เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ออกโรงก่นแข้ง “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โชว์ฟอร์มห่วย โดยเฉพาะครึ่งแรกของเกมแดงเดือดที่บุกพ่าย “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล 0-2 ขณะที่ ราฟาเอล เบนิเตซ ยิ้มออก เสี่ยงส่ง เฟร์นานโด ตอร์เรส ลงไปเล่นและก็ได้ผล
ลิเวอร์พูล หยุดสถิติปราชัยทุกรายการไว้แค่ 4 นัดติด หลังเปิดแอนฟิลด์ ถลุงเอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด คู่ปรับตลอดกาล 2-0 ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่บิ๊กแมตช์ประจำคืนวันอาทิตย์ โดยเจ้าถิ่นได้ประตูจาก เฟร์นานโด ตอร์เรส และ ดาวิด เอ็นก็อก ขณะที่ช่วงท้ายเกมทั้งสองฝ่ายเหลือผู้เล่น 10 คน เมื่อ เนมันยา วิดิช กับ ฮาเวียร์ มาสเชราโน ต่างก็โดนใบเหลือง-แดงไล่ออกจากสนาม
ภายหลังการแข่งขัน เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ออกมาบ่นผ่านสื่อเมืองผู้ดี “มันน่าผิดหวังยิ่งกับฟอร์มของเราในครึ่งแรก เราไม่สามารถรับมือกับบรรยากาศการแข่งขันได้ วันนี้ ลิเวอร์พูล เป็นทีมที่เหนือกว่า สร้างสรรค์โอกาสได้ดีกว่า และก็คู่ควรกับชัยชนะ”
อย่างไรก็ตาม บรมกุนซือชาวสกอตติช ไม่ลืมจวกการทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน อังเดร มาร์ริเนอร์ “ผมคิดว่าบรรยากาศในเกมส่งผลกับผู้เล่น รวมถึงผู้ตัดสินด้วย มีความผิดพลาดมากมายหลายจังหวะ ใบเหลืองของ วิดิช มันแย่ที่สุด แม้จะเป็นการฟาล์วชัดเจน แต่ผู้ตัดสินโดนบรรยากาศกดดันจนพาไป อีกทั้งจังหวะที่ (เจมี) คาร์ราเกอร์ สกัด ไมเคิล โอเวน ล้มลง ซึ่งตามกฎแล้วเป็นการทำโปรเฟสชันแนลฟาล์ว คาร์ราเกอร์ ควรโดนไล่ออก แต่เพราะเขาเป็นกัปตันทีมหรือเปล่า มันทำให้ผู้ตัดสินเจอกับแรงกดดัน นี่ยังรวมถึงครั้งที่ คาร์ราเกอร์ เข้าสกัด ไมเคิล คาร์ริค ถ้าเป็นนอกกรอบโทษเราต้องได้ฟรีคิก คาร์ราเกอร์ ควรได้ใบเหลือง แต่เมื่อมันอยู่ในกรอบโทษ ผู้ตัดสินอยู่ห่างแค่ 6 หลา เรากลับไม่ได้อะไรเลย มันเป็นการตัดสินแย่ที่สุด”
ด้าน ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือ “หงส์แดง” ซึ่งยกภูเขาออกจากอก เผยบ้าง “เมื่อช่วงเช้าผมยังต้องตัดสินใจว่า เฟร์นานโด (ตอร์เรส) จะลงเล่นตัวจริงหรือรอการเปลี่ยนตัวอยู่ขอบสนาม ผมพูดกับนักเตะและก็ตัดสินใจส่งเขาลงเล่น นี่ไม่ใช่การตัดสินใจที่ง่ายเลย เพราะ เฟร์นานโด ไม่ได้ฝึกซ้อมเช่นเดียวกับ สตีเวน เจอร์ราร์ด แต่เราก็ตัดสินใจให้เขาลงตัวจริง แม้ความฟิตไม่ถึง 100 เปอร์เซ็นต์ แต่บางทีแค่ 80 เปอร์เซ็นต์ของ เฟร์นานโด ก็สร้างความแตกต่างได้แล้ว”
