xs
xsm
sm
md
lg

คิงส์คัพคึกคัก "โคนม-โปล-ลอดช่อง" ขนชุดใหญ่ซดแข้ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แฟนลูกหนังชาวไทยเตรียมได้ตื่นตาตื่นใจกับศึกฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 40 ซึ่ง "โคนม" เดนมาร์ก, โปแลนด์ และ "ลอดช่อง" สิงคโปร์ ตอบรับจะส่งผู้เล่นชุดใหญ่มาดวลแข้งกับทีมชาติไทย ระหว่างวันที่ 17-23 มกราคมนี้

เมื่อช่วง 14.00 น.ของวันจันทร์ที่ 4 มกราคม 2553 ณ ห้องปาริชาติ โรงแรมเรดิสัน นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาสภากรรมการสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย และเป็นประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขัน พร้อมด้วย นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย, นายองอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมฟุตบอลฯ รวมถึง นายบัญชา พิมพ์สมบูรณ์ ผู้อำนวยการศูนย์กกท.ภาค 3 และเลขานุการฝ่ายจัดการแข่งขัน ร่วมกันแถลงข่าวการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์คัพ ครั้งที่ 40

ครั้งนี้ฝ่ายจัดการแข่งขันได้เชิญ เดนมาร์ก, โปแลนด์ และ สิงคโปร์ มาโม่แข้งทีมชาติไทยในทัวร์นาเมนต์สุดยิ่งใหญ่ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 17-23 ม.ค. โดยรูปแบบการแข่งขันจะเล่นแบบพบกันหมดที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ในจังหวัดนครราชสีมา ความจุ 20,000-25,000 ที่นั่ง ซึ่งทีมที่ได้คะแนนสูงสุดจะคว้าแชมป์พร้อมถ้วยพระราชทานไปครอง

นายสุวัจน์ เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อม "เราจะจัดเตรียมงานโดยเฉพาะพิธีเปิดการแข่งขันให้ยิ่งใหญ่อย่างสมพระเกียรติ เพื่อแสดงความจงรักภักดีถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเป็นตัวอย่างในการสร้างความเชื่อมั่นสู่สายตาชาวต่างชาติ โดยสนามที่ใช้จัดแข่งถือว่ามีความพร้อม เพราะเคยใช้จัดซีเกมส์ ครั้งที่ 24 มาแล้วเมื่อปี 2550 คราวนั้นถือว่าจัดได้ประสบความสำเร็จ เรียกได้ว่ามีพร้อมทั้งในส่วนตัวสนามและโครงสร้างของเมือง สามารถเดินทางได้สะดวกมีหลายช่องทางทั้ง รถยนต์, เครื่องบิน และ รถไฟ พร้อมกันนี้ยังมีที่พักรองรับแฟนๆ อย่างมากมายด้วย ส่วนในวันที่ 17 ม.ค. นอกจากแมตช์เปิดสนามเราจะมีพิธีเปิดการแข่งขันอย่างเป็นทางการ"

"สำหรับสนามซ้อมตอนนี้เรามีพร้อมให้ทั้ง 4 ทีมใช้ ไม่ว่าจะเป็น สนามซ้อมภายในสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติฯ, สนามในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี, สนามเทศบาลจังหวัดนครราชสีมา และสนามฟุตบอลอำเภอปักธงชัย ซึ่งถือว่าสะดวกสบายต่อเจ้าหน้าที่และนักฟุตบอลของแต่ละทีม เพราะเราสามารถรับส่งให้ถึงสนามซ้อมภายในเวลาแค่ 15 นาที ส่วนสนามแข่งก็ห่างจากที่พักใช้เวลาเดินทางแค่ 10 นาทีก็ถึง นอกจากนี้เรายังจัดเตรียมหน่วยแพทย์และพยาบาล รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร เพื่อดูแลด้านความปลอดภัยเอาไว้ด้วย" ประธานจัดการแข่งขันเผย

ด้าน นายวรวีร์ มะกูดี กล่าวเช่นกัน "ฟุตบอลคิงส์คัพมีประวัติยาวนานกว่า 40 ปี เป็นรายการที่เกิดจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นับว่าเป็นรายการฟุตบอลที่มีเกียรติอย่างสูงสุด ส่วนการมาจัดที่โคราชจะทำให้แฟนลูกหนังชาวอีสานได้สัมผัสและชมเกมระดับนานาชาติอย่างใกล้ชิด ส่วนเป้าหมายของเราะพยายามรักษาถ้วยพระราชทานให้อยู่ในเมืองไทยให้ได้ รายการนี้ถือเป็นการทดสอบมาตรฐานของฟุตบอลไทยที่จะได้เตะกับทีมระดับนานาชาติ ทั้งยังเป็นการเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างชาติที่มาเข้าร่วมด้วย ส่วนผู้ตัดสินจะใช้เชิ้ตดำจากชาติเป็นกลางเป็นหลัก"

นอกจากนี้ฝ่ายจัดการแข่งขันฯ ยังยืนยันกับทีมข่าว MGR Sport ว่าตอนนี้ เกอร์เซกอร์ซ ลาโต อดีตนักหัวหอกทีมชาติโปแลนด์ ชุดคว้าอันดับ 3 ฟุตบอลโลก เมื่อปี 1974 ที่เยอรมันตะวันตก ซึ่งปัจจุบันนั่งเป็นนายกสมาคมฯ จะนำทีมชุดใหญ่มาเตะคิงส์คัพ ขณะที่ เดนมาร์ก เผยในเบื้องต้นว่าทีมจะนำเอานักเตะชุดที่เตรียมความพร้อมสำหรับสู้ศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่แอฟริกาใต้ ช่วงกลางปีนี้ มาแข่งเพื่อเป็นการเตรียมทีมด้วย ด้านของ สิงคโปร์ จะขนชุดที่ดีที่สุดมาเยือนไทยเช่นกัน

โปรแกรมฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์คัพ ครั้งที่ 40

วันอาทิตย์ที่ 17 ม.ค.
เดนมาร์ก - โปแลนด์ เวลา 16.00 น.
ไทย - สิงคโปร์ เวลา 18.30 น.

วันพุธที่ 20 ม.ค.
สิงคโปร์ - เดนมาร์ก เวลา 16.00 น.
ไทย - โปแลนด์ เวลา 18.30 น.

วันเสาร์ที่ 23 ม.ค.
โปแลนด์ - สิงคโปร์ เวลา 16.00 น.
ไทย - เดนมาร์ก เวลา 18.30 น.

(หมายเหตุ : ทุกนัดที่ทีมชาติไทยลงสนามจะมีการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 7)
แข้ง โคนม เตรียมพร้อมไปบอลโลก
ขุนพล โปล ชุดใหญ่ขอโชว์ฝีแข้ง
นายบัญชา, นายสุวัจน์, นายวรวีร์ และ นายองอาจ (ซ้ายไปขวา) ร่วมแถลงข่าวฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 34
กำลังโหลดความคิดเห็น