ซามพ์โดเรีย เปิดบ้านโชว์ทีเด็ดเฉือน “งูใหญ่” อินเตอร์ มิลาน 1-0 กระโดดแซงขึ้นมานั่งแท่นจ่าฝูง ศึกลูกหนังกัลโช เซเรีย อา อิตาลี
หลังจากบุกไปปราชัย ฟิออเรนตินา ช่วงกลางสัปดาห์ ลุยจิ เดล เนรี นำทัพ “ลาซามพ์” ซามพ์โดเรีย กลับมาเปิดลุยจิ แฟร์ราริส รับการมาเยือนของ “แชมป์เก่า” อินเตอร์ มิลาน โดยเจ้าถิ่นฝากความหวังไว้ที่ อันโตนิโอ คาสซาโน และ จามเปาโล ปาสซินี ขณะที่ โชเซ มูรินโญ กลับมาคุมทัพ “งูใหญ่” อินเตอร์ มิลาน ได้อีกครั้ง นัดนี้ขาด เวสลีย์ ชไนจ์เดอร์ เพลย์เมคเกอร์ดัตช์ที่เจ็บ จึงเติมทาง มาริโอ บาโลเตลลี ประสานเกมรุกร่วมกับ ซามูเอล เอโต และ ดีเอโก มิลิโต
โดยเกมการแข่งขันในครึ่งแรกค่อนข้างสูสี ทีมเยือนมีโอกาสก่อนเมื่อ เอสเตบัน กัมบิอาสโซ ที่กลับมาฟิตสมบูรณ์จ่ายให้ ดีเอโก มิลิโต หลุดเข้าไปยิงติดเซฟ ลูกา คาสเตลลัซซี เจ้าบ้านมีโอกาสเช่นกัน มาริอุส สแตนเควิซิอุส ลองยิงไกลแต่ ชูลิโอ เซซาร์ ยังป้องกันไว้ได้ จากนั้น “ลาซามพ์” เกือบได้ประตูอีกครั้งเมื่อ อันโตนิโอ คาสซาโน เปิดบอลเข้ามาให้ อันเจโล ปาลอมโบ วอลเลย์เต็มๆ แต่บอลหลุดกรอบ ทำให้จบ 45 นาทีแรกสกอร์ยังอยู่ที่ 0-0
ลงมาลุยต่อครึ่งหลัง อินเตอร์ ดันเกมใส่ก่อน มาริโอ บาโลเตลลี ได้ยิงจากนอกกรอบแม้จะพุ่งไปผิดทางแต่ คาสเตลลัซซี ยังใช้เท้าสกัดออกมาได้หวุดหวิด ผ่านหนึ่งชั่วโมงเต็ม มูรินโญ มีการแก้เกมให้ทีมเยือนใส่ เดยัน สแตนโควิช มาช่วยแดนกลางแทน ปาทริค วิเอรา และก็เติมความแน่นอนด้วยการส่ง คริสเตียน คิวู ไปช่วยเกมรับพร้อมกับถอดเอา บาโลเตลลี ออกมา
เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 72 กลายเป็น ซามพ์โดเรีย ได้ประตูนำ 1-0 จากจังหวะที่ ดานิเอเล มันนินี สกัดการประกบของ ดาวิเด ซานตอน ขึ้นไปทางซ้ายก่อนโยนบอลให้ จามเปาโล ปาสซินี ยิงไม่เหลือ จากนั้น อินเตอร์ฯ ใส่ ริคาร์โด กวาเรสมา ลงมาเล่นแทน กัมบิอาสโซ และก็ทำเกมบุกอย่างหนัก แต่ครบ 90 นาทีทำประตูเพิ่มไม่ได้ ทำให้ “ลาซามพ์” คว้าชัยมีเพิ่มเป็น 15 คะแนนจากการลงเตะ 6 นัด แซงขึ้นมาเป็นจ่าฝูง ขณะที่ “งูใหญ่” ปราชัยนัดแรกหล่นมารั้งที่ 2 มีอยู่ 13 แต้ม
ส่วนผลการแข่งขันอีกคู่หนึ่งวันเดียวกัน ปรากฏว่า ฟิออเรนตินา บุกเฉือน ลิวอร์โน 1-0 ได้ประตูชัยจากจุดโทษของ สเตวาน โยเวติช นาทีที่ 76 ทำให้ “ม่วงมหากาฬ” กระโดดขึ้นมารั้งอันดับ 4 ของตาราง มีอยู่ 13 คะแนนจาก 6 นัด
