ตีกอล์ฟโต้ลมหนาว สิงห์ปาร์ค ขอนแก่น

คอลัมน์ Swing On Tour เรื่อง วราพร ปานบุญห้อม

หลังจากได้รับเทียบเชิญให้ไปสัมผัสความท้าทายที่สนามกอล์ฟน้องใหม่ล่าสุดของประเทศไทย “สิงห์ปาร์ค ขอนแก่น กอล์ฟคลับ”ผู้เขียนก็รีบตอบรับทันทีเพราะเหตุผลที่ว่า หนึ่งเป็นสนามกอล์ฟใหม่ล่าสุด สองเป็นต้นแบบ Wetland ที่นำน้ำจากการบำบัดมาใช้ในสนามกอล์ฟ และสามอากาศหนาวมาเยือนพอดี โอกาสดีเช่นนี้หาไม่ได้อีกแล้ว

วันที่ 20 พฤศจิกายน หนุ่ม-สาวทีมงานจากสิงห์คอร์เปอเรชั่น นัดสื่อมวลชนกว่าครึ่งร้อยที่สนามบินสุวรรณภูมิเวลาตีห้า เพื่อเดินทางไปเยือนโครงการของสิงห์ปาร์ค ขอนแก่น อันประกอบด้วยโรงงานผลิตขวดแก้ว โรงงานผลิตเบียร์และน้ำ พื้นที่ชุ่มน้ำเทียม(Wetland) สุดท้ายไฮไลท์เป็นการออกรอบทดสอบสนามสิงห์ปาร์ค ขอนแก่น กอล์ฟคลับ

สนาม “สิงห์ปาร์ค ขอนแก่น กอล์ฟคลับ” เป็นสนามกอล์ฟมาตรฐานระดับแชมเปี้ยนชิพคอร์ส ขนาด 18 หลุม พาร์ 72 ระยะ 7,502 หลา บนเนื้อที่กว่า 500 ไร่ ที่เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “สิงห์ปาร์ค ขอนแก่น” ต้นแบบอุทยานแห่งการอนุรักษ์น้ำ ด้วยความเป็นเลิศแห่งการสร้างสรรค์ภูมิทัศน์ที่งดงาม เน้นการอนุรักษ์ธรรมชาติให้คงไว้ด้วยการไม่ใช้ปุ๋ยเคมี เพื่อสร้างความเป็นหนึ่งเดียวกลมกลืนกับสิ่งแวดล้อม โดยน้ำที่ใช้ดูแลสนามกอล์ฟทั้งหมด เป็นน้ำที่มาจากกระบวนการบำบัดคุณภาพน้ำด้วยวิธีธรรมชาติจากพื้นที่ชุ่มน้ำเทียม(Wetland)โดยไม่รบกวนแหล่งน้ำของท้องถิ่น และยังช่วยให้พืชพรรณเจริญงอกงาม สร้างความเขียวชอุ่มให้กับสนามกอล์ฟได้เป็นอย่างดี

สิงห์ปาร์ค ขอนแก่น กอล์ฟคลับ เปิดเป็นทางการเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2009 ตั้งอยู่ที่ตำบลท่าพระ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น อยู่ห่างจากสนามบินขอนแก่นประมาณ 12 กิโลเมตรหรือขับรถ 20 นาที ออกแบบโดยคุณพิรพน นะมาตร์ ผู้ซึ่งอยู่เบื้องหลังการออกแบบสนามกอล์ฟชื่อดังของไทยหลายๆสนาม อาทิเช่น สันติบุรี สมุย คันทรีคลับ, บางไทร คันทรีคลับ กรีนใช้หญ้าโนโวเทค เบอร์มิวด้า(Novotek Bermuda) ส่วนของแฟร์เวย์และรัฟ เป็นหญ้าซีชอว์ พาสพาลั่ม(Seashore Paspalum)ส่วนของคลับเฮ้าส์ออกแบบบนแนวคิดของวัฒนธรรมแห่งอีสาน ทำให้เกิดเป็นความงดงามผสานไว้ในสถาปัตยกรรม ภายในสนามยังมีไดรวิ่งเร้นจ์ กรีนซ้อมชิพ-พัตต์ ห้องอาหาร ล็อคเกอร์รูม โปรช็อป ราคากรีนฟี วันธรรมดา 1,500 บาท วันหยุด 2,000 บาท ค่าแคดดี้ 220 บาท ค่ารถกอล์ฟ 700 บาท

