"มัมมี่" อียิปต์ เขยิบใกล้โอกาสป้องกันแชมป์ฟุตบอล แอฟริกัน เนชันส์ คัพ เข้าไปทุกขณะ หลังต่อเวลาบดชนะ "หมอผี" แคเมอรูน 3-1 ทะลุเข้าสู่รอบตัดเชือกเช่นเดียวกับ "อินทรีมรกต" ไนจีเรีย ที่ดวลจุดโทษล้ม แซมเบีย 5-4
ศึกฟุตบอล แอฟริกัน เนชันส์ คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย
อียิปต์ 1-1 แคเมอรูน
(อียิปต์ ต่อเวลาชนะ 3-1)
ฮัสซัน เชฮาตา จัดทัพใหญ่ "มัมมี่" อียิปต์ ในการสานฝันลุ้นเข้าไปสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์แอฟริกัน เนชันส์ คัพ เป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกัน นำมาโดย อาเหม็ด ฮัสซัน กัปตันทีมจอมเก๋า พร้อมคู่หน้าสุดอันตรายอย่าง โมฮาเหม็ด ซีดาน ที่เล่นอยู่ในบุนเดสลีกา เยอรมนี และ เอหมัด โมตีบ ขณะที่ ปอล เลอ กูเอ็น ปรับหมากให้ "หมอผี" แคเมอรูน พอสมควรในการดวลกับแชมป์เก่า แนวรับดร็อป ริโกแบร์ ซง และ สเตฟาน เอ็มเบีย ขณะที่แผงกลางพัก ฌอง มากูน แต่แนวรุกยังใช้งาน ซามูเอล เอโต กับ โมฮามาดู อิดริสซู
เริ่มเกมการแข่งขันทั้งสองฝ่ายยังไม่ผลีผลามใส่กัน แต่เป็น แคเมอรูน ที่ดันเกมขึ้นไปฉวัดเฉวียนหน้าประตู อียิปต์ 10 นาทีแรก "หมอผี" ได้ลูกเตะมุมไปแล้วถึง 5 ครั้ง อาชิลล์ เอมานา โยนไปเสาสองแผงรับ "มัมมี่" โขกสกัดออกมา เฌเรมี เอ็นจิตัป แบ็กขวาที่เล่นให้ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ในเดอะแชมเปียนชิป อังกฤษ สวนกลับไปด้วยซ้ายข้างไม่ถนัดบอลจึงหลุดกรอบไป เจ็ดนาทีถัดมา "แชมป์เก่า" ได้ฟรีคิกระยะหวังผล 25 หลา ฮอสนี อับดุล ราโบ ปั่นบอลแฉลบกำแพงมนุษย์ออกหลังไป
นาทีที่ 24 อียิปต์ ได้ฟรีคิกอีกครั้ง โมฮาเหม็ด ซีดาน ปั่นเข้าไปให้ อาเหม็ด เอล โมฮามาดี เติมขึ้นมาโขกคนเดียวแต่พุ่งโหม่งหลุดกรอบไปอย่างน่าเสียดาย แต่อีกสองนาทีถัดมากลายเป็น แคเมอรูน ที่ขึ้นนำ 1-0 เอมานา ปั่นลูกเตะมุมมาที่เสาแรก อาเหม็ด ฮัสซัน มิดฟิลด์กัปตันทีม "มัมมี่" โหม่งสกัดพลาดเข้าประตูตัวเอง พอโดนไปก่อนแชมป์เก่าเดินหน้ารุกใส่ทันที วาเอล โกมา สาดลูกฟรีคิกเร็วให้ เอหมัด โมตีบ หลุดเข้ากรอบโทษโขกหนี การ์ลอส กาเมนี ผู้รักษาประตู แต่บอลแรงเกินไปไล่ไม่ทันและก็ออกหลัง
