เชลซี แห่งศึกพรีเมียร์ลีกคืนฟอร์มเก่งเปิดสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ ถล่มเอาชนะ แอตเลติโก มาดริด จากสเปน 4-0 ขณะที่ ปาโต หัวหอกแซมบ้าซัดประตูชัยก่อนหมดเวลา 2 นาทีให้ เอซี มิลาน บุกชนะ รีล มาดริด 3-2 ในศึกยูฟา แชมเปียนส์ลีก เมื่อวันพุธที่ 21 ตุลาคม
ผลฟุตบอลยูฟา แชมเปียนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มดี
เชลซี (อังกฤษ) 4-0 แอตเลติโก มาดริด (อิตาลี)
เชลซี ของ คาร์โล อันเชล็อตติ ขาด โฮเซ โบซิงวา แบ็กขวาที่เจ็บเข่าทำให้เป็นโอกาสของ จูเลียน เบลเล็ตติ แต่ มิชาเอล บัลลัก ฟิตกลับมาคุมแดนกลางกับ แฟรงค์ แลมพาร์ด ส่วนแดนหน้า ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ติดโทษแบนทำให้ นิโกลาส์ อเนลกา จับคู่กับ ซาโลมง กาลู ด้าน แอต.มาดริด ของ อเบล เรซิโน มีปัญหาในแนวรับที่ผู้เล่นเจ็บหลายคน แต่เกมรุกค่อนข้างเต็มร้อยมี เซร์คิโอ อเกวโร และ ดิเอโก ฟอร์ลัน ยืนล่าตาข่าย
เริ่มครึ่งแรก เชลซี ทำเกมดูดีกว่าเล็กน้อย แต่กลายเป็นทีมเยือนมีโอกาสลุ้นประตูก่อนในนาที 7 จากจังหวะที่ ซิเมา หลุดขึ้นมาถึงสุดเส้นด้านซ้าย ก่อนจะเปิดมาให้ ฟอร์ลัน โขกตรงเสาแรก แต่ เช็ก ปิดมุมดีเซฟไว้ได้ นาทีต่อมา อเกวโร หลุดแผงหลังเจ้าถิ่นเข้าไปซัดในเขตโทษ แต่หลุดเสาแรกไป
สิงห์บลูส์ ส่งบอลเข้าประตูไปในนาที 12 จากลูกฟรีคิกระยะไกลของ แลมพาร์ด แต่กรรมการเป่าให้ กาลู ล้ำหน้าไปก่อนทำให้พลาดโอกาสขึ้นนำ หลังจากนั้นอีก 4 นาที เจ้าถิ่นต่อบอลกันสวยตรงหน้าเขตโทษ เดโก ตวัดบอลต่อให้ บัลลัก หลุดขึ้นมาจ่ายถวายพานให้ กาลู แต่ดาวยิงไอเวอรี โคสต์กลับยิงออกไปเองอย่างไม่น่าเชื่อ
มาถึงนาที 17 ตราหมีโอกาสบ้างเมื่อ ฟอร์ลัน ได้บอลในเขตโทษ ก่อนตวัดตัวยิงทำให้ เช็ก ต้องพุ่งปัดออกด้านข้าง หลังจากนั้นนาที 31 ซานตานา โยกหลอกกองหลังเจ้าบ้านจนหลุดขึ้นไปถึงเส้นหลัง ก่อนอัดแรงเข้ากลาง แต่ เช็ก ตัดบอลได้ก่อนที่ อเกวโร จะชาร์จทัน
กาลู มีจังหวะยิงประตูอีกครั้งในนาที 35 เมื่อได้บอลตรงหน้าเขตโทษ ก่อนจะโยกหลอกกองหลังทีมเยือนจนได้ช่องยิง แต่ถูก อเซนโฆ ปัดทิ้งออกไป ลูกเตะมุมต่อมา แลมพาร์ด เปิดโค้งมาเข้าหัว เทอร์รี โหนโหม่งบอลหลุดเสาออกไป
แต่ในที่สุดช่วง 5 นาทีสุดท้าย เชลซี มาทำประตูออกนำได้สำเร็จจากจังหวะที่ โคล หลุดขึ้นมาทางริมเขตโทษด้านซ้าย ก่อนจะผ่านเข้ากลาง กาลู ไม่พลาดซัดผ่านตัว อเซนโฆ เสยตาข่ายให้ทีมออกนำ 1-0 หลังจากนั้นทีมเยือนมีลุ้นเล็กน้อยจากลูกยิงไกลของ ซานตานา แต่แปข้ามคานไป ก่อนจะจบ 45 นาทีแรก