ส่วน ตอร์เรส ดาวยิงทีมชาติสเปนกล่าวสั้นๆ เป็นการปิดท้ายกับ “สกาย สปอร์ต” สื่อดังของอังกฤษ “นี่เป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่สำหรับเรา ลิเวอร์พูล ต้องการชนะเพื่ออยู่ในเส้นทางการลุ้นแชมป์ต่อไป”
ลิเวอร์พูล หยุดสถิติปราชัยทุกรายการไว้แค่ 4 นัดติด หลังเปิดแอนฟิลด์ ถลุงเอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด คู่ปรับตลอดกาล 2-0 ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่บิ๊กแมตช์ประจำคืนวันอาทิตย์ โดยเจ้าถิ่นได้ประตูจาก เฟร์นานโด ตอร์เรส และ ดาวิด เอ็นก็อก ขณะที่ช่วงท้ายเกมทั้งสองฝ่ายเหลือผู้เล่น 10 คน เมื่อ เนมันยา วิดิช กับ ฮาเวียร์ มาสเชราโน ต่างก็โดนใบเหลือง-แดงไล่ออกจากสนาม
ภายหลังการแข่งขัน เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ออกมาบ่นผ่านสื่อเมืองผู้ดี “มันน่าผิดหวังยิ่งกับฟอร์มของเราในครึ่งแรก เราไม่สามารถรับมือกับบรรยากาศการแข่งขันได้ วันนี้ ลิเวอร์พูล เป็นทีมที่เหนือกว่า สร้างสรรค์โอกาสได้ดีกว่า และก็คู่ควรกับชัยชนะ”
อย่างไรก็ตาม บรมกุนซือชาวสกอตติช ไม่ลืมจวกการทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน อังเดร มาร์ริเนอร์ “ผมคิดว่าบรรยากาศในเกมส่งผลกับผู้เล่น รวมถึงผู้ตัดสินด้วย มีความผิดพลาดมากมายหลายจังหวะ ใบเหลืองของ วิดิช มันแย่ที่สุด แม้จะเป็นการฟาล์วชัดเจน แต่ผู้ตัดสินโดนบรรยากาศกดดันจนพาไป อีกทั้งจังหวะที่ (เจมี) คาร์ราเกอร์ สกัด ไมเคิล โอเวน ล้มลง ซึ่งตามกฎแล้วเป็นการทำโปรเฟสชันแนลฟาล์ว คาร์ราเกอร์ ควรโดนไล่ออก แต่เพราะเขาเป็นกัปตันทีมหรือเปล่า มันทำให้ผู้ตัดสินเจอกับแรงกดดัน นี่ยังรวมถึงครั้งที่ คาร์ราเกอร์ เข้าสกัด ไมเคิล คาร์ริค ถ้าเป็นนอกกรอบโทษเราต้องได้ฟรีคิก คาร์ราเกอร์ ควรได้ใบเหลือง แต่เมื่อมันอยู่ในกรอบโทษ ผู้ตัดสินอยู่ห่างแค่ 6 หลา เรากลับไม่ได้อะไรเลย มันเป็นการตัดสินแย่ที่สุด”
ด้าน ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือ “หงส์แดง” ซึ่งยกภูเขาออกจากอก เผยบ้าง “เมื่อช่วงเช้าผมยังต้องตัดสินใจว่า เฟร์นานโด (ตอร์เรส) จะลงเล่นตัวจริงหรือรอการเปลี่ยนตัวอยู่ขอบสนาม ผมพูดกับนักเตะและก็ตัดสินใจส่งเขาลงเล่น นี่ไม่ใช่การตัดสินใจที่ง่ายเลย เพราะ เฟร์นานโด ไม่ได้ฝึกซ้อมเช่นเดียวกับ สตีเวน เจอร์ราร์ด แต่เราก็ตัดสินใจให้เขาลงตัวจริง แม้ความฟิตไม่ถึง 100 เปอร์เซ็นต์ แต่บางทีแค่ 80 เปอร์เซ็นต์ของ เฟร์นานโด ก็สร้างความแตกต่างได้แล้ว”
ส่วน ตอร์เรส ดาวยิงทีมชาติสเปนกล่าวสั้นๆ เป็นการปิดท้ายกับ “สกาย สปอร์ต” สื่อดังของอังกฤษ “นี่เป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่สำหรับเรา ลิเวอร์พูล ต้องการชนะเพื่ออยู่ในเส้นทางการลุ้นแชมป์ต่อไป”