“งูใหญ่” อินเตอร์ มิลาน ยึดเก้าอี้จ่าฝูงเซเรีย อา อิตาลี ไว้ได้ต่อไปหลังเปิดรังเบียดชนะ คาตาเนีย 2-1 ขณะที่ ซามพ์โดเรีย ไล่ต้อน โบโลญญา ที่เหลือผู้เล่นแค่ 10 คน 4-1 ในการแข่งขันเมื่อคืนวันเสาร์
ศึกฟุตบอล กัลโช เซเรีย อา อิตาลี
อินเตอร์ มิลาน 2-1 คาตาเนีย
โชเซ มูรินโญ มีการปรับทัพ “งูใหญ่” อินเตอร์ มิลาน ในการเปิดบ้านรับมือ คาตาเนีย โดยให้ทาง อีบัน คอร์โดบา ลงเล่นในแนวรับ ปาทริค วิเอรา ยืนกลางแทน เดยัน สแตนโควิช ส่วนแดนหน้ายืนพื้น มาริโอ บาโลเตลลี แถมยังได้ ซามูเอล เอโต ฟิตกลับมาร่วมล่าตาข่าย ด้านทีมเยือนฝากความหวังในการลุ้นสกอร์ไว้กับ ทากายูกิ โมริโมโตะ มีทาง คริสเตียน ยามา คอยช่วยหนุนเกมรุกอยู่ด้านหลัง
เริ่มเกมการแข่งขัน อินเตอร์ มิลาน ไม่พูดพร่ำทำเพลงเดินหน้าลุยใส่ทันทีและก็เกือบมีเฮตั้งแต่นาทีที่ 3 เมื่อ ซามูเอล เอโต หลุดเข้ากรอบโทษโดนกระแซะบอลมาถึง เวสลีย์ ชไนจ์เดอร์ เปิดเข้าในหวังให้หัวหอกทีมชาติแคเมอรูนเผด็จศึกแต่ นิโกลัส สโปลลี เคลียร์ทิ้งไปได้ก่อน แต่สิบนาทีถัดมา “งูใหญ่” ก็ฉกนำ 1-0 จนได้ ซุลลีย์ มุนตารี ตักบอลจากระยะกว่า 35 หลา เอโต พยายามแหย่เท้าเปลี่ยนทางบอลแต่ไม่ถึง ทว่าก็ทำให้ อันเดรีย คัมปันโญโล เสียจังหวะปล่อยให้ลูกหนังพุ่งเข้าซุกก้นตาข่าย
พอโดนไปก่อน คาตาเนีย ดันเกมขึ้นมาสู้บ้าง นาทีที่ 19 มีลุ้นเหมือนกันถ้า ชูลิโอ เซซาร์ ไม่ปัดลูกยิงไกลเต็มเหนี่ยวของ เอเซเกล คาร์บอนี ออกไป แปดนาทีถัดมาเป็น อินเตอร์ฯ เกือบทิ้งห่างเมื่อ ปาทริค วิเอรา ได้วอลเลย์จ่อๆ บอลพุ่งกระแทกคานออกมาเต็มๆ แต่นาทีที่ 31 เจ้าบ้านก็หนีห่างเป็น 2-0 เมื่อ ชไนจ์เดอร์ ปั่นฟรีคิก 30 หลาด้วยขวา คัมปันโญโล ทำได้แค่ปัดปลายมือแต่บอลยังแรงพอที่จะเข้าเสียบตาข่ายอย่างงดงาม จากนั้น “งูใหญ่” ผ่อนเกมลงไปจบ 45 นาทีถือความได้เปรียบค่อนข้างมาก
ลงมาลุยต่อครึ่งหลัง จานลูกา อัตซอรี แก้เกมให้ทีมเยือนทันทีส่ง ปาโบล เลเดสมา กับ จูเซ็ปเป มาสคารา มาช่วยเกมบุกและก็ถอดเอา มาเรียโน อิซโก และ มาร์โก เบียจานติ ออกไป ซึ่งก็เป็นทาง คาตาเนีย เดินหน้าลุยใส่โดยทาง อินเตอร์ หันมาเน้นเกมรับหาโอกาสใช้จังหวะสวนกลับให้เป็นผล นาทีที่ 52 ผู้มาเยือนได้โอกาสแต่ คาร์บอนี ยังยิงได้ไม่ดีพอ หนึ่งชั่วโมงผ่านไปแฟนๆ “ทีมตราช้าง” เป่าปากกันระงมเมื่อ ทากายูกิ โมริโมโตะ หลุดเข้าไปแต่โดน อีบัน คอร์โดบา กองหลังตัวสุดท้ายเสียบคว่ำ แต่ผู้ตัดสินกลับควักให้แค่ใบเหลือง
เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย คาตาเนีย เพิ่มกองหน้าลงมาอีกคนให้ จิอันวิโต พลาสมาติ ลงมาป่วน ถอดเอา เจนนาโร เดลเว็คคิโอ ออกมา และก็เป็นผลในนาทีที่ 83 เมื่อ คาร์บอนี ส่องเต็มข้อ เซซาร์ ปัดออกมาไม่พ้นอันตราย พลาสมาติ ปรี่เข้าถึงบอลก่อนโดนนายทวารบราซิเลียนปัดขาล้ม ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษ มาสคารา สังหารไม่เหลือไล่มา 1-2 แต่ช่วงเวลาที่เหลือ “งูใหญ่” ตั้งรับไว้ได้จนครบ 90 นาที คว้าชัยมีเพิ่มเป็น 22 คะแนนจาก 9 นัด นั่งจ่าฝูงเหมือนเดิมมีทาง ซามพ์โดเรีย จี้อยู่ 2 แต้ม
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
อินเตอร์ : ชูลิโอ เซซาร์ , ดักลาส ไมคอน , ลูซิโอ , อีบัน คอร์โดบา , คริสเตียน คิวู , ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ , ปาทริค วิเอรา , ซุลลีย์ มุนตารี , เวสลีย์ ชไนจ์เดอร์ , มาริโอ บาโลเตลลี , ซามูเอล เอโต
คาตาเนีย : อันเดรีย คัมปันโญโล , อเลสซานโดร โปเตนซา , มาติอัส ซิลเวสเตร , นิโกลัส สโปลลี , ชิโน คาปูอาโน , มาเรียโน อิซโก , เอเซเกล คาร์บอนี , เจนนาโร เดลเว็คคิโอ , มาร์โก เบียจานติ , คริสเตียน ยามา , ทากายูกิ โมริโมโตะ
ส่วนผลการแข่งขันอีกคู่หนึ่งวันเดียวกัน ปรากฏว่า ซามพ์โดเรีย เปิดบ้านต้อนชนะ โบโลญญา 4-1 โดยเจ้าถิ่นได้จาก จามเปาโล ปาสซินี (น.8), ดานิเอเล มันนินี เบิ้ลสกอร์ได้นาทีที่ 17 และ 33 ก่อนที่ เรโต ซีกเลอร์ ย้ำชัย น.26 ด้านทีมเยือนที่เหลือ 10 คนจากการที่ มาร์โก ดิ วาโญ โดนไล่ออกตั้งแต่ช่วงครึ่งแรก มาตีไข่แตกสำเร็จจาก ปาโบล ออสวัลโด น.63
ศึกฟุตบอล กัลโช เซเรีย อา อิตาลี
อินเตอร์ มิลาน 2-1 คาตาเนีย
โชเซ มูรินโญ มีการปรับทัพ “งูใหญ่” อินเตอร์ มิลาน ในการเปิดบ้านรับมือ คาตาเนีย โดยให้ทาง อีบัน คอร์โดบา ลงเล่นในแนวรับ ปาทริค วิเอรา ยืนกลางแทน เดยัน สแตนโควิช ส่วนแดนหน้ายืนพื้น มาริโอ บาโลเตลลี แถมยังได้ ซามูเอล เอโต ฟิตกลับมาร่วมล่าตาข่าย ด้านทีมเยือนฝากความหวังในการลุ้นสกอร์ไว้กับ ทากายูกิ โมริโมโตะ มีทาง คริสเตียน ยามา คอยช่วยหนุนเกมรุกอยู่ด้านหลัง
เริ่มเกมการแข่งขัน อินเตอร์ มิลาน ไม่พูดพร่ำทำเพลงเดินหน้าลุยใส่ทันทีและก็เกือบมีเฮตั้งแต่นาทีที่ 3 เมื่อ ซามูเอล เอโต หลุดเข้ากรอบโทษโดนกระแซะบอลมาถึง เวสลีย์ ชไนจ์เดอร์ เปิดเข้าในหวังให้หัวหอกทีมชาติแคเมอรูนเผด็จศึกแต่ นิโกลัส สโปลลี เคลียร์ทิ้งไปได้ก่อน แต่สิบนาทีถัดมา “งูใหญ่” ก็ฉกนำ 1-0 จนได้ ซุลลีย์ มุนตารี ตักบอลจากระยะกว่า 35 หลา เอโต พยายามแหย่เท้าเปลี่ยนทางบอลแต่ไม่ถึง ทว่าก็ทำให้ อันเดรีย คัมปันโญโล เสียจังหวะปล่อยให้ลูกหนังพุ่งเข้าซุกก้นตาข่าย