เริ่มครึ่งหลัง สิงห์บลูส์โหมบุกใส่ก่อน มาถึงนาที 50 อเนลกา ได้สับไกหน้าเขตโทษ บอลถูกกองหลังจังหวะแรก แต่ยังกระดอนมาเข้าทางให้ยิงซ้ำอีกครั้ง แต่ถูก อเซนโฆ ปัดทิ้งออกไปอีก นาทีต่อมา เบลเล็ตติ ทุ่มบอลจากริมเขตโทษด้านขวา บอลเด้งพื้นกระดอนเกือบเข้าประตูไป แต่นายด่านทีมเยือนลอยตัวปัดทิ้งออกไป
อย่างไรก็ตาม แอต.มาดริด ก็ต้านไม่อยู่ถูกเจ้าถิ่นซัดหนีห่าง 2-0 จากลูกเตะมุมต่อเนื่องมาจากจังหวะก่อน แลมพาร์ด เปิดบอลมาทางเสาไกล กาลู จัดการโขกเล่นทางส่งบอลตุงตาข่าย หลังจากนั้นอีก 5 นาทีทีมเยือนเกือบตีตื้นขึ้นมาเมื่อ ฟอร์ลัน โหม่งบอลเช็ดให้ อเกวโร หลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษ แต่ถูก เทอร์รี คอยกดดันทำให้ยิงไปถูก เช็ก ป้องกันได้
เชลซี ครองเกมบุกต่อกระทั่งนาที 69 จากการเล่นลูกฟรีคิกสั้นชิงกัน 1-2 จังหวะก่อนที่สุดท้าย แลมพาร์ด จะได้ซัดตรงมุมเขตโทษ บอลพุ่งเรียดเสียบเสาแรกหมดสิทธิ์ที่ อเซนโฆ จะพุ่งปัดทันทำให้เจ้าถิ่นหนี 3-0 โดยหลังจากนำห่างลูกทีมของ อันเชล็อตติ ผ่อนเกมลงทำให้ทีมเยือนมีโอกาสบุกมากขึ้น
ช่วง 15 นาทีสุดท้าย ตราหมีมีจังหวะลุ้นตีไข่แตกถึง 3 จังหวะ แต่ถูก เช็ก ป้องกันได้ทั้งหมด ก่อนที่นาที 90 เจ้าถิ่นจะมาได้ประตูปิดฝาโลงจากความผิดพลาดของ เปเรีย กองหลังทีมเยือนโหม่งผิดเหลี่ยมเข้าประตูตัวเองทำให้สุดท้ายเมื่อจบเกม เชลซี จึงถล่มเอาชนะไป 4-0 เก็บชัย 3 นัดรวด
ส่วนผลการแข่งขันคู่อื่น ในกลุ่มซี ปาโต ดาวยิงทีมชาติบราซิลเหมาสองประตูซึ่งรวมถึงประตูชัยก่อนหมดเวลา 2 นาทีช่วยให้ เอซี มิลาน พลิกกลับมาเอาชนะ รีล มาดริด 3-2 ส่วนในกลุ่มเอ จอร์จิโอ คิเอลลินี ซัดประตูชัยให้ ยูเวนตุส เปิดบ้านเฉือน มัคคาบี ไฮฟา 1-0
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก, จอห์น เทอร์รี, บรานิสลาฟ อีวาโนวิช, แอชลีย์ โคล, จูเลียน เบลเล็ตติ, ไมเคิล เอสเซียง, มิชาเอล บัลลัก, แฟรงค์ แลมพาร์ด, เดโก, นิโกลาส์ อเนลกา, ซาโลมง กาลู
แอต. มาดริด : เซร์คิโอ อเซนโฆ, อัลบาโร โดมิงเกซ โซโต, หลุยส์ เปเรีย, อันโตนิโอ โลเปซ, โธมัส อูฟาลูซี, เปาโล อัสซุนเซา, ราอูล การ์เซีย, เคลแบร์ ซานตานา, เซร์คิโอ อเกวโร, ดิเอโก ฟอร์ลัน
ผลฟุตบอลยูฟา แชมเปียนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม
กลุ่มเอ
บอร์กโดซ์ (ฝรั่งเศส) ชนะ บาเยิร์น มิวนิค (เยอรมัน) 2-1
[0-1 : มิชาเอล ซิยานี ทำเข้าประตูตัวเอง น.6], [1-1 : มิชาเอล ซิยานี น.29], [2-1 : มาร์ก ปลานุส น.40]
ยูเวนตุส (อิตาลี) ชนะ มัคคาบี ไฮฟา (อิสราเอล) 1-0
[1-0 : จอร์จิโอ คิเอลลินี น.47]
