เวสลีย์ ชไนจ์เดอร์ สวมบทฮีโร่ยิงประตูชัยช่วงทดเวลาบาดเจ็บช่วยให้ “งูใหญ่” อินเตอร์ มิลาน เปิดรังฉกเอาชนะ อูดิเนเซ 2-1 พร้อมกับแซงหน้า ซามพ์โดเรีย ขึ้นจ่าฝูงศึกฟุตบอลกัลโช เซเรีย อา อิตาลี
ศึกฟุตบอล กัลโช เซเรีย อา อิตาลี
อินเตอร์ มิลาน 2-1 อูดิเนเซ
โชเซ มูรินโญ ต้องปรับทัพ “งูใหญ่” อินเตอร์ มิลาน เล็กน้อยเนื่องจาก ดักลาส ไมคอน แบ็กจอมบุกติดโทษแบน จึงต้องถอยเอา ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ มายืนแบ็กขวา พร้อมกับใส่ ซุลเลย์ มุนตารี เสริมแดนกลาง แนวรุกได้ เวสลีย์ ชไนจ์เดอร์ ฟิตกลับมาปั้นเกมหลังคู่หัวหอก ซามูเอล เอโต กับ ดีเอโก มิลิโต ด้าน อูดิเนเซ นำมาโดย 3 ประสานเกมรุก ซิโมเน เปเป้, อันโตนิโอ ดิ นาตาเล และ อันโตนิโอ ฟลอโร ฟลอเรส
เปิดฉากการแข่งขัน อินเตอร์ มิลาน เป็นฝ่ายครองบอลได้เหนือกว่า อูดิเนเซ หลังจากบี้อยู่พักใหญ่ ถึงครึ่งทางของครึ่งแรกพอดี “งูใหญ่” ก็ฉกนำ 1-0 จนได้เมื่อ ซามูเอล เอโต หลุดขึ้นมาก่อนแทงให้ เดยัน สแตนโควิช ยิงลักษณะดีดๆ ด้วยขวา ซาเมียร์ ฮันดาโนวิช ปัดได้ปลายมือแต่ด้วยความแรงทำให้บอลพุ่งแฉลบเสาเข้าไป นาทีที่ 25 เจ้าบ้านต้องถอดเอา ดีเอโก มิลิโต ที่บาดเจ็บออกมาพร้อมกับส่ง มาริโอ บาโลเตลลี ไปล่าตาข่ายแทน
ทว่าสองนาทีถัดมาทีมเยือนตามตีเสมอ 1-1 สำเร็จ เมื่อ ซิโมเน เปเป้ แทงทะลุให้ อันโตนิโอ ดิ นาเตเล หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปล่อเป้า ชูลิโอ เซซาร์ ไม่เหลือ พอโดนไล่เจ๊าอย่างรวดเร็ว อินเตอร์ฯ เดินหน้ารุกแหลก เอโต ตะลุยเข้ากรอบโทษจังหวะโดนสกัดมีการฟ้องว่าไปโดนแขนผู้เล่น อูดิเนเซ แต่ผู้ตัดสินไม่ได้ให้จุดโทษแก่เจ้าถิ่นแต่อย่างใด แม้ “งูใหญ่” ขึงเกมบุกเอาไว้ แต่การเช็คล้ำหน้าพลาดอีกครั้ง ซานเชซ หลุดเข้าไปยิงทว่าบอลหลุดกรอบ ทำให้จบ 45 นาทีแรกยังเจ๊ากัน
ลุยต่อในครึ่งหลัง อินเตอร์ เดินเครื่องใส่แต่เป็น อูดิเนเซ ที่เกือบได้ประตูพลิกนำเมื่อ เปเป้ หลุดขึ้นไปทางขวาก่อนตบมาเสาแรกให้ ดิ นาตาเล ปาดยิงเร็วบอลข้ามคานแบบมีลุ้น หนึ่งชั่วโมงผ่านไป คริสเตียน คิวู ต้องลงไปกองกับพื้นเมื่อโดนพิษศอกของ อันโตนิโอ ฟลอโร ฟลอเรส แต่ผู้ตัดสินไม่เห็นเหตุการณ์ นาทีที่ 65 “งูใหญ่” เกือบเขมือบนำอีกครั้งถ้า ฮันดาโนวิช ไม่พุ่งปัดลูกยิงไกลของ สแตนโควิช ออกมาและ ซุลเลย์ มุนตารี ซ้ำข้ามคาน