อียิปต์ ครองเกมคืบคลานเข้าไปในแดนฝั่งตรงข้ามมากขึ้นเป็นลำดับ จนกระทั่งนาทีที่ 37 ก็ตามตีเสมอ 1-1 จนได้ ฮัสซัน แก้ตัวด้วยการเติมขึ้นมายิงไกลระยะกว่า 40 หลา บอลพุ่งกระดอนพื้นดีดผ่านมือ กาเมนี เสียบมุมเข้าไป และนี่ก็เป็นประตูที่ 30 ในการลงสนาม 170 นัดให้แก่ทีมชาติของกองกลางวัย 34 ปีรายนี้ ท้ายครึ่งแรก "หมอผี" ลุยขึ้นมาบ้าง เอมานา ได้ส่องไกลแต่ไม่ผ่านมือ เอสซัม เอล ฮาดารี ทำให้จบ 45 นาทีแรก ยังไม่มีฝ่ายใดได้เปรียบเสียเปรียบกันในเรื่องของสกอร์
กลับมาลุยต่อครึ่งหลัง "มัมมี่" ได้เสียวก่อน เอล ฮาดารี สาดบอลจากหน้าประตูตัวเอง เชดชู ฟองแกง พลาดปล่อยบอลตกพื้นทำให้ โมตีบ ควบแซงหน้าเข้ามาจิ้มแต่ลูกหนังชนหน้าอก กาเมนี หวุดหวิด นาทีที่ 49 เกมรับ แคเมอรูน ดูปั่นป่วนทีเดียว เชดชู พลาดโดน ซีดาน ฉกเข้าไปยิงเน้นๆ ร้อนถึง กาเมนี ต้องโชว์การเซฟอีกครั้ง พอตั้งตัวติด "หมอผี" ดันเกมขึ้นมาบ้าง จอร์เกส มันด์เจค ส่องไกลจากนอกกรอบบอลเฉี่ยวเสาแบบได้ลุ้น หนึ่งชั่วโมงผ่านไป แคเมอรูน ได้เสียวอีกครั้ง เอมานา ตะบันด้วยขวาเต็มข้อบอลติดไซด์แต่ เอล ฮาดารี ยังปัดได้ทัน
จากนั้น อียิปต์ มีการปรับหมากเล็กน้อยถอด ซีดาน ออกมาและก็ใส่ โมฮาเหม็ด เกโด ซึ่งเป็นมิดฟิลด์ตัวรุกลงมาเชื่อมเกมแทน โมเมนตัมของเกมเริ่มมาทาง "หมอผี" เฌเรมี ได้ปั่นฟรีคิกแต่ เอล ฮาดารี พุ่งไปรับเข้าซองเอาไว้ได้ เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย ซามูเอล เอโต ได้โอกาสแรกของเกม รับบอลคืนจาก โมฮามาดู อิดริสซู ก่อนซัดจากนอกกรอบไปตรงตัวนายทวารคู่แข่ง เมื่อเกมดูเป็นรองแล้ว ฮัสซัน เชฮาตา ต้องเปลี่ยนเอา ฮอสซัม กาลี มาไล่แดนกลางแทน ฮอสนี ด้าน แคเมอรูน แก้เกมด้วยการอัดศูนย์หน้าอย่าง ปิแอร์ เวโบ เข้าไปอีกและก็ดึง เอมานา ออกมา นาทีสุดท้ายแชมป์เก่าเกือบได้เฮ ฮัสซัน โยนเลยไปเสาไก มันด์เจค สอดขึ้นมายิงบอลกระแทกตาข่ายด้านข้าง ครบ 90 นาที ทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 30 นาที