กลุ่มบี
ซีเอสเคเอ มอสโก (รัสเซีย) แพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด (อังกฤษ) 0-1
[0-1 : อันโตนิโอ วาเลนเซีย น.86]
โวล์ฟสบวร์ก (เยอรมัน) เสมอ เบซิคตัส (ตุรกี) 0-0
กลุ่มซี
เอฟซี ซูริค (สวิสฯ) แพ้ มาร์กเซย (ฝรั่งเศส) 0-1
[0-1 : กาเบรียล ไฮน์เซ น.69]
เรอัล มาดริด (สเปน) แพ้ เอซี มิลาน (อิตาลี) 2-3
[1-0 : ราอูล น.19], [1-1 : อันเดรีย ปิร์โล น.62], [1-2 : ปาโต น.66], [2-2 : รอยสตัน เดรนเธ น.76], [2-3 : ปาโต น.88]
กลุ่มดี
เชลซี (อังกฤษ) ชนะ แอตเลติโก มาดริด (สเปน) 4-0
[1-0 : ซาโลมง กาลู น.41], [2-0 : ซาโลมง กาลู น.52], [3-0 : แฟรงค์ แลมพาร์ด น.69], [4-0 : หลุยส์ เปเรีย ทำเข้าประตูตัวเอง น.90]
เอฟซี ปอร์โต้ (โปรตุเกส) ชนะ อโปเอล นิโคเซีย (ไซปรัส) 2-1
[0-1 : อัลบาโร เปไรรา ทำเข้าประตูตัวเอง น.21], [1-1 : ฮัลค์ น.33], [2-1 : ฮัลค์ ลูกจุดโทษ น.48]
ผลฟุตบอลยูฟา แชมเปียนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มดี
เชลซี (อังกฤษ) 4-0 แอตเลติโก มาดริด (อิตาลี)
เชลซี ของ คาร์โล อันเชล็อตติ ขาด โฮเซ โบซิงวา แบ็กขวาที่เจ็บเข่าทำให้เป็นโอกาสของ จูเลียน เบลเล็ตติ แต่ มิชาเอล บัลลัก ฟิตกลับมาคุมแดนกลางกับ แฟรงค์ แลมพาร์ด ส่วนแดนหน้า ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ติดโทษแบนทำให้ นิโกลาส์ อเนลกา จับคู่กับ ซาโลมง กาลู ด้าน แอต.มาดริด ของ อเบล เรซิโน มีปัญหาในแนวรับที่ผู้เล่นเจ็บหลายคน แต่เกมรุกค่อนข้างเต็มร้อยมี เซร์คิโอ อเกวโร และ ดิเอโก ฟอร์ลัน ยืนล่าตาข่าย
เริ่มครึ่งแรก เชลซี ทำเกมดูดีกว่าเล็กน้อย แต่กลายเป็นทีมเยือนมีโอกาสลุ้นประตูก่อนในนาที 7 จากจังหวะที่ ซิเมา หลุดขึ้นมาถึงสุดเส้นด้านซ้าย ก่อนจะเปิดมาให้ ฟอร์ลัน โขกตรงเสาแรก แต่ เช็ก ปิดมุมดีเซฟไว้ได้ นาทีต่อมา อเกวโร หลุดแผงหลังเจ้าถิ่นเข้าไปซัดในเขตโทษ แต่หลุดเสาแรกไป
สิงห์บลูส์ ส่งบอลเข้าประตูไปในนาที 12 จากลูกฟรีคิกระยะไกลของ แลมพาร์ด แต่กรรมการเป่าให้ กาลู ล้ำหน้าไปก่อนทำให้พลาดโอกาสขึ้นนำ หลังจากนั้นอีก 4 นาที เจ้าถิ่นต่อบอลกันสวยตรงหน้าเขตโทษ เดโก ตวัดบอลต่อให้ บัลลัก หลุดขึ้นมาจ่ายถวายพานให้ กาลู แต่ดาวยิงไอเวอรี โคสต์กลับยิงออกไปเองอย่างไม่น่าเชื่อ
มาถึงนาที 17 ตราหมีโอกาสบ้างเมื่อ ฟอร์ลัน ได้บอลในเขตโทษ ก่อนตวัดตัวยิงทำให้ เช็ก ต้องพุ่งปัดออกด้านข้าง หลังจากนั้นนาที 31 ซานตานา โยกหลอกกองหลังเจ้าบ้านจนหลุดขึ้นไปถึงเส้นหลัง ก่อนอัดแรงเข้ากลาง แต่ เช็ก ตัดบอลได้ก่อนที่ อเกวโร จะชาร์จทัน
