xs
xsm
sm
md
lg

ดาการ์ 2010 ยุคทอง "โฟล์คฯ" พันธุ์อึด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ทีมงานโฟล์คสวาเกนฉลองความสำเร็จ
ASTVผู้จัดการรายวัน-นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การแข่งขัน "ดาการ์" แรลลีหฤโหดรายการเก่าแก่ของโลก ที่รถแข่งจากทีมเดียวกันทำผลงานจบอันดับที่หนึ่ง สอง และ สาม หลัง คาร์ลอส แซงค์ นักขับจากสเปน นำทีมโฟล์คสวาเกนต้นสังกัด ฝ่าด่านหิน 14 สเตจ คว้าชัยบนเส้นทาง อาร์เจนตินา-ชิลี ได้สำเร็จในสเตจสุดท้ายที่กรุงบัวโนสไอเรส เมื่อวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา

ก่อนหน้านี้ โฟล์คสวาเกน ทีมแข่งทางฝุ่นชั้นนำของเยอรมนี ต้องตกอยู่ใต้ร่มเงาของรถแข่งจากค่ายมิตซูบิชิ บนเวทีดาการ์ มาเป็นเวลากว่า 20 ปี นับจากรถมิตซูบิชิ ปาเจโร สร้างชื่อให้นักขับจากทีมแข่งแดนปลาดิบคว้าแชมป์แรลลีหฤโหดได้ถึง 12 ครั้ง ตั้งแต่ปี 1985 โดยที่ค่ายรถจากเมืองโวล์ฟบวร์กไม่สามารถหยิบรางวัลเวลารวมมาเชยชมได้แม้แต่ครั้งเดียว

จนกระทั่งปี 2009 ที่ผ่านมาดาการ์ย้ายจาการแข่งขันในดินแดนยุโรป-แอฟริกา ดวลความเร็วกันในทวีปแอฟริกาใต้เป็นครั้งแรกด้วยเส้นทาง อาร์เจนตินา-ชิลี รวมระยะทางกว่า 9,000 กิโลเมตร โฟล์คสวาเกน สามารถยุติฝันร้ายในดาการ์ลงได้ หลังจีเนล เดอ วิลลิเยร์ส นักขับแอฟริกาใต้ ควบรถโฟล์คสวาเกน Race Touareg คว้าชัยเหนือทีมมิตซูบิชิได้สำเร็จ

ขณะเดียวกันจากความล้มเหลวของมิตซูฯในปี 2009 ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจโลกที่ถดถอย ส่งผลให้ผู้บริหารค่ายรถญี่ปุ่นตัดสินใจถอนทีมของจากการแข่งขันในปีนี้ ซึ่งทำให้โฟล์คสวาเกน ต้องคับเคี่ยวกับค่ายรถจากชาติอย่างบีเอ็มดับเบิลยู รวมถึงแฮมเมอร์ ทีมรถตรวจการณ์จากฝั่งสหรัฐอเมริกา ในการป้องกันแชมป์ดาการ์เอาไว้ให้ได้เป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน

ซึ่งจากผลการแข่งขันที่เพิ่งจบลงไปเมื่อเช้าวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมาตามเวลาประเทศไทย ค่ายรถจากโวล์ฟบวร์กพาเหรดคว้าชัยชนะได้สำเร็จในอันดับ หนึ่ง สอง และสาม จาก คาร์ลอส แซงค์ จอมเก๋าจากสเปน นาสเซอร์ อัล-อัตติยาห์ สิงห์ทะเลทรายจากกาตาร์ และมาร์ค มิลเลอร์ ขักขับสหรัฐฯ ทั้งยังทิ้งห่างสเตฟาน ปีเตอร์อองเซล อดีตแชมป์ 9 สมัยจากบีเอ็มดับเบิลยูในอันดับ 4 ชนิดไม่เห็นฝุ่น

โดยคริสเตียน นีสเซน ผู้อำนวยการด้านมอเตอร์สปอร์ตโฟล์คสวาเกน ออกมาเผยหลังคว้าแชมป์ได้เป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกันว่า "การป้องกันแชมป์ดาการ์คือเป้าหมายสูงสุดของโฟล์คสวาเกนในช่วง 3 สัปดาห์ของการแข่งขัน ซึ่งในที่สุดเราก็สามารถทำได้ และยังเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ดาการ์ที่อันดับหนึ่ง สอง และสาม ประเภทรถยนต์มาจากทีมเดียวกัน"

พร้อมกันนี้บอสใหญ่ชาวเดนมาร์คยังเอ่ยถึง รถ Race Touareg ที่คว้าชัยในดาการ์ได้ 2 ปีติดต่อกันว่า "มันคือชัยชนะที่ลงตัว เราแสดงให้ทั่วโลกเห็นว่านอกจากนักขับชั้นยอดในทีมแล้ว รถยังมีขุมกำลังดีเซลเทอร์โบ (TDI) อันเป็นเทคโนโลยีที่ดีที่สุดสำหรับความทรหดในเส้นทางทะเลทรายที่นุ่มละเอียดในละติน อเมริกา"

ความสำเร็จบนดินแดนอเมริกาใต้ใน 2 ปีล่าสุด นับเป็นการการันตีสมรรถนะของโฟล์คฯเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ (TDI) ได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ดีเป็นที่น่าติดตามว่า โฟล์คสวาเกน จะครองความเป็นจ้าวทะเลทรายอย่างต่อเนื่องเหมือนอย่างที่มิตซูบิชิทำได้ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาหรือได้ไม่ หลังมีแนวโน้มว่า "ดาการ์ 2011" จะกลับไปชิงชัยบนดินแดนยุโรป-แอฟริกาอีกครั้ง
คาร์ลอส แซงค์ แชมป์ดาการ์ 2010
ความทรหดของเส้นทางดาการ์
โฟล์คฯ Race Touareg ขุมกำลัง ดีเซล 2,500 ซีซี
รถจากค่ายโฟล์คฯขับเคี่ยวกันเอง
กำลังโหลดความคิดเห็น