เปิดฉาก แคเมอรูน บุกใส่ทันทีได้ยิงสองหนซ้อนๆ จาก เอโต และ เวโบ แต่ไม่ผ่านมือ เอล ฮาดารี ทว่าการส่งบอลคืนหลังพลาดมหันต์ของ เฌเรมี ทำให้ เกโด ปาดเข้ามาแปลูกหนังลอดขา กาเมนี ตุงตาข่ายเป็นทาง อียิปต์ ที่พลิกขึ้นนำ 2-1 สามนาทีถัดมา "มัมมี่" ช็อก "หมอผี" ตาตั้ง เมื่อทิ้งห่างเป็น 3-1 ฮัสซัน ปั่นฟรีคิกด้วยขวาจากระยะ 35 หลา กามานี ปัดบอลไปชนคานกระเด้งมาตกบนเส้นประตู แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินส่งสัญญาณว่าบอลข้ามเส้นไปแล้ว เล่นเอานักเตะแคเมอรูน โร่เข้าไปประท้วงเป็นการใหญ่แต่ก็ไม่เป็นผล ช่วงเวลาที่เหลือ แคเมอรูน รุกใส่เต็มสูบแต่ดันมาเหลือแค่ 10 คนเมื่อ เชดชู ไปสกัด เกโด ในจังหวะหลุดเดี่ยว ครบ 120 นาที อียิปต์ ประคองตัวบดเอาชนะไปได้เข้าสู่รอบรองชนะเลิศชน แอลจีเรีย
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
อียิปต์ : เอสซัม เอล ฮาดารี , อาเหม็ด เอล โมฮามาดี , วาเอล โกมา , ฮานี ซาอิด , มามูด ฟาตาลาห์ , ซาเยด โมวัด , อาเหม็ด ฟาตี , ฮอสนี อับดุล ราโบ , อาเหม็ด ฮัสซัน , โมฮาเหม็ด ซีดาน , เอหมัด โมตีบ
แคเมอรูน : การ์ลอส กาเมนี , เฌเรมี เอ็นจิตัป , อองรี เบอดีโม , เชดชู ฟองแกง , นิโกลาส์ เอ็นกูลู , อเล็กซานเดอร์ ซง , เอยอง เอนอห์ , จอร์เกส มันด์เจค , เอชิลล์ เอมานา , ซามูเอล เอโต , โมฮามาดู อิดริสซู
ส่วนรอบ 8 ทีมสุดท้ายอีกคู่หนึ่งวันเดียวกัน ปรากฏว่า ไนจีเรีย ดวลจุดโทษชนะ แซมเบีย 5-4 หลังเสมอกัน 0-0 ในเวลา 120 นาที ทำให้ "อินทรีมรกต" บินเข้าสู่รอบรองชนะเลิศพบ "ดาวดำ" กานา ต่อไป
ศึกฟุตบอล แอฟริกัน เนชันส์ คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย
อียิปต์ 1-1 แคเมอรูน
(อียิปต์ ต่อเวลาชนะ 3-1)
ฮัสซัน เชฮาตา จัดทัพใหญ่ "มัมมี่" อียิปต์ ในการสานฝันลุ้นเข้าไปสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์แอฟริกัน เนชันส์ คัพ เป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกัน นำมาโดย อาเหม็ด ฮัสซัน กัปตันทีมจอมเก๋า พร้อมคู่หน้าสุดอันตรายอย่าง โมฮาเหม็ด ซีดาน ที่เล่นอยู่ในบุนเดสลีกา เยอรมนี และ เอหมัด โมตีบ ขณะที่ ปอล เลอ กูเอ็น ปรับหมากให้ "หมอผี" แคเมอรูน พอสมควรในการดวลกับแชมป์เก่า แนวรับดร็อป ริโกแบร์ ซง และ สเตฟาน เอ็มเบีย ขณะที่แผงกลางพัก ฌอง มากูน แต่แนวรุกยังใช้งาน ซามูเอล เอโต กับ โมฮามาดู อิดริสซู
