xs
xsm
sm
md
lg

"ราฟา" หวังปาฎิหาริย์ "หงส์" พลิกฟ้าลิ่วยูซีแอล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ราฟา หวังปาฎิหาริย์จะเกิดกับหงส์อีกครั้ง
ASTV ผู้จัดการรายวัน - ลิเวอร์พูล อดีตแชมป์ยุโรป 5 สมัยจากเกาะอังกฤษ ตกอยู่ภายใต้สถานการณ์วิกฤติ หลังบุกไปทำได้แค่เสมอกับ โอลิมปิก ลียง 1-1 ถึง สต๊าด เดอ แชร์กล็องด์ รักแชมป์ ลีก เอิง 7 สมัยซ้อนของฝรั่งเศส ในศึก ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัด 4 เมื่อคืนวันพุธที่ 4 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือชาวสแปนิช ยังหวังจะมีปาฎิหาริย์ฉุด "หงส์แดง" เข้ารอบน็อกเอาท์ในอีก 2 นัดที่เหลือ

ลิเวอร์พูล เป็นทีมเดียวจาก พรีเมียร์ชิป อังกฤษ ที่หมิ่นเหม่ต่อการตกรอบ ส่วน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เชลซี และ อาร์เซนอล ต่างคว้าตั๋วไปเล่นรอบน็อกเอาท์ศึกลูกหนังยุโรปถ้วยใบใหญ่สุดแน่นอนแล้ว หลัง "หงส์แดง" ทำได้แค่เสมอ ลียง 1-1 ทั้งที่นำก่อนจากลูกยิงไกลอันเฉียบขาดของ ไรอัน บาเบล ปีกตัวสำรองในนาทีที่ 83 แต่นาทีสุดท้าย ลิซานโดร โลเปซ หัวหอกตัวเก่งชาวอาร์เจนไตน์ หลุดไปซัดประตูตีเจ๊าอย่างเจ็บแสบ

หลังเกม เบนิเตซ กุนซือ ลิเวอร์พูล โอดครวญไร้โชคจึงเก็บได้แค่แต้มเดียวเท่านั้นทั้งที่มีโอกาสมากกว่า "โชคร้ายจริงๆ มันน่าผิดหวัง แต่ผมคิดว่านักเตะทุกคนทำงานกันได้ดีแล้ว ก่อนเกมเราประสบปัญหามากมาย ผมคิดว่าปฏิกิริยาของผู้เล่นในวันนี้ถือเป็นเรื่องในแง่บวก เราน่าจะเอาชนะได้ มีโอกาส และก็ทำงานกันอย่างหนัก แต่ก็ดันมาเสียประตูในนาทีสุดท้าย ฟุตบอลมักมีเรื่องให้ประหลาดใจแบบนี้อยู่เสมอ ซึ่งบางครั้งคุณก็ไม่คู่ควรที่จะได้รับมัน"

สำหรับสถานการณ์ของกลุ่ม อี หลังผ่านพ้นการแข่งขัน 4 นัด ลียง จ่าฝูงของกลุ่มเข้ารอบแน่นอนแล้วมี 10 คะแนน แม้แต้มยังไม่ขาดแต่เฮดทูเฮดเหนือกว่า ลิเวอร์พูล ขณะที่ ฟิออเรนตินา รั้งอันดับ 2 มี 9 คะแนน ตามด้วย "หงส์แดง" มี 4 คะแนน และ เดเบรเซน ยังไม่มีแต้ม

เจมี คาร์ราเกอร์ ปราการหลังรองกัปตันทีม ลิเวอร์พูล ยังคงเชื่อมั่นว่า "เรายังเชื่อว่าจะสามารถผ่านเข้าสู่รอบต่อไป แม้รู้ดีว่าจะสาหัสขนาดไหน แต่ว่าตอนนี้เรายังไม่ตกรอบ เราจะคว้าชัย 2 เกมที่เหลือและรอลุ้นว่าอะไรจะเกิดขึ้น เกมนี้น่าผิดหวังมากแต่ผลเสมอก็ไม่ได้หมายความว่าตกรอบ หากมองดูสถิติของกุนซือเราในถ้วยยุโรป เราเข้าชิง, คว้าแชมป์ รวมถึงทะลุรอบรองชนะเลิศ และ ก่อนรองชนะเลิศ มาโดยตลอด ดังนั้นถือว่าสถิติของกุนซือเรายอดเยี่ยมอย่างมาก"

นัดที่ 5 จากนี้ในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้าวันที่ 24 พฤศจิกายน ลิเวอร์พูล ต้องบุกไปชนะ เดเบรเซน ถึง ฮังการี อย่างไรก็ตามถ้า ฟิออเรนตินา เปิด อาร์เตมิโอ ฟรังคี เอาชนะ ลียง ความหวังของ "หงส์แดง" ก็จะสลายในทันที แต่ถ้าผลออกเสมอ ลูกทีมของ เบนิเตซ จะมีลุ้น หากนัดสุดท้ายเปิด แอนฟิลด์ ชนะ "ม่วงมหากาฬ" ได้ด้วยสกอร์ 3-0 หรือมากกว่านั้น เพราะจะทำให้เฮดทูเฮดดีกว่า หลังจากนัดแรกบุกไปพ่ายมา 0-2

ย้อนไปเมื่อฤดูกาล 2004-05 ลิเวอร์พูล เคยสร้างปาฎิหาริย์มาแล้วด้วยการเอาชนะ โอลิมเปียกอส 3-1 ลิ่วรอบ 16 ทีมสุดท้ายด้วยเฮดทูเฮดที่ดีกว่าจากการซัดย้ำชัยของ สตีเวน เจอร์ราร์ด จนกระทั่งก้าวไปคว้าแชมป์ได้สำเร็จในบั้นปลาย ส่วนการตกรอบแบ่งกลุ่มครั้งสุดท้ายของ "หงส์แดง" ต้องย้อนไปในฤดูกาล 2002-03 แม้ 4 นัดแรกจะคว้าถึง 7 แต้ม แต่ทว่า 2 นัดสุดท้ายแพ้ บาเลนเซีย และเสมอ บาเซิล ส่งทั้งคู่เข้ารอบไปแทน
ตอร์เรส ผิดหวังบันดาลประตูไม่ได้
บาเบล (ซ้าย) ยิงไกลสุดสวยพาทีมขึ้นนำ
กำลังโหลดความคิดเห็น