พอโดนไปก่อน คาตาเนีย ดันเกมขึ้นมาสู้บ้าง นาทีที่ 19 มีลุ้นเหมือนกันถ้า ชูลิโอ เซซาร์ ไม่ปัดลูกยิงไกลเต็มเหนี่ยวของ เอเซเกล คาร์บอนี ออกไป แปดนาทีถัดมาเป็น อินเตอร์ฯ เกือบทิ้งห่างเมื่อ ปาทริค วิเอรา ได้วอลเลย์จ่อๆ บอลพุ่งกระแทกคานออกมาเต็มๆ แต่นาทีที่ 31 เจ้าบ้านก็หนีห่างเป็น 2-0 เมื่อ ชไนจ์เดอร์ ปั่นฟรีคิก 30 หลาด้วยขวา คัมปันโญโล ทำได้แค่ปัดปลายมือแต่บอลยังแรงพอที่จะเข้าเสียบตาข่ายอย่างงดงาม จากนั้น “งูใหญ่” ผ่อนเกมลงไปจบ 45 นาทีถือความได้เปรียบค่อนข้างมาก
ลงมาลุยต่อครึ่งหลัง จานลูกา อัตซอรี แก้เกมให้ทีมเยือนทันทีส่ง ปาโบล เลเดสมา กับ จูเซ็ปเป มาสคารา มาช่วยเกมบุกและก็ถอดเอา มาเรียโน อิซโก และ มาร์โก เบียจานติ ออกไป ซึ่งก็เป็นทาง คาตาเนีย เดินหน้าลุยใส่โดยทาง อินเตอร์ หันมาเน้นเกมรับหาโอกาสใช้จังหวะสวนกลับให้เป็นผล นาทีที่ 52 ผู้มาเยือนได้โอกาสแต่ คาร์บอนี ยังยิงได้ไม่ดีพอ หนึ่งชั่วโมงผ่านไปแฟนๆ “ทีมตราช้าง” เป่าปากกันระงมเมื่อ ทากายูกิ โมริโมโตะ หลุดเข้าไปแต่โดน อีบัน คอร์โดบา กองหลังตัวสุดท้ายเสียบคว่ำ แต่ผู้ตัดสินกลับควักให้แค่ใบเหลือง
เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย คาตาเนีย เพิ่มกองหน้าลงมาอีกคนให้ จิอันวิโต พลาสมาติ ลงมาป่วน ถอดเอา เจนนาโร เดลเว็คคิโอ ออกมา และก็เป็นผลในนาทีที่ 83 เมื่อ คาร์บอนี ส่องเต็มข้อ เซซาร์ ปัดออกมาไม่พ้นอันตราย พลาสมาติ ปรี่เข้าถึงบอลก่อนโดนนายทวารบราซิเลียนปัดขาล้ม ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษ มาสคารา สังหารไม่เหลือไล่มา 1-2 แต่ช่วงเวลาที่เหลือ “งูใหญ่” ตั้งรับไว้ได้จนครบ 90 นาที คว้าชัยมีเพิ่มเป็น 22 คะแนนจาก 9 นัด นั่งจ่าฝูงเหมือนเดิมมีทาง ซามพ์โดเรีย จี้อยู่ 2 แต้ม
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
อินเตอร์ : ชูลิโอ เซซาร์ , ดักลาส ไมคอน , ลูซิโอ , อีบัน คอร์โดบา , คริสเตียน คิวู , ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ , ปาทริค วิเอรา , ซุลลีย์ มุนตารี , เวสลีย์ ชไนจ์เดอร์ , มาริโอ บาโลเตลลี , ซามูเอล เอโต
คาตาเนีย : อันเดรีย คัมปันโญโล , อเลสซานโดร โปเตนซา , มาติอัส ซิลเวสเตร , นิโกลัส สโปลลี , ชิโน คาปูอาโน , มาเรียโน อิซโก , เอเซเกล คาร์บอนี , เจนนาโร เดลเว็คคิโอ , มาร์โก เบียจานติ , คริสเตียน ยามา , ทากายูกิ โมริโมโตะ
ส่วนผลการแข่งขันอีกคู่หนึ่งวันเดียวกัน ปรากฏว่า ซามพ์โดเรีย เปิดบ้านต้อนชนะ โบโลญญา 4-1 โดยเจ้าถิ่นได้จาก จามเปาโล ปาสซินี (น.8), ดานิเอเล มันนินี เบิ้ลสกอร์ได้นาทีที่ 17 และ 33 ก่อนที่ เรโต ซีกเลอร์ ย้ำชัย น.26 ด้านทีมเยือนที่เหลือ 10 คนจากการที่ มาร์โก ดิ วาโญ โดนไล่ออกตั้งแต่ช่วงครึ่งแรก มาตีไข่แตกสำเร็จจาก ปาโบล ออสวัลโด น.63