คอลัมน์ "หัวใจในกีฬา" โดย จำลอง ฝั่งชลจิตร
เกมเพลย์ออฟระหว่างฝรั่งเศสกับไอร์แลนด์ เมื่อ 18 พฤศจิกายน 2552 เธียร์รี่ อองรี ใช้มือกับท่อนแขนซ้ายเปิดบอลให้วิลเลี่ยม กัลล่าส์ โขกจ่อๆ เข้าประตูพาฝรั่งเศสเข้ารอบฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายด้วยสกอร์ 2-1 อย่างน่าละอาย
เป็นเกมที่มีการวิพากษ์วิจารณ์มากที่สุดจากคนในวงการฟุตบอล ผู้นำสองชาติที่ผลประโยชน์เกี่ยวข้องโดยตรง และอาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญให้แก่วงการฟุตบอล
ฟาบิโอ คันนาวาโร่ กัปตันทีมชาติอิตาลีชุดแชมป์โลก ปี 2006 ตำหนิว่าตรงๆว่า อองรีไม่ควรแสดงอาการดีใจหลังได้ประตู
เอริค คันโตน่า ดาวยิงเลือดน้ำหอมอดีต กัปตันทีม “ปิศาจแดง” ไม่ยอมรับพฤติกรรมตีสองหน้าของนักเตะรุ่นน้อง ที่กล้าไปพูดคุยกับนักเตะไอร์แลนด์หลังจบเกม คันโตน่าว่าถ้าเป็นเขาอองรีอาจเจ็บตัว
เดวิด เบ็คแฮม ออกมารับประกันว่าสนิทกับอองรี ทั้งยืนยันว่าเป็นคนดี เขาเข้าใจสิ่งที่อองรีกระทำลงไป
ไบรอัน โคเว่น นายกรัฐมนตรีไอร์แลนด์ ขอร้องฟีฟ่าให้จัดแข่งขันกันใหม่ ต่อมา ฟรองซัวส์ ฟียง นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส ตำหนิรัฐบาลไอร์แลนด์ว่าไม่ควรเข้ามาแทรกแซงการตัดสินในวงการฟุตบอล
ทว่า ฟีฟ่าเจ้าภาพฟุตบอลโลก ซึ่งเป็นทัวร์นาเม้นต์โกยเงินยังวางเฉย สมาคมฟุตบอลชาติต่างๆ ปิดปากเงียบเหมือนถูกควบคุมเบ็ดเสร็จ เพราะเชื่อว่าฟีฟ่าจะไม่ยอมเสียบทบาทกำกับบงการวงการลูกหนังโลก แล้วอดีตแชมป์โลกฝรั่งเศสก็สามารถเรียกแขกได้มากกว่าไอร์แลนด์ พูดง่ายๆ ก็คือ ฝรั่งเศสมีมูลค่าการตลาดมากกว่าไอร์แลนด์
จุดที่ควรจับตาก็คือตัวเธียร์รี่ อองรี หลังทบทวนสิ่งที่กระทำลงไป เขาออกมายอมรับผิด กล่าวขอโทษและเรียกร้องให้ฟีฟ่าจัดแข่งขันใหม่ให้ขาวสะอาด
อองรีอาจสำนึกได้ภายหลังว่าเขาเป็นพรีเซนเตอร์ของผลิตภัณฑ์สำหรับลูกผู้ชายยี่ห้อยิลเล็ตต์สปอนเซอร์หลักของฟุตบอลโลก ไม่ว่าทีมฝรั่งเศสจะมีหรือไม่มีตัวเขาที่แอฟริกาใต้ ผู้ที่เสียประโยชน์และกระอักกระอ่วนใจก็คือยิลเล็ตต์ เพราะว่าแฟนบอลที่รักความยุติธรรมและมีหนวดเคราเริ่มรังเกียจทีมฝรั่งเศสแล้ว พวกเขาจะรวมใจเชียร์ทีมตรงกันข้ามทุกเกมที่ฝรั่งเศสลงสนาม