15 นาทีสุดท้าย โชเซ มูรินโญ ต้องใส่ ดาวิด ซัวโซ กองหน้าสำรองลงมาเพิ่มพลังรุกและก็ดึง มุนตารี ออกมา ท้ายเกม อินเตอร์ โถมบุกเข้าใส่แต่เกมไม่ค่อยเป็นชิ้นเป็นอัน แถมเกือบโดนจังหวะสวนกลับของ อูดิเนเซ เล่นงาน ดิ นาตาเล แทงต่อให้ อเล็กซานเดอร์ ลูโควิช หลุดเข้าไปยิงหลุดเสา นาทีสุดท้าย ดิ นาตาเล หลุดเดี่ยวเข้าไปส่องเข้าอก เซซาร์ แต่แล้วช่วงทดเจ็บ “งูใหญ่” มาได้ประตูชัย 2-1 จากการหลุดเข้าไปซัดของ ชไนจ์เดอร์ ช่วยต้นสังกัดแซง ซามพ์โดเรีย ขึ้นจ่าฝูงด้วยการมี 16 คะแนนจากการเตะ 7 นัด แต่แข่งมากกว่าหนึ่งแมตช์
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
อินเตอร์ : ชูลิโอ เซซาร์ , ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ , ลูซิโอ , วอลเตอร์ ซามูเอล , คริสเตียน คิวู , เดยัน สแตนโควิช , เอสเตบัน กัมบิอาสโซ , ซุลเลย์ มุนตารี , เวสลีย์ ชไนจ์เดอร์ , ซามูเอล เอโต , ดีเอโก มิลิโต
อูดิเนเซ : ซาเมียร์ ฮันดาโนวิช , ดูซาน บาสตา , อันเดรีย โคดา , เมาริซิโอ โดมิซซี , อเล็กซานเดอร์ ลูโควิช , อเล็กซิส ซานเชซ , ก็อคฮาน อินแลร์ , เกตาโน ดากอสติโน , ซิโมเน เปเป้ , อันโตนิโอ ฟลอโร ฟลอเรส , อันโตนิโอ ดิ นาตาเล
ส่วนผลการแข่งขันอีกคู่หนึ่งวันเดียวกัน ปรากฏว่า “ไก่แดนใต้” บารี เปิดรังทำได้แค่เสมอกับ คาตาเนีย 0-0 ทั้งที่ผู้มาเยือนเต็มไปด้วยผู้เล่นบาดเจ็บและติดโทษแบน
ศึกฟุตบอล กัลโช เซเรีย อา อิตาลี
อินเตอร์ มิลาน 2-1 อูดิเนเซ
โชเซ มูรินโญ ต้องปรับทัพ “งูใหญ่” อินเตอร์ มิลาน เล็กน้อยเนื่องจาก ดักลาส ไมคอน แบ็กจอมบุกติดโทษแบน จึงต้องถอยเอา ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ มายืนแบ็กขวา พร้อมกับใส่ ซุลเลย์ มุนตารี เสริมแดนกลาง แนวรุกได้ เวสลีย์ ชไนจ์เดอร์ ฟิตกลับมาปั้นเกมหลังคู่หัวหอก ซามูเอล เอโต กับ ดีเอโก มิลิโต ด้าน อูดิเนเซ นำมาโดย 3 ประสานเกมรุก ซิโมเน เปเป้, อันโตนิโอ ดิ นาตาเล และ อันโตนิโอ ฟลอโร ฟลอเรส
เปิดฉากการแข่งขัน อินเตอร์ มิลาน เป็นฝ่ายครองบอลได้เหนือกว่า อูดิเนเซ หลังจากบี้อยู่พักใหญ่ ถึงครึ่งทางของครึ่งแรกพอดี “งูใหญ่” ก็ฉกนำ 1-0 จนได้เมื่อ ซามูเอล เอโต หลุดขึ้นมาก่อนแทงให้ เดยัน สแตนโควิช ยิงลักษณะดีดๆ ด้วยขวา ซาเมียร์ ฮันดาโนวิช ปัดได้ปลายมือแต่ด้วยความแรงทำให้บอลพุ่งแฉลบเสาเข้าไป นาทีที่ 25 เจ้าบ้านต้องถอดเอา ดีเอโก มิลิโต ที่บาดเจ็บออกมาพร้อมกับส่ง มาริโอ บาโลเตลลี ไปล่าตาข่ายแทน
