ASTV ผู้จัดการรายวัน - ศึกแกรนด์สแลมรายการแรกของปี "ออสเตรเลียน โอเพน 2010" เปิดฉากวันแรกในวันจันทร์ที่ 18 มกราคม ท่ามกลางอากาศร้อนระอุของ นครเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย โดยสปอตไลต์ของสื่อจับจ้องไปที่การลุ้นแชมป์ทางฟากหญิงเดี่ยวที่มีแนวโน้มสนุกสูสีที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา เมื่อ จัสติน เอแนง และ คิม ไคลจ์สเตอร์ส รวมถึง มาเรีย ชาราโปวา สามอดีตมือ 1 โลก คืนสนามพร้อมหน้า นับเป็นการส่งสาสน์ท้าท้ายความยิ่งใหญ่ของ เซเรนา วิลเลียมส์ ราชินีเทนนิสโลกคนปัจจุบัน
ในรอบสามปีที่ผ่านมา วงการสักหลาดหญิงลดความตื่นเต้นลงไปเมื่อ ไคลจ์สเตอร์ส อำลาสนามไปให้กำเนิดทายาท ขณะที่ เอแนง แขวนแร็กเกตกระทันหันเมื่อกลางปี 2008 โดยให้เหตุผลว่าหมดไฟจากการแข่งขัน ด้าน มาเรีย บาดเจ็บหัวไหล่ขวาจนต้องเข้ารับการผ่าตัดและพักยาวถึง 10 เดือน เปิดโอกาสให้ เซเรนา กวาดแชมป์แกรนด์สแลมมาครองได้ถึง 3 รายการในห้วงเวลาดังกล่าว เริ่มจาก ยูเอส โอเพน 2008 ตลอดจน ออสเตรเลียน โอเพน และ วิมเบิลดัน เมื่อปีที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม เส้นทางของหวดสาวอเมริกันใน "สแลมออสซี" หนนี้คงไม่ง่ายดายอีกต่อไป เมื่อ เอแนง แชมป์เก่าในปี 2004 คืนคอร์ตด้วยร่างกายแข็งแกร่งเต็มที่หลังซ้อมหนักมา 3 เดือนเต็ม โดยหวดร่างเล็กวัย 27 ปี ซึ่งวางเป้าระยะยาวไว้ที่ตำแหน่งแชมป์ วิมเบิลดัน สมัยแรกของตนเอง กล่าวว่า "หลังพักการแข่งขันไปนาน ร่างกายยังแกร่งเหมือนเดิม หากแต่ระบบความคิดเปลี่ยนแปลงไปสิ้นเชิง ในวันนี้รู้สึกว่าตนเองโตเป็นผู้ใหญ่และมีความอดทนมากขึ้น เพื่อก้าวไปสู่สิ่งที่ตนเองปรารถนา"
ถึงแม้ว่า นี่เป็นเพียงทัวร์นาเมนต์ที่ 2 ในรอบ 18 เดือนของ เจ้าของแชมป์แกรนด์สแลม 7 สมัย ทว่าด้วยชื่อเสียงครั้งก่อน และตำแหน่งรองแชมป์ บริสเบน อินเตอร์เนชันแนล เมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ "วิลเลียม ฮิลล์" ร้านรับพนันถูกกฏหมายใน อังกฤษ เปิดราคาให้ เอแนง เป็นเต็งสองที่มีโอกาสลุ้นแชมป์หนนี้ร่วมกับ ไคลจ์สเตอร์ส เพื่อนร่วมชาติ ด้วยราคา 7/2 (แทง 2 จ่าย 7) ใกล้เคียงกับราคาเต็งหนึ่ง 3/1 (แทง 1 จ่าย 3 ) ของ เซเรนา เป็นอย่างยิ่ง