หลังจากบุกไปปราชัย ฟิออเรนตินา ช่วงกลางสัปดาห์ ลุยจิ เดล เนรี นำทัพ “ลาซามพ์” ซามพ์โดเรีย กลับมาเปิดลุยจิ แฟร์ราริส รับการมาเยือนของ “แชมป์เก่า” อินเตอร์ มิลาน โดยเจ้าถิ่นฝากความหวังไว้ที่ อันโตนิโอ คาสซาโน และ จามเปาโล ปาสซินี ขณะที่ โชเซ มูรินโญ กลับมาคุมทัพ “งูใหญ่” อินเตอร์ มิลาน ได้อีกครั้ง นัดนี้ขาด เวสลีย์ ชไนจ์เดอร์ เพลย์เมคเกอร์ดัตช์ที่เจ็บ จึงเติมทาง มาริโอ บาโลเตลลี ประสานเกมรุกร่วมกับ ซามูเอล เอโต และ ดีเอโก มิลิโต
โดยเกมการแข่งขันในครึ่งแรกค่อนข้างสูสี ทีมเยือนมีโอกาสก่อนเมื่อ เอสเตบัน กัมบิอาสโซ ที่กลับมาฟิตสมบูรณ์จ่ายให้ ดีเอโก มิลิโต หลุดเข้าไปยิงติดเซฟ ลูกา คาสเตลลัซซี เจ้าบ้านมีโอกาสเช่นกัน มาริอุส สแตนเควิซิอุส ลองยิงไกลแต่ ชูลิโอ เซซาร์ ยังป้องกันไว้ได้ จากนั้น “ลาซามพ์” เกือบได้ประตูอีกครั้งเมื่อ อันโตนิโอ คาสซาโน เปิดบอลเข้ามาให้ อันเจโล ปาลอมโบ วอลเลย์เต็มๆ แต่บอลหลุดกรอบ ทำให้จบ 45 นาทีแรกสกอร์ยังอยู่ที่ 0-0
ลงมาลุยต่อครึ่งหลัง อินเตอร์ ดันเกมใส่ก่อน มาริโอ บาโลเตลลี ได้ยิงจากนอกกรอบแม้จะพุ่งไปผิดทางแต่ คาสเตลลัซซี ยังใช้เท้าสกัดออกมาได้หวุดหวิด ผ่านหนึ่งชั่วโมงเต็ม มูรินโญ มีการแก้เกมให้ทีมเยือนใส่ เดยัน สแตนโควิช มาช่วยแดนกลางแทน ปาทริค วิเอรา และก็เติมความแน่นอนด้วยการส่ง คริสเตียน คิวู ไปช่วยเกมรับพร้อมกับถอดเอา บาโลเตลลี ออกมา
เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 72 กลายเป็น ซามพ์โดเรีย ได้ประตูนำ 1-0 จากจังหวะที่ ดานิเอเล มันนินี สกัดการประกบของ ดาวิเด ซานตอน ขึ้นไปทางซ้ายก่อนโยนบอลให้ จามเปาโล ปาสซินี ยิงไม่เหลือ จากนั้น อินเตอร์ฯ ใส่ ริคาร์โด กวาเรสมา ลงมาเล่นแทน กัมบิอาสโซ และก็ทำเกมบุกอย่างหนัก แต่ครบ 90 นาทีทำประตูเพิ่มไม่ได้ ทำให้ “ลาซามพ์” คว้าชัยมีเพิ่มเป็น 15 คะแนนจากการลงเตะ 6 นัด แซงขึ้นมาเป็นจ่าฝูง ขณะที่ “งูใหญ่” ปราชัยนัดแรกหล่นมารั้งที่ 2 มีอยู่ 13 แต้ม
ส่วนผลการแข่งขันอีกคู่หนึ่งวันเดียวกัน ปรากฏว่า ฟิออเรนตินา บุกเฉือน ลิวอร์โน 1-0 ได้ประตูชัยจากจุดโทษของ สเตวาน โยเวติช นาทีที่ 76 ทำให้ “ม่วงมหากาฬ” กระโดดขึ้นมารั้งอันดับ 4 ของตาราง มีอยู่ 13 คะแนนจาก 6 นัด
