ราฟาเอล เบนิเตซ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล เสียดายทีมมีโอกาสยิงประตูอย่างมากมาย แต่ไม่สามารถเอาชนะ เบอร์มิงแฮม โดยทำได้เพียงไล่ตีเสมอ 2-2 จากลูกจุดโทษปัญหาซึ่งทางฝั่ง "ลูกโลก" ออกมาตำหนิ ดาวิด เอ็นกอก ดาวยิง "หงส์แดง" ที่พุ่งล้มตบตากรรมการ
เมื่อวันจันทร์ที่ 9 พ.ย. ในการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟิลด์ทำได้เพียงไล่ตีเสมอ เบอร์มิงแฮม 2-2 จากลูกจุดโทษปัญหาของ สตีเวน เจอร์ราร์ด ในนาที 71 ซึ่งได้มาจากจังหวะที่ดูเหมือนว่า เอ็นกอก ถูก ลี คาร์สลีย์ ผู้เล่นทีมเยือนเสียบล้มลง แต่จากภาพช้ากลับพบว่าเป็นการตบตาของดาวยิงชาวฝรั่งเศส
หลังจบเกม เบนิเตซ ยอมรับว่าจังหวะดังกล่าวไม่สมควรเป็นจุดโทษ แต่คิดว่า ลิเวอร์พูล น่าจะเป็นฝ่ายชนะเพราะครองบอลเหนือกว่าและมีโอกาสยิงประตูอย่างมากมาย "ผมได้พูดกับ เอ็นกอก และเขาบอกว่ามันก็ไม่สมควรเป็นจุดโทษ แต่สิ่งที่ผมอยากจะบอกคือเราครองบอลได้มากกว่าถึง 74 เปอร์เซนต์ในครึ่งแรกและมีโอกาสทำประตูอย่างมากมาย มันน่าเหลือเชื่อมากที่เราทำได้เพียงเสมอในเกมนี้"
กุนซือชาวสเปนปฏิเสธที่จะกล่าวถึงโอกาสคว้าแชมป์ลีกของ "หงส์แดง" ซึ่งตอนนี้มีคะแนนตามหลัง เชลซี จ่าฝูงห่าง 11 แต้ม แต่กล่าวว่าทีมจะพยายามทำงานอย่างหนักต่อไป "เราจำเป็นต้องพร้อมสำหรับเกมถัดไปแค่นั้นเอง พยายามเล่นให้ดีเหมือนวันนี้และแสดงให้เห็นถึงบุคลิกของทีม ในเกมนี้คุณสามารถเห็นถึงความเชื่อมั่นของนักเตะและนั้นเป็นสัญญาณที่จะส่งไปถึงทุกทีมว่าเรากำลังทำงานอย่างหนักและหลายสิ่งหลายกำลังเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี"
ขณะที่ฝั่ง เบอร์มิงแฮม ไม่พอใจการพุ่งล้มตบตาของ เอ็นกอก จนทีมพลาดโอกาสเก็บชัยชนะในเกมนี้ โดย คาร์สลีย์ ซึ่งมีส่วนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกล่าวว่า "มันเป็นเรื่องตลก ผมไม่ได้เฉียดตัวเขาสักนิด ผมพูดกับกรรมการให้จดชื่อผมหรือไล่ออกไปเลยจะรู้สึกดีเสียกว่า ผมคิดว่ากรณีนี้เป็นการหลอกลวงที่น่าอาย แต่เขาตบตาได้สำเร็จและทำให้ทีมได้คะแนน ดังนั้นผมมั่นใจว่าบรรดาเพื่อนร่วมทีมจะตบหลังเขาเพื่อเป็นการขอบคุณ"
ส่วน อเล็กซ์ แม็คลีซ กุนซือ "ลูกโลก" กล่าวว่า "ลูกจุดโทษที่เกิดขึ้นเป็นความน่าอับอายสำหรับเกมนี้ เขาตบตาผู้ตัดสินและทำให้ทีมได้จุดโทษ ปีเตอร์ วอลตัน เป็นผู้ตัดสินที่ดี แต่เขาทำผิดพลาดในครั้งนี้ หากมันไม่เป็นจุดโทษ ผมคิดว่าเราจะกลับออกมาด้วยชัยชนะ"