เริ่มเกมการแข่งขันทั้งสองฝ่ายยังไม่ผลีผลามใส่กัน แต่เป็น แคเมอรูน ที่ดันเกมขึ้นไปฉวัดเฉวียนหน้าประตู อียิปต์ 10 นาทีแรก "หมอผี" ได้ลูกเตะมุมไปแล้วถึง 5 ครั้ง อาชิลล์ เอมานา โยนไปเสาสองแผงรับ "มัมมี่" โขกสกัดออกมา เฌเรมี เอ็นจิตัป แบ็กขวาที่เล่นให้ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ในเดอะแชมเปียนชิป อังกฤษ สวนกลับไปด้วยซ้ายข้างไม่ถนัดบอลจึงหลุดกรอบไป เจ็ดนาทีถัดมา "แชมป์เก่า" ได้ฟรีคิกระยะหวังผล 25 หลา ฮอสนี อับดุล ราโบ ปั่นบอลแฉลบกำแพงมนุษย์ออกหลังไป
นาทีที่ 24 อียิปต์ ได้ฟรีคิกอีกครั้ง โมฮาเหม็ด ซีดาน ปั่นเข้าไปให้ อาเหม็ด เอล โมฮามาดี เติมขึ้นมาโขกคนเดียวแต่พุ่งโหม่งหลุดกรอบไปอย่างน่าเสียดาย แต่อีกสองนาทีถัดมากลายเป็น แคเมอรูน ที่ขึ้นนำ 1-0 เอมานา ปั่นลูกเตะมุมมาที่เสาแรก อาเหม็ด ฮัสซัน มิดฟิลด์กัปตันทีม "มัมมี่" โหม่งสกัดพลาดเข้าประตูตัวเอง พอโดนไปก่อนแชมป์เก่าเดินหน้ารุกใส่ทันที วาเอล โกมา สาดลูกฟรีคิกเร็วให้ เอหมัด โมตีบ หลุดเข้ากรอบโทษโขกหนี การ์ลอส กาเมนี ผู้รักษาประตู แต่บอลแรงเกินไปไล่ไม่ทันและก็ออกหลัง
อียิปต์ ครองเกมคืบคลานเข้าไปในแดนฝั่งตรงข้ามมากขึ้นเป็นลำดับ จนกระทั่งนาทีที่ 37 ก็ตามตีเสมอ 1-1 จนได้ ฮัสซัน แก้ตัวด้วยการเติมขึ้นมายิงไกลระยะกว่า 40 หลา บอลพุ่งกระดอนพื้นดีดผ่านมือ กาเมนี เสียบมุมเข้าไป และนี่ก็เป็นประตูที่ 30 ในการลงสนาม 170 นัดให้แก่ทีมชาติของกองกลางวัย 34 ปีรายนี้ ท้ายครึ่งแรก "หมอผี" ลุยขึ้นมาบ้าง เอมานา ได้ส่องไกลแต่ไม่ผ่านมือ เอสซัม เอล ฮาดารี ทำให้จบ 45 นาทีแรก ยังไม่มีฝ่ายใดได้เปรียบเสียเปรียบกันในเรื่องของสกอร์
กลับมาลุยต่อครึ่งหลัง "มัมมี่" ได้เสียวก่อน เอล ฮาดารี สาดบอลจากหน้าประตูตัวเอง เชดชู ฟองแกง พลาดปล่อยบอลตกพื้นทำให้ โมตีบ ควบแซงหน้าเข้ามาจิ้มแต่ลูกหนังชนหน้าอก กาเมนี หวุดหวิด นาทีที่ 49 เกมรับ แคเมอรูน ดูปั่นป่วนทีเดียว เชดชู พลาดโดน ซีดาน ฉกเข้าไปยิงเน้นๆ ร้อนถึง กาเมนี ต้องโชว์การเซฟอีกครั้ง พอตั้งตัวติด "หมอผี" ดันเกมขึ้นมาบ้าง จอร์เกส มันด์เจค ส่องไกลจากนอกกรอบบอลเฉี่ยวเสาแบบได้ลุ้น หนึ่งชั่วโมงผ่านไป แคเมอรูน ได้เสียวอีกครั้ง เอมานา ตะบันด้วยขวาเต็มข้อบอลติดไซด์แต่ เอล ฮาดารี ยังปัดได้ทัน