พ่อค้าแข้งที่มีรายได้จากภาพลักษณ์จำนวนมหาศาลต่อปีอย่างเบ็คแฮม มองเห็นทุกข์สภาวะที่เกิดกับอองรีอย่างลึกซึ้ง จึงรีบแสดงความเข้าใจและเห็นใจในฐานะพรีเซนเตอร์ทีมเป๊ปซี่ด้วยกัน
เราไม่อาจล่วงรู้ว่าฟีฟ่ากับยิลเล็ตต์คุยนอกรอบกันหรือไม่ แต่ยิลเล็ตต์อาจหารือกับอองรีบ้างแล้ว
ผมคิดฟุ้งซ่านไปว่าการให้ทีมฝรั่งเศสขาดอองรียากเย็นกว่ายิลเล็ตต์เปลี่ยนพรีเซนเตอร์
ถ้ามีการเปลี่ยนตัวจริงๆ ยิลเล็ตต์จะหาใครมายืนเคียงข้างโรเจอร์ เฟดเดอร์เรอร์กับไทเกอร์ วู้ด ได้อย่างเหมาะสม ผมคิดฟุ้งซ่านไปว่าเบ็คแฮมจะได้บทนี้ เพราะเขาสอดเข้ามาช่วยอองรีในช่วงเวลาเหมาะเหม็ง (Margeting Time) ช่วงนี้เขาไว้เครายาวราวประธานาธิบดีอับราฮัม ลินคอล์น อยู่พอดิบพอดี และภาพลักษณ์กินกว้างทั้งฟากแอตแลนติกและแปซิฟิก
เชื่อมโยงต่อไปอีกว่า ท่าที่ของเบ็คแฮมต่ออองรีช่วยผ่อนเบาให้ฟีฟ่าไม่มากก็น้อย ทั้งๆ เขาควรจะอยู่ข้างประเทศในเครือสหราชอาณาจักรอย่างไอร์แลนด์ด้วยซ้ำ แต่เขากำลังมีบทบาทเป็นตัวแทนรณรงค์ให้อังกฤษเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกอีกครั้ง
ผมก็แค่คิดฟุ้งซ่าน
เกมเพลย์ออฟระหว่างฝรั่งเศสกับไอร์แลนด์ เมื่อ 18 พฤศจิกายน 2552 เธียร์รี่ อองรี ใช้มือกับท่อนแขนซ้ายเปิดบอลให้วิลเลี่ยม กัลล่าส์ โขกจ่อๆ เข้าประตูพาฝรั่งเศสเข้ารอบฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายด้วยสกอร์ 2-1 อย่างน่าละอาย
เป็นเกมที่มีการวิพากษ์วิจารณ์มากที่สุดจากคนในวงการฟุตบอล ผู้นำสองชาติที่ผลประโยชน์เกี่ยวข้องโดยตรง และอาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญให้แก่วงการฟุตบอล
ฟาบิโอ คันนาวาโร่ กัปตันทีมชาติอิตาลีชุดแชมป์โลก ปี 2006 ตำหนิว่าตรงๆว่า อองรีไม่ควรแสดงอาการดีใจหลังได้ประตู
เอริค คันโตน่า ดาวยิงเลือดน้ำหอมอดีต กัปตันทีม “ปิศาจแดง” ไม่ยอมรับพฤติกรรมตีสองหน้าของนักเตะรุ่นน้อง ที่กล้าไปพูดคุยกับนักเตะไอร์แลนด์หลังจบเกม คันโตน่าว่าถ้าเป็นเขาอองรีอาจเจ็บตัว
เดวิด เบ็คแฮม ออกมารับประกันว่าสนิทกับอองรี ทั้งยืนยันว่าเป็นคนดี เขาเข้าใจสิ่งที่อองรีกระทำลงไป
