xs
xsm
sm
md
lg

"แม็คฟาดเดน" บอดโทษ ลูกโลกเจ๊าเรือใบ 0-0

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เจมส์ แม็คฟาดเดน กองหน้าทีมชาติสกอตแลนด์ของ เบอร์มิงแฮม ซิตี สังหารจุดโทษพลาดถูก เชย์ กิฟเวน นายทวารจอมหนึบของ แมนเชสเตอร์ ซิตี พุ่งถูกทางปัดเอาไว้ได้ ทำให้เกมจบลงด้วยผลเสมอ 0-0 ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่โทนของวันอาทิตย์

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันอาทิตย์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ.2552
เบอร์มิงแฮม ซิตี
0-0 แมนเชสเตอร์ ซิตี

เจมส์ แม็คฟาดเดน (16) ยิงจุดโทษถูก เชย์ กิฟเวน เซฟเอาไว้ได้
คู่สุดท้ายของลีกสูงสุดเมืองผู้ดีประจำสัปดาห์นี้ เบอร์มิงแฮม ซิตี เล่นในถิ่นเซนต์ แอนดรูว์ส รับมือ แมนเชสเตอร์ ซิตี เกมนี้เจ้าถิ่นส่ง โจ ฮาร์ท ลงเฝ้าเสาไม่ได้เนื่องจากติดเงื่อนไขในสัญญายืมตัวจากทีมเยือน ทำให้ ไมค์ เทย์เลอร์ ได้ทำหน้าที่แทน ขณะที่อาคันตุกะไร้เงา โรบินโญ ที่ยังเดี้ยงอยู่ แต่แดนหน้าก็ยังมี โรเก ซานตา ครูซ กับ คาร์ลอส เตเบซ ประสานงานร่วมกัน ด้าน เคร็ก เบลลามี ถูกถ่างออกไปเล่นทางกราบซ้าย
เดอ ยอง ตามไล่ล่า โบว์เยอร์
เริ่มเกมาได้แค่ 6 นาทีเศษ “ลูกโลก” เกือบลูบคมทีมเยือนได้ก่อน เมื่อ แบร์รี เฟอร์กูสัน ฉกบอลจาก แกเร็ธ แบร์รี แล้วพาเข้าไปซัดด้วยซ้ายในเขตโทษลูกบดเรียดออกหลังทางเสาไกล 3 นาทีถัดมา คริสเตียน เบนิเตซ มีจังหวะสับไกด้วยซ้าย เชย์ กิฟเวน พุ่งปัดโดนปลายมือแต่เอาไม่อยู่ ทว่าลูกยังไปชนเสา จากนั้นนาทีที่ 11 เบนิเตซ รับบอลจาก คาเมรอน เจอโรม ที่ปั๊มแย่งกับ ไนเจล เดอ ยอง มาได้ก่อนแตะเข้าไปยิงถูก กิฟเวน ถลำออกมาบล็อกได้อย่างรวดเร็ว

หลังจากโดนกระหน่ำเป็นระลอก “เรือใบสีฟ้า” ก็หาทางตอบโต้บ้าง นาทีที่ 13 ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ เปิดบอลจากกราบขวาให้ ซานตา ครูซ โฉบโหม่งที่เสาแรกไม่ตรงกรอบ จากนั้น เตเบซ จ่ายทะลุช่องให้ เคร็ก เบลลามี หลุดเข้าไปกดในเขตโทษติดบล็อก โรเจอร์ จอห์นสัน ที่ตามมาสไลด์ขวางเอาไว้ ก่อนที่ ไรท์-ฟิลลิปส์ จะตะบันนอกเขตโทษในนาทีที่ 19 ไมค์ เทย์เลอร์ ตั้งซองรับกระฉอก แต่ยังมี สตีเฟน คาร์ ที่ช่วยหวดทิ้งได้ทันก่อนถูกตามซ้ำ

