"แชมป์เก่า" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เหลือผู้เล่น 10 คน แต่สามารถบุกเอาชนะ บาร์นส์ลีย์ 2-0 จากการทำประตูของ แดนนี เวลเบ็ก และ ไมเคิล โอเวน พร้อมผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย ศึกคาร์ลิง คัพ เมื่อวันอังคารที่ 27 ตุลาคม
ผลฟุตบอลคาร์ลิง คัพ รอบ 4
บาร์นส์ลีย์ 0-2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
แมนฯ ยูไนเต็ด พักผู้เล่นตัวหลักเป็นส่วนใหญ่เพื่อเปิดโอกาสให้ดาวรุ่งมาวาดลวดลาย โดย เบน ฟอสเตอร์ ได้กลับมาเฝ้าเสา ส่วนคู่หลังเป็นหน้าที่ของ เวส บราวน์ และ จอนนี อีแวนส์ กองกลางมี อันแดร์สัน คุมเกม รวมถึง กาเบรียล โอแบร์ตอง ลงประเดิมสนามเกมแรก ส่วนแดนหน้ามี ไมเคิล โอเวน เป็นตัวประคอง ทางฝั่ง บาร์นสลีย์ มี ดาเนียล บ็อกดาโนวิช เป็นตัวอันตรายในแดนหน้า
เริ่มครึ่งแรกมา 5 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด มีลุ้นก่อนจากจังหวะที่ โอแบร์ตอง เล่นชิงกับ ราฟาเอล จนหลุดไปถึงเส้นหลัง ก่อนจะเปิดกลับเข้ากลาง บอลเกือบมาเข้าหัว โอเวน แต่ถูกกองหลังบาร์นสลีย์ โหม่งทิ้งออกไปหวุดหวิดได้เพียงลูกเตะมุม แต่จังหวะเซตพีซต่อมาดังกล่าว "ผีแดง" ก็ออกนำ 1-0 ได้สำเร็จ เมื่อ อันแดร์สัน เปิดบอลเข้าเข้าหัว เวลเบ็ก จัดการโหม่งเสาแรกตุงตาข่าย
อีก 2 นาทีต่อมา ทีมเยือนวางบอลยาวจากกลางสนาม บอลลอยมาถึง เวลเบ็ก ทางด้านซ้ายจับบอลลงก่อนสับไกมุมแคบ แต่ไม่ผ่านขาถูก สตีล บล็อกออกไป ทางฝั่ง บาร์นส์ลีย์ ต่อบอลขึ้นไปกดดันทีมเยือนได้น้อยครั้งกว่า แต่เกือบตีเสมอได้เหมือนกันในนาที 22 จากลูกเตะมุม บอลมาเข้าหัว บ็อกดาโนวิช โหม่งเหน่งๆ แต่บอลไปถูกสามเหลี่ยมออกหลังไป
แชมป์พรีเมียร์ลีกมีโอกาสอีกครั้งจากจังหวะที่ โอเวน แทงบอลต่อให้ โอแบร์ตอง หลุดเข้าไปยิงในเขตโทษ แต่ไม่ผ่านมือ สตีล อีกเหมือนเดิม หลังจากนั้นเกมช่วง 15 นาทีสุดท้าย บาร์นส์ลีย์ ได้เดินเกมบุกกดดันอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ไม่สามารถทะลวงตาข่ายแชมป์เก่าได้ทำให้จบ 45 นาทีแรกไป
เกมครึ่งหลังทั้งสองทีมเล่นกันได้สูสี ผ่านมา 2 นาที โอเวน หลุดเข้าไปซัดในเขตโทษ บอลผ่านมือ สตีล แต่ออกหลังไป หลังจากนั้น บาร์นส์ลีย์ ได้ลุ้นตีเสมอเช่นกันในนาที 53 จากจังหวะที่ บ็อกดาโนวิช ลุยขึ้นมาถึงหน้าเขตโทษ ก่อนจะไหลบอลให้ ดา ซิลวา ซัดด้วยขวาหลุดเสาสองออกไปนิดเดียว
