ขุนพลเสื้อกล้ามทีมชาติไทยคว้าเหรียญเงินมาคล้องคออย่างน้อย 3 เหรียญเป็นที่แน่นอนแล้ว หลังแก้ว พงษ์ประยูร ,สายลม อาดี, และอภิเชษฐ์ แสนสิทธิ์ พาเหรดคว้าชัยชนะในรอบรองชนะเลิศได้ทั้งหมด ในศึกมวยสากลสมัครเล่นกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 25 เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา
ที่โอลิมปิก ยิมเนเซียม ภายในมหาวิทยาลัยแห่งชาติลาว เป็นวันที่ 3 ของมวยสากลสมัครเล่นของศึกเวียงจันทน์เกมส์ 2009 โดยขุนพลเสื้อกล้ามทีมชาติไทย มีคิวขึ้นทั้งหมด 3 รุ่น ไล่ตั้งแต่ 48 กิโลกรัมชาย ,60 กิโลกรัมชาย, และ 69 กิโลกรัมชาย
คู่แรกเป็นการชกในรุ่น 48 กิโลกรัมชาย แก้ว พงษ์ประยูร ขึ้นเวทีในรอบรองชนะเลิศ พบกับ อบิลิโอ ดอส ซานโตส กำปั้นติมอร์ เลสเต ซึ่งนักชกไทยอาศัยชั้นเชิงที่เหนือกว่า ดักชกทำแต้มออกนำถึง 8-0 ในยกที่ 1 ก่อนจะทำแต้มชนะไปขาดลอย 18-2 หมัดเมื่อหมดยก 3 ผ่านเข้าไปชิงเหรียญทองกับ แฮร์รี ทานามอร์ กระดูกชิ้นโตจากฟิลิปปินส์ในวันที่ 17 ธ.ค.นี้
โดยแก้วเผยหลังชมการชกที่ ทานามอร์ เอาชนะ นักมวยเมียนมาร์ 12-4 ว่า "ไฟต์แรกของผมถือว่าโอเค ชกได้ตามแผนที่วางวางไว้ ส่วนนัดชิงที่ต้องเจอทานามอร์ได้ลุ้นกันสนุกแน่นอน เพราะเราทั้งคู่เป็นมวยต่างสไตล์ ก็อยากให้แฟนมวยชาวไทยส่งแรงใจมาเชียร์เยอะๆในวันชิงเหรียญทอง"
คู่ต่อมาของนักชกไทยเป็นการขึ้นเวทีในรุ่น 60 กิโลกรัมชายรอบรองชนะเลิศ ของสายลม อาดี ที่ถูกจับมาเจอกับ คุนทะวีสัก มนบุดสะดี กำปั้นเจ้าภาพ ซึ่งผลปรากฎว่าสายลมจังหวะออกหมัดแล้วถอยหนีทำแต้มชนะกำปั้นลาวไป 10-1 หมัด ผ่านเข้าไปชิงเหรียญทองกับ เพียว เมียว คิน จากเมียนมาร์
หลังทะลุเข้าไปชิงเหรียญทอง สายลม เผยว่า "วันนี้ถือว่าเป็นการซ้อมใหญ่ ยังไม่ได้ออกอาวุธเต็มที่ แต่ก็ยังคงสไตล์การชกของตัวเองเอาไว้ ส่วนนัดชิงที่จะเจอกับเมียนมาร์ตามฟอร์มแล้วไม่น่ามีปัญหา ซึ่งผมจะไม่ประมาทแน่นอน และขอสัญญาว่าจะนำเหรียญทองไปฝากพ่อแม่, แฟน และคนไทยทุกคน"
ปิดท้ายกันด้วยการชกในรุ่น 69 กิโลกรัมชาย อภิเชษฐ์ แสนสิทธิ์ นักชกดาวรุ่ง ขึ้นเวทีในรอบรองชนะเลิศ พบกับ ตรัง ดิน ฮฮง จากเวียดนาม ซึ่งอภิเชษฐ์ ไม่ทำให้แฟนๆชาวไทยผิดหวัง ต้อนเอาชนะนักชกเวียดนามขาดลอย 11-1 หมัด ผ่านเข้าไปชิงเหรียญทองเป็นรุ่นที่ 3 ของทีมมวยไทย โดยจะไปพบ จันทะจอน แก้วอุดร นักชกเจ้าถิ่นที่ชนะเขมร (ในวันที่ 17 ธ.ค.นี้) ต่อไป
สำหรับมวยสากลสมัครเล่น ในเวียงจันทน์เกมส์ 2009 วันพรุ่งนี้ (14 ธ.ค.) จะเป็นการชกในประเภทหญิง ซึ่งกำปั้นสาวไทยมีคิวชกทั้ง 4 คนได้แก่ เดือนนภา งามล้ำ รุ่น 48 กิโลกรัม ,โสภิดา สะทุมรัมย์ รุ่น 51 กิโลกรัม ,ทัศมาลี ทองจันทร์ รุ่น 57 กิโลกรัม และเปี่ยมวิไล เล่าเปี่ยม ในรุ่น 59 กิโลกรัม ทั้งหมดเป็นการชกในรอบรองชนะเลิศ ซึ่งคู่แรกเริ่มเวลา 14.00 น.