เบอร์มิงแฮม หวิดได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งในนาทีที่ 27 จากลูกยิงไกลของ เจมส์ แม็คฟาดเดน ที่กำลังจะมุดเข้าสามเหลี่ยม แต่ กิฟเวน ยังไม่พลาดตามมาโดดปัดข้ามคานออกไปได้ 3 นาทีถัดมาเป็นทีของอาคันตุกะบ้างโดย เตเบซ แทงทะลุช่องยาวๆ ให้ ไรท์-ฟิลลิปส์ สปีดเข้าไปจ่ายหักคืนกลับมา ซานตา ครูซ พยายามหาจังหวะยิงแต่ก็โดน ไมค์ เทย์เลอร์ ล้มตัวขวางไว้ได้อีก นาทีที่ 43 เจอโรม ได้ส่องบนเส้นเขตโทษ กิฟเวน ปัดได้แล้วตามมาตะครุบก่อนถูกนักเตะเจ้าถิ่นซ้ำดาบสอง จบครึ่งแรกสกอร์ยังคงนิ่งอยู่ที่ 0-0
ลาร์สสัน ดวลลูกโหม่งกับ แบร์รี
กลับเข้าสู่ครึ่งหลัง นาทีที่ 56 ผู้ตัดสิน ไมค์ ดีน เป่าให้ลูกโลกได้จุดโทษจากจังหวะที่ ไนเจล เดอ ยอง เทกตัวขึ้นโหม่งแย่งกับ เซบาสเตียน ลาร์สสัน ในเขตโทษแล้วไปทำแฮนด์บอล เจมส์ แม็คฟาดเดน รับหน้าที่สังหาร แต่ กิฟเวน ยังพุ่งถูกทางช่วยเซฟให้ แมนฯ ซิตี รอดพ้นจากการเสียประตูได้อีกครั้ง ก่อนที่ มาร์ค ฮิวจ์ส จะแก้เกมให้ทีมเยือนด้วยการส่ง สตีเฟน ไอร์แลนด์ มาขับเคลื่อนแผงมิดฟิลด์แทน เดอ ยอง

เบอร์มิงแฮม ปรับหมากบ้างโดยถอดเอา แม็คฟาดเดน ออกแล้วส่ง คีธ ฟาฮีย์ ลงมาเน้นเกมรับ ขณะที่ ซานตา ครูซ ก็โดนเปลี่ยนตัวเช่นกันโดยเป็น มาร์ติน เปตรอฟ ที่ลงมาเดินเกมริมเส้นแทนพร้อมทั้งสลับ เบลลามี ขึ้นไปเล่นกองหน้าเต็มตัว ล่วงมายังช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 3 เปตรอฟ รับบอลจาก เตเบซ แล้วหวดบริเวณกรอบโทษด้านขวาส่งลูกติดไซด์ก้อยผ่านหน้าประตูไป

จากนั้น แบร์รี เฟอร์กูสัน ก็โดนไล่ออกจากการรับใบเหลืองที่ 2 หลังยกแขนขวางลูกทุ่มของ ปาโบล ซาบาเลตา แต่สุดท้ายก็ยังไม่มีใครทำอะไรกันได้ จบเกมจึงเสมอกันไป 0-0 แบ่งไปทีมละ 1 คะแนน ทำให้ แมนฯ ซิตี ที่เสมอเป็นนัดที่ 4 ติดต่อกันเบียด ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ กับ ลิเวอร์พูล ขึ้นไปรั้งอันดับ 4 ด้วยผลต่างประตูได้-เสียที่ดีกว่า ส่วน เบอร์มิงแฮม ขยับมาอยู่ที่ 14 มี 11 คะแนน

รายชื่อ 11 คนแรกของทั้งสองทีม
เบอร์มิงแฮม ซิตี
- ไมค์ เทย์เลอร์, สตีเฟน คาร์, โรเจอร์ จอห์นสัน, สกอตต์ แดนน์,เลียม ริดจ์เวลล์, ลี โบว์เยอร์, แบร์รี เฟอร์กูสัน, เซบาสเตียน ลาร์สสัน, เจมส์ แม็คฟาดเดน, คาเมรอน เจอโรม, คริสเตียน เบนิเตซ

แมนเชสเตอร์ ซิตี - เชย์ กิฟเวน, ปาโบล ซาบาเลตา, แว็งซ็องต์ กอมปานี, โจลีออน เลสคอตต์, เวย์น บริดจ์, ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์, ไนเจล เดอ ยอง, แกเร็ธ แบร์รี, เคร็ก เบลลามี, คาร์ลอส เตเบซ, โรเก ซานตา ครูซ
กำลังโหลดความคิดเห็น