กระทั่งนาที 59 โอเวน ก็มาทำประตูได้สำเร็จในจังหวะที่รับบอลได้จาก อันแดร์สัน ตรงนอกเขตโทษ ก่อนจะเลี้ยงแหวกกองหลังเจ้าถิ่นเข้ามาซัดด้วยซ้ายผ่านมือ สตีล เข้าหน้าต่างไปให้ทีมเยือนหนีห่าง 2-0 แต่อีก 2 นาทีต่อมา ผีแดงมาเหลือผู้เล่น 10 คน เมื่อ เนวิลล์ ยกเท้าสูงใส่ ฮัมมิลล์ จนถูกใบแดงไล่ออก
เจ้าถิ่นอาศัยความได้เปรียบจำนวนตัวผู้เล่นจนเกือบตีไข่แตกเมื่อ ราฟาเอล สกัดบอลไม่ดีไปถูกผู้เล่นเจ้าถิ่นบล็อกมาเข้าทาง บ็อกดาโนวิช จัดการยิงตรงหน้าเขตโทษ แต่บอลไม่ตรงกรอบ หลังจากนั้นกองหลังทีมเยือนเล่นผิดพลาดปล่อยให้ บ็อกดาโนวิช คนเดิมได้โอกาสซัดตรงเส้นเขตโทษอีก แต่ถูก ฟอสเตอร์ ปัดปลายมือออกไป ก่อนที่ลูกเตะมุม ดา ซิลวา จะได้โหม่งทางเสาสองเฉียดออกไปนิดเดียว
เกมเข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้ายยังเป็นเจ้าถิ่นที่โหมบุกหนัก ฮัมมิลล์ แตะบอลหนีผู้เล่นทีมเยือนได้สวยจนกระชากขึ้นมาซัดในเขตโทษ แต่ดันยิงไปตรงตัว ฟอสเตอร์ ป้องกันได้ หลังจากนั้น ยาคอบ บัทเทอร์ฟิลด์ ตัวสำรองที่เพิ่งลงมาโยกหลอกคู่หลังผีแดงตรงหน้าเขตโทษ ก่อนซัดด้วยซ้ายเต็มข้อ ไม่ผ่านมือ ฟอสเตอร์ อีกเช่นเดิม สุดท้ายไม่มีการทำประตูกันได้อีกจบ 90 นาทีไปด้วยสกอร์เดิม
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
บาร์นส์ลีย์ : ลุก สตีล, สตีเฟน ฟอสเตอร์,โรเบิร์ต คอซลุก, ดาร์เรน มัวร์, จูเลียน เกรย์, เอมิล ฮัลล์เฟรดส์สัน, ฮูโก โคลัซ, อดัม ฮัมมิลล์, อันเดอร์สัน เดอ ซิลวา, โจนาธาน แม็คเคน, ดาเนียล บ็อกดาโนวิช
แมนฯ ยูไนเต็ด : เบน ฟอสเตอร์, แกรี เนวิลล์, เวส บราวน์, ราฟาเอล, จอนนี อีแวนส์, ฟาบิโอ, อันแดร์สัน, กาเบรียล โอแบร์ตอง, แดนนี เวลเบ็ก, เฟเดริโก มาเคดา, ไมเคิล โอเวน
ผลฟุตบอลคาร์ลิง คัพ รอบ 4
ซันเดอร์แลนด์ เสมอ แอสตัน วิลลา 0-0 (วิลลา ชนะดวลจุดโทษ 1-3)
ปอร์ทสมัธ ชนะ สโต๊ค ซิตี 4-0
[1-0 : เฟรเดริก ปิกิโยน น.17], [2-0 : แดนนี เว็บเบอร์ น.55], [3-0 : เฟรเดริก ปิกิโยน น.59], [4-0 : เอ็นวานโก คานู น.81]
บาร์นส์ลีย์ แพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด 0-2
[0-1 : แดนนี เวลเบ็ก น.6], [0-2 : ไมเคิล โอเวน น.59]
แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ชนะ ปีเตอร์โบโร 5-2
[1-0 : มอร์เทน กัมส์ท พีเดอร์เซน น.4], [1-1 : คริส เวลพ์ดัล น.17], [2-1 : สตีเวน รีด ลูกจุดโทษ น.45], [2-2 : จอร์จ บอยด์ น.50], [3-2 : มิเชล ซัลกาโด น.57], [4-2 : เบเนดิกท์ แม็คคาร์ธี น.72], [5-2 : นิโกลา คาลินิช ลูกจุดโทษ น.74]