มาว่ากันในรายละเอียดสนามกันสักนิด แค่ออกไปยืนรอทีไทม์ ก็สัมผัสได้ถึงความหนาวเย็นของอากาศที่อุณหภูมิประมาณ 20 องศาเซลเซียส ประกอบกับลมแรงที่พัดผ่านมาทุกทิศทาง แถมน้องๆแคดดี้อายุการใช้งาน 2 เดือน ขู่ว่าที่นี่มีน้ำเป็นอุปสรรคถึง 17 หลุม เว้นหลุม 10 หลุมเดียวที่ปลอดน้ำ เฮ้อ..เห็นน้ำเป็นตกทุกทีสิเรา จะรอดไหมเนี่ย มองจากภายนอกเห็นสนามราบๆโล่งๆ คงไม่มีอะไรหรอก แต่เมื่อลงเล่นแล้ว ลิงค์คอร์สดีๆนี่เอง

ก๊วนเราออกสตาร์ทที่หลุม 1 พาร์ 4 ด้านขวาน้ำล้วนๆ แถมซ้ายของกรีนมีทั้งน้ำและทราย เล่นไปจนถึงหลุม 4 เก็บพาร์ได้แล้วใจมาเป็นกอง วิวคลับเฮ้าส์ที่สวยอีกมุมหนึ่งคือจากหลังกรีนหลุม 6 ได้มุมมองข้ามน้ำเก๋ไปอีกแบบ อีกมุมก็คือช็อตขึ้นกรีนหลุม 9 เห็นคลับเฮ้าส์เด่นเป็นสง่าทีเดียว ส่วนหลุมที่ประทับใจจนเก็บไปฝันคงจะเป็นหลุม 13 พาร์ 3 ระยะไม่ยาวเท่าไหร่แต่ทีเด็ดอยู่ที่ทวนลมอย่างแรงต้องทดเหล็กถึง 3 เบอร์ แถมกรีนเล็กแล้วยกสูง ด้านหน้าหญ้าตัดเรียบ ใครตีไม่ออนไหลลงหน้ากรีนหมด หรือใครตีเลยไปหลังก็ใช่ว่าจะกลับบ้านถูก สะใจจริงๆกับหลุมนี้ ส่วนหลุมเอกลักษณ์ หรือซิกเนเจอร์ โฮล ก็คือหลุม 14 พาร์ 4 ซึ่งเป็นหลุมสวยที่สุดหลุมหนึ่งที่ปรากฏในสกอร์การ์ด และโบรชัวร์ของสนาม ด้วยความที่ด้านขวาขนานด้วยเลค แฟร์เวย์มีลักษณะเป็นหน้าผา หากหลุดลงไปจะมีรัฟและทรายดักไว้ กรีนยกสูง มีสองลอนเทลงน้ำด้านขวา แค่เห็นก็โอ้โห..แล้ว

เอกลักษณ์ของสิงห์ปาร์ค ขอนแก่น กอล์ฟคลับ อยู่ตรงการปั้นกรีนให้ยกสูงขึ้น บวกด้วยลอนและสโลป แถมมีทรายอยู่รอบกรีน เพิ่มความยากด้วยกระแสลมเข้าไปอีก เล่นสนุกอย่าบอกใคร โดยเฉพาะในช่วงนี้อากาศเป็นใจ อยากเชิญชวนคอกอล์ฟทุกเพศทุกวัยไปตีกอล์ฟโต้ลมหนาวกันที่สิงห์ปาร์ค ขอนแก่น กอล์ฟคลับ สุดท้ายขอขอบคุณสิงห์ คอร์เปอเรชั่น ที่มิได้มุ่งมั่นพัฒนาความก้าวหน้าทางธุรกิจอย่างเดียว แต่ดำเนินธุรกิจด้วยจิตสำนึกห่วงใยต่อสิ่งแวดล้อม และธรรมชาติตลอด 7 ทศวรรษที่ผ่านมา ดังคำพูดที่ว่า “เพราะเราเชื่อว่าการให้ที่ยิ่งใหญ่ คือการให้ที่ไม่มีวันสิ้นสุด”