ASTVผู้จัดการรายวัน - หลังเปลวไฟในคบเพลิงซีเกมส์ ครั้งที่ 25 "เวียงจันทน์เกมส์" คุโชนในสนามกีฬาแห่งชาติ กม.16 ก่อนจะดับลงในวันที่ 18 ธันวาคมนี้ พร้อมการส่งมอบธงซีเกมส์ให้กับ อินโดนีเซีย เจ้าภาพในอีก 2 ปีข้างหน้า ตามด้วยการแสดงอลังการซึ่งทางการลาวเตรียมไว้สร้างความประทับใจให้แก่แขกบ้านแขกเมืองเป็นการส่งท้าย
ทีมข่าว MGR Sport ล้วงลึกถึงรายละเอียดในพิธีปิดการแข่งขันในครั้งนี้ ก่อนงานจริงจะเริ่มต้นขึ้นในเวลา 17.30 น. วันนี้ (18 ธ.ค.) ท่ามกลางผู้ชมเต็มสนามกว่าสองหมื่นชีวิต ซึ่งพิธีปิดจะเริ่มต้นด้วยการขับขานบทเพลงโดยศิลปินจาก 10 ชาติอาเซียนไล่ตามลำดับตัวอักษรภาษาอังกฤษ ซึ่ง ปาน ธนพร นักร้องสาวชื่อดังได้เป็นตัวแทนจากประเทศไทยร่วมขับร้องเป็นคนที่ 8 ในเพลงที่มีชื่อว่า "ใจนำทาง" ก่อนที่นักร้องลาว อาทิ สิดทิพอน แซม มะลิ และ ปุ้ย จะก้าวออกมาร้องเพลง "สามัคคีซีเกมส์" เป็นการปิดท้าย ก่อนมีการดับไฟประจำการแข่งขันในกระถางคบเพลิงพร้อมเชิญธงชาติลาวและธงซีเกมส์ ลงจากยอดเสาเพื่อมอบให้กับตัวแทนจาก อินโดนีเซีย เจ้าภาพครั้งต่อไป
ในส่วนของการแสดง ทางการลาวให้เกียรติ อินโดนีเซีย เริ่มต้นก่อนเป็นชุดแรก ซึ่ง นายเดนนี มาลิก นายกเทศมนตรีเมือง "ปาเลมบัง" นครหลวงของจังหวัด เซาธ์ สุมาตรา ในฐานะเจ้าภาพซีเกมส์ครั้งที่ 26 เปิดเผยว่า "ปาเลมบัง ถือเป็นศูนย์กลางของ อาณาจักร ศรีวิชัย ซึ่งรุ่งเรืองระหว่างศตวรรษที่ 7-13 แผ่อาณาเขตกว้างใหญ่ตั้งแต่เกาะชวา สุมาตรา แหลมมลายู จนถึงไทยและลาวในปัจจุบัน ดังนั้นการแสดงจะเป็นการผสานวัฒนธรรมร่วมสมัยของชาวศรีวิชัย เข้ากับศิลปะสมัยใหม่เพื่อแสดงให้ชาวโลกเห็นถึงความสวยงามของอารยะธรรมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของพวกเราทุกคน"
จากนั้นทางการลาวมีการแสดงอีก 4 ชุด เป็นการสะท้อนเอกลักษณ์ความเป็นชาติ เริ่มจากชุดแรก "บทฟ้อนม้างเครือเขากาด (The Destruction of Khao Kat Vine) บอกเล่าตำนานล้านช้าง ซึ่งเชื่อว่าโลกมนุษย์นั้นเคยตกอยู่ภายใต้ความมืดมิดเนื่องจากถูกเถาวัลย์ "เขากาด" บดบังแสงอาทิตย์ซึ่งส่องมาจากสรวงสวรรค์ ทว่าในที่สุด ปู่เยอ ย่าเยอ และ สิงห์คำ ผู้มีบุญทั้งสามจะฝ่าภยันตรายขึ้นไปตัดเครือไม้ดังกล่าวนำแสดงสว่างและความสุขมาสู่ชาวโลกจนถึงทุกวันนี้
ต่อมาเป็นการแสดงชุด "บทฟ้อนบุญปีใหม่บ้านเรา" สะท้อนภาพของปีใหม่ลาวในแบบฉบับเดียวกับประเพณีสงกรานต์ไทย ซึ่ง หนุ่มสาวจะออกมาทำบุญเพื่อเป็นศิริมงคลให้ชีวิต ก่อนใช้กระบอกไม้ไผ่เล่นสาดน้ำใส่กันอย่างสนุกสนานรื่นเริง ต่อด้วย "บทฟ้อนบุญบั้งไฟ" ซึ่งแสดงถึงความเชื่อของชาวลาวในการอำลาฤดูแล้งพร้อมเริ่มต้นฤดูเพาะปลูกด้วยการยิงบั้งไฟขึ้นสู่ท้องฟ้าเพื่อขอพรให้ "พระยาแถน" ทรงบันดาลให้ฝนตกลงมาสร้างความชุ่มชืนให้ผืนดิน
พอจบฤดูฝนของชาวลาวก็จะเข้าสู่ฤดูเก็บเกี่ยวในการแสดงที่ชื่อว่า "บทฟ้อนแห่ส่งเรือ" บรรยายภาพของเทศกาลแข่งเรือยาวอันเลื่องชื่อ ซึ่งมีประวัติความเป็นมานับร้อยปี เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองให้กับทุ่งนาทั่วทั้งแผ่นดินลาวที่เต็มไปด้วยต้นข้าวออกรวงสีทองพร้อมเก็บเกี่ยวอีกครั้ง
หลังจบการแสดงเกี่ยวกับศิลปะ วัฒนธรรม และ ประเพณี เรียบร้อยแล้ว พิธีปิดการแข่งขัน "เวียงจันทน์เกมส์" ส่งท้ายด้วยการแสดงชุด "มิตรภาพฝังลึกในดวงใจ" ซึ่งเป็นการร่วมเต้นรำระหว่างหนุ่มสาวลาวและ อินโดนีเซีย เพื่อถ่ายทอดความรัก มิตรภาพให้แก่กันด้วยความยินดีปรีดา ซึ่งถึงแม้ไฟศักดิ์สิทธิ์ประจำการแข่งขัน ซีเกมส์ ครั้งที่ 25 จะดับลงไปแล้ว หากแต่ความสามัคคีและความเข้าใจที่ประชาคมอาเซียนและติมอร์ เลสเต กว่าห้าร้อยล้านคนจะยังคงอยู่ตลอดไป พร้อมรอคอยการกลับมาพบกันใหม่อีกครั้งในการแข่งขัน ซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ปี 2011 ณ เมือง ปาเลมบัง สาธารณรัฐ อินโดนีเซีย