สเปอร์ส ชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-0
[1-0 : ทอม ฮัดเดิลสตัน น.31], [2-0 : ร็อบบี คีน น.57]
ผลฟุตบอลคาร์ลิง คัพ รอบ 4
บาร์นส์ลีย์ 0-2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
แมนฯ ยูไนเต็ด พักผู้เล่นตัวหลักเป็นส่วนใหญ่เพื่อเปิดโอกาสให้ดาวรุ่งมาวาดลวดลาย โดย เบน ฟอสเตอร์ ได้กลับมาเฝ้าเสา ส่วนคู่หลังเป็นหน้าที่ของ เวส บราวน์ และ จอนนี อีแวนส์ กองกลางมี อันแดร์สัน คุมเกม รวมถึง กาเบรียล โอแบร์ตอง ลงประเดิมสนามเกมแรก ส่วนแดนหน้ามี ไมเคิล โอเวน เป็นตัวประคอง ทางฝั่ง บาร์นสลีย์ มี ดาเนียล บ็อกดาโนวิช เป็นตัวอันตรายในแดนหน้า
เริ่มครึ่งแรกมา 5 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด มีลุ้นก่อนจากจังหวะที่ โอแบร์ตอง เล่นชิงกับ ราฟาเอล จนหลุดไปถึงเส้นหลัง ก่อนจะเปิดกลับเข้ากลาง บอลเกือบมาเข้าหัว โอเวน แต่ถูกกองหลังบาร์นสลีย์ โหม่งทิ้งออกไปหวุดหวิดได้เพียงลูกเตะมุม แต่จังหวะเซตพีซต่อมาดังกล่าว "ผีแดง" ก็ออกนำ 1-0 ได้สำเร็จ เมื่อ อันแดร์สัน เปิดบอลเข้าเข้าหัว เวลเบ็ก จัดการโหม่งเสาแรกตุงตาข่าย
อีก 2 นาทีต่อมา ทีมเยือนวางบอลยาวจากกลางสนาม บอลลอยมาถึง เวลเบ็ก ทางด้านซ้ายจับบอลลงก่อนสับไกมุมแคบ แต่ไม่ผ่านขาถูก สตีล บล็อกออกไป ทางฝั่ง บาร์นส์ลีย์ ต่อบอลขึ้นไปกดดันทีมเยือนได้น้อยครั้งกว่า แต่เกือบตีเสมอได้เหมือนกันในนาที 22 จากลูกเตะมุม บอลมาเข้าหัว บ็อกดาโนวิช โหม่งเหน่งๆ แต่บอลไปถูกสามเหลี่ยมออกหลังไป
แชมป์พรีเมียร์ลีกมีโอกาสอีกครั้งจากจังหวะที่ โอเวน แทงบอลต่อให้ โอแบร์ตอง หลุดเข้าไปยิงในเขตโทษ แต่ไม่ผ่านมือ สตีล อีกเหมือนเดิม หลังจากนั้นเกมช่วง 15 นาทีสุดท้าย บาร์นส์ลีย์ ได้เดินเกมบุกกดดันอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ไม่สามารถทะลวงตาข่ายแชมป์เก่าได้ทำให้จบ 45 นาทีแรกไป
เกมครึ่งหลังทั้งสองทีมเล่นกันได้สูสี ผ่านมา 2 นาที โอเวน หลุดเข้าไปซัดในเขตโทษ บอลผ่านมือ สตีล แต่ออกหลังไป หลังจากนั้น บาร์นส์ลีย์ ได้ลุ้นตีเสมอเช่นกันในนาที 53 จากจังหวะที่ บ็อกดาโนวิช ลุยขึ้นมาถึงหน้าเขตโทษ ก่อนจะไหลบอลให้ ดา ซิลวา ซัดด้วยขวาหลุดเสาสองออกไปนิดเดียว
กระทั่งนาที 59 โอเวน ก็มาทำประตูได้สำเร็จในจังหวะที่รับบอลได้จาก อันแดร์สัน ตรงนอกเขตโทษ ก่อนจะเลี้ยงแหวกกองหลังเจ้าถิ่นเข้ามาซัดด้วยซ้ายผ่านมือ สตีล เข้าหน้าต่างไปให้ทีมเยือนหนีห่าง 2-0 แต่อีก 2 นาทีต่อมา ผีแดงมาเหลือผู้เล่น 10 คน เมื่อ เนวิลล์ ยกเท้าสูงใส่ ฮัมมิลล์ จนถูกใบแดงไล่ออก