โดย คิม ที่ได้รับฉายา "ซูเปอร์มัม" จากผลงานหวนคืนสนามในรอบ 2 ปีเมื่อเดือนสิงหาคม ก่อนผ่านด่าน เซเรนา ในรอบตัดเชือก คว้าแชมป์ ยูเอส โอเพน มาเป็นของขวัญ "น้องเจดา" ลูกสาวสุดที่รัก กล่าวถึงความพร้อมของตนเองบ้างว่า "ระบบความคิดของฉันเปลี่ยนไปโดนสิ้นเชิง หลังแต่งงานมีลูกและกลับมาลงสนาม เป้าหมายของตนเองในเวลานี้ไม่ใช่อันดับโลก แต่เป็นการลุ้นแชมป์แกรนด์สแลมสมัยที่ 3 เริ่มจาก ออสเตรเลียน โอเพน ในครั้งนี้"
นอกจากสองสาวเบลเยียมแล้ว มาเรีย ชาราโปวา นางฟ้าวงการลูกสักหลาดที่คว้าแชมป์ออสเตรเลี่ยน โอเพน ปี 2008 หวนคืนสนามด้วยสภาพสมบูรณ์เต็มร้อยเช่นกัน โดย "นางฟ้า" ซึ่งเปลี่ยนกลับมาเสิร์ฟเต็มวงสวิงได้หนักหน่วงอีกครั้ง หลังจากปรับท่าเสิร์ฟเป็นแบบครึ่งวงเพื่อถนอมหัวไหล่ขวาที่บาดเจ็บมาร่วม 2 ปี จนเปอร์เซนต์และความรุนแรงของเสิร์ฟแรกตกลงไปตลอดปี 2009 กล่าวว่า "นี่คือฤดูกาลที่น่าตื่นเต้นที่สุดในรอบหลายปี และฉันหวังว่าตนเองจะประสบความสำเร็จอีกครั้ง หลังผ่านช่วงเลวร้ายที่สุดมาได้แล้ว"
หลังสัมผัสความฮึกเหิมจากเหล่าคู่ปรับคนสำคัญ เซเรนา "แชมป์เก่า" ออกมาส่งสัญญานเตือนด้วยการให้สัมภาษณ์ ก่อนประเดิมสนามรอบแรกกับ อูร์สซูลา รัดวานสกา จาก โปแลนด์ ว่า "ถึงเวลาลงสนามจริงอีกครั้งแล้ว จุดมุ่งหมายของฉันคือการทำผลงานให้ดีกว่าปีที่ผ่านมา รวมถึงผ่านเข้ารอบตัดเชือกแกรนด์สแลม ซึ่งถือเป็นมาตรฐานของตนเอง ก่อนเอาชนะแมตช์ที่ 7 ในทัวร์นาเมนต์(รอบชิงชนะเลิศ) ให้ได้อีกครั้ง ซึ่งฉันมันใจว่าตนเองจะทำได้ดีและดีกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้เสมอๆ"
สำหรับ แฟนกีฬาชาวไทย นอกจากได้ตามลุ้นการขบเคี่ยวแย่งแชมป์ ซึ่งอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการสลับขั้วอำนาจเทนนิสหญิงโลกแล้ว ยังได้ตามเชียร์ แทมมารีน ธนสุกาญจน์ หนึ่งเดียวจากแดนสยามซึ่งเตรียมลงสนามเมนดรอว์ ออสซี โอเพน เป็นปีที่ 14 ติดต่อกัน พบกับ เซซิล คาราตานต์เชวา จาก คาซักสถาน และมีโอกาสปะทะกับ คิม ในรอบที่สอง โดย "แทมมี" ที่จอดป้ายรอบแรก 4 ฤดูกาลหลังสุด ฝากข้อความถึงเพื่อนร่วมชาติว่า "กำลังใจจากคนไทยมีความสำคัญ เวลานี้ร่างกายและจิตใจพร้อมแล้วที่จะลงแข่งอย่างสุดความสามารถ ขอให้แฟนๆดูเทนนิสให้สนุกและส่งใจมาเชียร์กันเหมือนเดิม"