ทว่าสองนาทีถัดมาทีมเยือนตามตีเสมอ 1-1 สำเร็จ เมื่อ ซิโมเน เปเป้ แทงทะลุให้ อันโตนิโอ ดิ นาเตเล หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปล่อเป้า ชูลิโอ เซซาร์ ไม่เหลือ พอโดนไล่เจ๊าอย่างรวดเร็ว อินเตอร์ฯ เดินหน้ารุกแหลก เอโต ตะลุยเข้ากรอบโทษจังหวะโดนสกัดมีการฟ้องว่าไปโดนแขนผู้เล่น อูดิเนเซ แต่ผู้ตัดสินไม่ได้ให้จุดโทษแก่เจ้าถิ่นแต่อย่างใด แม้ “งูใหญ่” ขึงเกมบุกเอาไว้ แต่การเช็คล้ำหน้าพลาดอีกครั้ง ซานเชซ หลุดเข้าไปยิงทว่าบอลหลุดกรอบ ทำให้จบ 45 นาทีแรกยังเจ๊ากัน
ลุยต่อในครึ่งหลัง อินเตอร์ เดินเครื่องใส่แต่เป็น อูดิเนเซ ที่เกือบได้ประตูพลิกนำเมื่อ เปเป้ หลุดขึ้นไปทางขวาก่อนตบมาเสาแรกให้ ดิ นาตาเล ปาดยิงเร็วบอลข้ามคานแบบมีลุ้น หนึ่งชั่วโมงผ่านไป คริสเตียน คิวู ต้องลงไปกองกับพื้นเมื่อโดนพิษศอกของ อันโตนิโอ ฟลอโร ฟลอเรส แต่ผู้ตัดสินไม่เห็นเหตุการณ์ นาทีที่ 65 “งูใหญ่” เกือบเขมือบนำอีกครั้งถ้า ฮันดาโนวิช ไม่พุ่งปัดลูกยิงไกลของ สแตนโควิช ออกมาและ ซุลเลย์ มุนตารี ซ้ำข้ามคาน
15 นาทีสุดท้าย โชเซ มูรินโญ ต้องใส่ ดาวิด ซัวโซ กองหน้าสำรองลงมาเพิ่มพลังรุกและก็ดึง มุนตารี ออกมา ท้ายเกม อินเตอร์ โถมบุกเข้าใส่แต่เกมไม่ค่อยเป็นชิ้นเป็นอัน แถมเกือบโดนจังหวะสวนกลับของ อูดิเนเซ เล่นงาน ดิ นาตาเล แทงต่อให้ อเล็กซานเดอร์ ลูโควิช หลุดเข้าไปยิงหลุดเสา นาทีสุดท้าย ดิ นาตาเล หลุดเดี่ยวเข้าไปส่องเข้าอก เซซาร์ แต่แล้วช่วงทดเจ็บ “งูใหญ่” มาได้ประตูชัย 2-1 จากการหลุดเข้าไปซัดของ ชไนจ์เดอร์ ช่วยต้นสังกัดแซง ซามพ์โดเรีย ขึ้นจ่าฝูงด้วยการมี 16 คะแนนจากการเตะ 7 นัด แต่แข่งมากกว่าหนึ่งแมตช์
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
อินเตอร์ : ชูลิโอ เซซาร์ , ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ , ลูซิโอ , วอลเตอร์ ซามูเอล , คริสเตียน คิวู , เดยัน สแตนโควิช , เอสเตบัน กัมบิอาสโซ , ซุลเลย์ มุนตารี , เวสลีย์ ชไนจ์เดอร์ , ซามูเอล เอโต , ดีเอโก มิลิโต
อูดิเนเซ : ซาเมียร์ ฮันดาโนวิช , ดูซาน บาสตา , อันเดรีย โคดา , เมาริซิโอ โดมิซซี , อเล็กซานเดอร์ ลูโควิช , อเล็กซิส ซานเชซ , ก็อคฮาน อินแลร์ , เกตาโน ดากอสติโน , ซิโมเน เปเป้ , อันโตนิโอ ฟลอโร ฟลอเรส , อันโตนิโอ ดิ นาตาเล
ส่วนผลการแข่งขันอีกคู่หนึ่งวันเดียวกัน ปรากฏว่า “ไก่แดนใต้” บารี เปิดรังทำได้แค่เสมอกับ คาตาเนีย 0-0 ทั้งที่ผู้มาเยือนเต็มไปด้วยผู้เล่นบาดเจ็บและติดโทษแบน