เจ้าถิ่นอาศัยความได้เปรียบจำนวนตัวผู้เล่นจนเกือบตีไข่แตกเมื่อ ราฟาเอล สกัดบอลไม่ดีไปถูกผู้เล่นเจ้าถิ่นบล็อกมาเข้าทาง บ็อกดาโนวิช จัดการยิงตรงหน้าเขตโทษ แต่บอลไม่ตรงกรอบ หลังจากนั้นกองหลังทีมเยือนเล่นผิดพลาดปล่อยให้ บ็อกดาโนวิช คนเดิมได้โอกาสซัดตรงเส้นเขตโทษอีก แต่ถูก ฟอสเตอร์ ปัดปลายมือออกไป ก่อนที่ลูกเตะมุม ดา ซิลวา จะได้โหม่งทางเสาสองเฉียดออกไปนิดเดียว
เกมเข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้ายยังเป็นเจ้าถิ่นที่โหมบุกหนัก ฮัมมิลล์ แตะบอลหนีผู้เล่นทีมเยือนได้สวยจนกระชากขึ้นมาซัดในเขตโทษ แต่ดันยิงไปตรงตัว ฟอสเตอร์ ป้องกันได้ หลังจากนั้น ยาคอบ บัทเทอร์ฟิลด์ ตัวสำรองที่เพิ่งลงมาโยกหลอกคู่หลังผีแดงตรงหน้าเขตโทษ ก่อนซัดด้วยซ้ายเต็มข้อ ไม่ผ่านมือ ฟอสเตอร์ อีกเช่นเดิม สุดท้ายไม่มีการทำประตูกันได้อีกจบ 90 นาทีไปด้วยสกอร์เดิม
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
บาร์นส์ลีย์ : ลุก สตีล, สตีเฟน ฟอสเตอร์,โรเบิร์ต คอซลุก, ดาร์เรน มัวร์, จูเลียน เกรย์, เอมิล ฮัลล์เฟรดส์สัน, ฮูโก โคลัซ, อดัม ฮัมมิลล์, อันเดอร์สัน เดอ ซิลวา, โจนาธาน แม็คเคน, ดาเนียล บ็อกดาโนวิช
แมนฯ ยูไนเต็ด : เบน ฟอสเตอร์, แกรี เนวิลล์, เวส บราวน์, ราฟาเอล, จอนนี อีแวนส์, ฟาบิโอ, อันแดร์สัน, กาเบรียล โอแบร์ตอง, แดนนี เวลเบ็ก, เฟเดริโก มาเคดา, ไมเคิล โอเวน
ผลฟุตบอลคาร์ลิง คัพ รอบ 4
ซันเดอร์แลนด์ เสมอ แอสตัน วิลลา 0-0 (วิลลา ชนะดวลจุดโทษ 1-3)
ปอร์ทสมัธ ชนะ สโต๊ค ซิตี 4-0
[1-0 : เฟรเดริก ปิกิโยน น.17], [2-0 : แดนนี เว็บเบอร์ น.55], [3-0 : เฟรเดริก ปิกิโยน น.59], [4-0 : เอ็นวานโก คานู น.81]
บาร์นส์ลีย์ แพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด 0-2
[0-1 : แดนนี เวลเบ็ก น.6], [0-2 : ไมเคิล โอเวน น.59]
แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ชนะ ปีเตอร์โบโร 5-2
[1-0 : มอร์เทน กัมส์ท พีเดอร์เซน น.4], [1-1 : คริส เวลพ์ดัล น.17], [2-1 : สตีเวน รีด ลูกจุดโทษ น.45], [2-2 : จอร์จ บอยด์ น.50], [3-2 : มิเชล ซัลกาโด น.57], [4-2 : เบเนดิกท์ แม็คคาร์ธี น.72], [5-2 : นิโกลา คาลินิช ลูกจุดโทษ น.74]
สเปอร์ส ชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-0
[1-0 : ทอม ฮัดเดิลสตัน น.31], [2-0 : ร็อบบี คีน น.57]