ไบรอัน โคเว่น นายกรัฐมนตรีไอร์แลนด์ ขอร้องฟีฟ่าให้จัดแข่งขันกันใหม่ ต่อมา ฟรองซัวส์ ฟียง นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส ตำหนิรัฐบาลไอร์แลนด์ว่าไม่ควรเข้ามาแทรกแซงการตัดสินในวงการฟุตบอล
ทว่า ฟีฟ่าเจ้าภาพฟุตบอลโลก ซึ่งเป็นทัวร์นาเม้นต์โกยเงินยังวางเฉย สมาคมฟุตบอลชาติต่างๆ ปิดปากเงียบเหมือนถูกควบคุมเบ็ดเสร็จ เพราะเชื่อว่าฟีฟ่าจะไม่ยอมเสียบทบาทกำกับบงการวงการลูกหนังโลก แล้วอดีตแชมป์โลกฝรั่งเศสก็สามารถเรียกแขกได้มากกว่าไอร์แลนด์ พูดง่ายๆ ก็คือ ฝรั่งเศสมีมูลค่าการตลาดมากกว่าไอร์แลนด์
จุดที่ควรจับตาก็คือตัวเธียร์รี่ อองรี หลังทบทวนสิ่งที่กระทำลงไป เขาออกมายอมรับผิด กล่าวขอโทษและเรียกร้องให้ฟีฟ่าจัดแข่งขันใหม่ให้ขาวสะอาด
อองรีอาจสำนึกได้ภายหลังว่าเขาเป็นพรีเซนเตอร์ของผลิตภัณฑ์สำหรับลูกผู้ชายยี่ห้อยิลเล็ตต์สปอนเซอร์หลักของฟุตบอลโลก ไม่ว่าทีมฝรั่งเศสจะมีหรือไม่มีตัวเขาที่แอฟริกาใต้ ผู้ที่เสียประโยชน์และกระอักกระอ่วนใจก็คือยิลเล็ตต์ เพราะว่าแฟนบอลที่รักความยุติธรรมและมีหนวดเคราเริ่มรังเกียจทีมฝรั่งเศสแล้ว พวกเขาจะรวมใจเชียร์ทีมตรงกันข้ามทุกเกมที่ฝรั่งเศสลงสนาม
พ่อค้าแข้งที่มีรายได้จากภาพลักษณ์จำนวนมหาศาลต่อปีอย่างเบ็คแฮม มองเห็นทุกข์สภาวะที่เกิดกับอองรีอย่างลึกซึ้ง จึงรีบแสดงความเข้าใจและเห็นใจในฐานะพรีเซนเตอร์ทีมเป๊ปซี่ด้วยกัน
เราไม่อาจล่วงรู้ว่าฟีฟ่ากับยิลเล็ตต์คุยนอกรอบกันหรือไม่ แต่ยิลเล็ตต์อาจหารือกับอองรีบ้างแล้ว
ผมคิดฟุ้งซ่านไปว่าการให้ทีมฝรั่งเศสขาดอองรียากเย็นกว่ายิลเล็ตต์เปลี่ยนพรีเซนเตอร์
ถ้ามีการเปลี่ยนตัวจริงๆ ยิลเล็ตต์จะหาใครมายืนเคียงข้างโรเจอร์ เฟดเดอร์เรอร์กับไทเกอร์ วู้ด ได้อย่างเหมาะสม ผมคิดฟุ้งซ่านไปว่าเบ็คแฮมจะได้บทนี้ เพราะเขาสอดเข้ามาช่วยอองรีในช่วงเวลาเหมาะเหม็ง (Margeting Time) ช่วงนี้เขาไว้เครายาวราวประธานาธิบดีอับราฮัม ลินคอล์น อยู่พอดิบพอดี และภาพลักษณ์กินกว้างทั้งฟากแอตแลนติกและแปซิฟิก
เชื่อมโยงต่อไปอีกว่า ท่าที่ของเบ็คแฮมต่ออองรีช่วยผ่อนเบาให้ฟีฟ่าไม่มากก็น้อย ทั้งๆ เขาควรจะอยู่ข้างประเทศในเครือสหราชอาณาจักรอย่างไอร์แลนด์ด้วยซ้ำ แต่เขากำลังมีบทบาทเป็นตัวแทนรณรงค์ให้อังกฤษเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกอีกครั้ง
ผมก็แค่คิดฟุ้งซ่าน
