-4 กระทั่งในเซตที่ 3 เมอร์เรย์ เริ่มมีอาการเจ็บที่ต้นขาขวาและเอามือกุมแสดงอาการหลายครั้ง ทว่าสวมหัวใจสิงห์เบรกเกมเสิร์ฟได้ในเกมที่ 6 ขึ้นนำ 5-3 และมีโอกาสเสิร์ฟเพื่อปิดเซต แต่ถูกเบรกกลับได้ในเกมที่ 9 ก่อนทั้งคู่ผลัดกันรักษาเกมเสิร์ฟจนมาตัดสินที่ไทเบรก ซึ่ง เฟเดอเรอร์ เก็บเซตพอยท์ที่ 3 เอาชนะไปได้ 7-6(13/11) ทำให้ชนะในแมตช์นี้ 3-0 เซต 6-3,6-4,7-6(13/11)
โดย เฟเดอเรอร์ ที่เพิ่งได้ลูกสาวฝาแฝด ชาร์ลีน และ มีร์ลา เมื่อปี 2009 คว้าแชมป์ ออสซี โอเพน สมัยที่ 4 และยืดสถิติแกรนด์สแลมสูงสุดเป็นสมัยที่ 16 จากการเข้าชิงชนะเลิศ 22 ครั้ง รับเงินรางวัล 2.1 ล้านเหรียญออสเตรเลีย หรือ ราว 60 ล้านบาท พร้อมทำสถิติเป็นนักหวดชายคนที่ 9 ในประวัติศาสตร์ที่ได้แชมป์แกรนด์สแลมหลังมีทายาท ส่วน เมอร์เรย์ รับเงินรางวัลปลอบใจ 1.05 ล้านเหรียญออสเตรเลีย (ราว 30 ล้านบาท) ขณะที่ชาวสหราชอาณาจักรยังต้องรอคอบแชมป์สแลมแรกของพวกเขาต่อไป หลังจากครั้งล่าสุดต้องย้อนกลับไปถึงปี 1936 ซึ่ง เฟรด เพอร์รี ตำนานผู้ล่วงลับคว้าแชมป์ ยูเอส โอเพน
หลังจบเกมการแข่งขัน เฟเดอเรอร์ ขึ้นรับถ้วยแชมป์ นอร์แมน บรูกส์ ชาลเลนจ์ คัพ พร้อมกล่าวต่อหน้าผู้ชมกว่า 16,000 คนในสนาม ว่า "ผมไม่อยากรองไห้ออกมาตรงนี้เหมือนปีก่อน (แพ้ ราฟาเอล นาดาล ในรอบชิงชนะเลิศ) วันนี้ผมเล่นได้ดีที่สุดวันหนึ่งในชีวิต และอยากบอกว่ามีความสุขมากที่ได้กลับมาแข่งขันใน ออสเตรเลีย กระทั่งคว้าแชมป์รายการนี้ได้อีกครั้งหนึ่ง สำหรับ เมอร์เรย์ คุณเล่นได้ยอดเยี่ยมมากแล้ว ไม่ต้องกังวลไปคุณยังหนุ่มและมีเวลาให้ประสบความสำเร็จในแกรนด์สแลมได้อีกมาก"
ด้าน เมอร์เรย์ ซึ่งผิดหวังในแกรนด์สแลมเป็นครั้งที่ 2ออกมากล่าวว่า "ผลงานของ เฟเดอเรอร์ ยอดเยี่ยมจริงๆที่สามารถรักษามาตราการเล่นระดับสุดยอดไว้ได้หลายปีติดต่อกัน สองสัปดาห์ที่ผ่านมาผมเล่นได้ดีมาตลอด ทว่ายังไม่ดีพอจะเอาชนะเขา แต่ในอนาคตผมจะกลับมาเป็นแชมป์ให้ได้" หนุ่มสกอตหยุดกลั้นน้ำตา ก่อนเผยต่อว่า "ผมต้องขอโทษพวกคุณ(ชาวสหราชอาณาจักร) ทุกคนจริงๆที่ทำไม่สำเร็จ และทำให้ต้องรอคอยกันต่อไป รู้สึกว่าตอนนี้ผมจะร้องไห้คล้ายๆ เฟเดอเรอร์ แต่ผมยังเล่นได้เก่งไม่เท่าเขา"