จากนั้น อียิปต์ มีการปรับหมากเล็กน้อยถอด ซีดาน ออกมาและก็ใส่ โมฮาเหม็ด เกโด ซึ่งเป็นมิดฟิลด์ตัวรุกลงมาเชื่อมเกมแทน โมเมนตัมของเกมเริ่มมาทาง "หมอผี" เฌเรมี ได้ปั่นฟรีคิกแต่ เอล ฮาดารี พุ่งไปรับเข้าซองเอาไว้ได้ เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย ซามูเอล เอโต ได้โอกาสแรกของเกม รับบอลคืนจาก โมฮามาดู อิดริสซู ก่อนซัดจากนอกกรอบไปตรงตัวนายทวารคู่แข่ง เมื่อเกมดูเป็นรองแล้ว ฮัสซัน เชฮาตา ต้องเปลี่ยนเอา ฮอสซัม กาลี มาไล่แดนกลางแทน ฮอสนี ด้าน แคเมอรูน แก้เกมด้วยการอัดศูนย์หน้าอย่าง ปิแอร์ เวโบ เข้าไปอีกและก็ดึง เอมานา ออกมา นาทีสุดท้ายแชมป์เก่าเกือบได้เฮ ฮัสซัน โยนเลยไปเสาไก มันด์เจค สอดขึ้นมายิงบอลกระแทกตาข่ายด้านข้าง ครบ 90 นาที ทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 30 นาที
เปิดฉาก แคเมอรูน บุกใส่ทันทีได้ยิงสองหนซ้อนๆ จาก เอโต และ เวโบ แต่ไม่ผ่านมือ เอล ฮาดารี ทว่าการส่งบอลคืนหลังพลาดมหันต์ของ เฌเรมี ทำให้ เกโด ปาดเข้ามาแปลูกหนังลอดขา กาเมนี ตุงตาข่ายเป็นทาง อียิปต์ ที่พลิกขึ้นนำ 2-1 สามนาทีถัดมา "มัมมี่" ช็อก "หมอผี" ตาตั้ง เมื่อทิ้งห่างเป็น 3-1 ฮัสซัน ปั่นฟรีคิกด้วยขวาจากระยะ 35 หลา กามานี ปัดบอลไปชนคานกระเด้งมาตกบนเส้นประตู แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินส่งสัญญาณว่าบอลข้ามเส้นไปแล้ว เล่นเอานักเตะแคเมอรูน โร่เข้าไปประท้วงเป็นการใหญ่แต่ก็ไม่เป็นผล ช่วงเวลาที่เหลือ แคเมอรูน รุกใส่เต็มสูบแต่ดันมาเหลือแค่ 10 คนเมื่อ เชดชู ไปสกัด เกโด ในจังหวะหลุดเดี่ยว ครบ 120 นาที อียิปต์ ประคองตัวบดเอาชนะไปได้เข้าสู่รอบรองชนะเลิศชน แอลจีเรีย
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
อียิปต์ : เอสซัม เอล ฮาดารี , อาเหม็ด เอล โมฮามาดี , วาเอล โกมา , ฮานี ซาอิด , มามูด ฟาตาลาห์ , ซาเยด โมวัด , อาเหม็ด ฟาตี , ฮอสนี อับดุล ราโบ , อาเหม็ด ฮัสซัน , โมฮาเหม็ด ซีดาน , เอหมัด โมตีบ
แคเมอรูน : การ์ลอส กาเมนี , เฌเรมี เอ็นจิตัป , อองรี เบอดีโม , เชดชู ฟองแกง , นิโกลาส์ เอ็นกูลู , อเล็กซานเดอร์ ซง , เอยอง เอนอห์ , จอร์เกส มันด์เจค , เอชิลล์ เอมานา , ซามูเอล เอโต , โมฮามาดู อิดริสซู
ส่วนรอบ 8 ทีมสุดท้ายอีกคู่หนึ่งวันเดียวกัน ปรากฏว่า ไนจีเรีย ดวลจุดโทษชนะ แซมเบีย 5-4 หลังเสมอกัน 0-0 ในเวลา 120 นาที ทำให้ "อินทรีมรกต" บินเข้าสู่รอบรองชนะเลิศพบ "ดาวดำ" กานา ต่อไป