กาลู มีจังหวะยิงประตูอีกครั้งในนาที 35 เมื่อได้บอลตรงหน้าเขตโทษ ก่อนจะโยกหลอกกองหลังทีมเยือนจนได้ช่องยิง แต่ถูก อเซนโฆ ปัดทิ้งออกไป ลูกเตะมุมต่อมา แลมพาร์ด เปิดโค้งมาเข้าหัว เทอร์รี โหนโหม่งบอลหลุดเสาออกไป
แต่ในที่สุดช่วง 5 นาทีสุดท้าย เชลซี มาทำประตูออกนำได้สำเร็จจากจังหวะที่ โคล หลุดขึ้นมาทางริมเขตโทษด้านซ้าย ก่อนจะผ่านเข้ากลาง กาลู ไม่พลาดซัดผ่านตัว อเซนโฆ เสยตาข่ายให้ทีมออกนำ 1-0 หลังจากนั้นทีมเยือนมีลุ้นเล็กน้อยจากลูกยิงไกลของ ซานตานา แต่แปข้ามคานไป ก่อนจะจบ 45 นาทีแรก
เริ่มครึ่งหลัง สิงห์บลูส์โหมบุกใส่ก่อน มาถึงนาที 50 อเนลกา ได้สับไกหน้าเขตโทษ บอลถูกกองหลังจังหวะแรก แต่ยังกระดอนมาเข้าทางให้ยิงซ้ำอีกครั้ง แต่ถูก อเซนโฆ ปัดทิ้งออกไปอีก นาทีต่อมา เบลเล็ตติ ทุ่มบอลจากริมเขตโทษด้านขวา บอลเด้งพื้นกระดอนเกือบเข้าประตูไป แต่นายด่านทีมเยือนลอยตัวปัดทิ้งออกไป
อย่างไรก็ตาม แอต.มาดริด ก็ต้านไม่อยู่ถูกเจ้าถิ่นซัดหนีห่าง 2-0 จากลูกเตะมุมต่อเนื่องมาจากจังหวะก่อน แลมพาร์ด เปิดบอลมาทางเสาไกล กาลู จัดการโขกเล่นทางส่งบอลตุงตาข่าย หลังจากนั้นอีก 5 นาทีทีมเยือนเกือบตีตื้นขึ้นมาเมื่อ ฟอร์ลัน โหม่งบอลเช็ดให้ อเกวโร หลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษ แต่ถูก เทอร์รี คอยกดดันทำให้ยิงไปถูก เช็ก ป้องกันได้
เชลซี ครองเกมบุกต่อกระทั่งนาที 69 จากการเล่นลูกฟรีคิกสั้นชิงกัน 1-2 จังหวะก่อนที่สุดท้าย แลมพาร์ด จะได้ซัดตรงมุมเขตโทษ บอลพุ่งเรียดเสียบเสาแรกหมดสิทธิ์ที่ อเซนโฆ จะพุ่งปัดทันทำให้เจ้าถิ่นหนี 3-0 โดยหลังจากนำห่างลูกทีมของ อันเชล็อตติ ผ่อนเกมลงทำให้ทีมเยือนมีโอกาสบุกมากขึ้น
ช่วง 15 นาทีสุดท้าย ตราหมีมีจังหวะลุ้นตีไข่แตกถึง 3 จังหวะ แต่ถูก เช็ก ป้องกันได้ทั้งหมด ก่อนที่นาที 90 เจ้าถิ่นจะมาได้ประตูปิดฝาโลงจากความผิดพลาดของ เปเรีย กองหลังทีมเยือนโหม่งผิดเหลี่ยมเข้าประตูตัวเองทำให้สุดท้ายเมื่อจบเกม เชลซี จึงถล่มเอาชนะไป 4-0 เก็บชัย 3 นัดรวด
ส่วนผลการแข่งขันคู่อื่น ในกลุ่มซี ปาโต ดาวยิงทีมชาติบราซิลเหมาสองประตูซึ่งรวมถึงประตูชัยก่อนหมดเวลา 2 นาทีช่วยให้ เอซี มิลาน พลิกกลับมาเอาชนะ รีล มาดริด 3-2 ส่วนในกลุ่มเอ จอร์จิโอ คิเอลลินี ซัดประตูชัยให้ ยูเวนตุส เปิดบ้านเฉือน มัคคาบี ไฮฟา 1-0
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก, จอห์น เทอร์รี, บรานิสลาฟ อีวาโนวิช, แอชลีย์ โคล, จูเลียน เบลเล็ตติ, ไมเคิล เอสเซียง, มิชาเอล บัลลัก, แฟรงค์ แลมพาร์ด, เดโก, นิโกลาส์ อเนลกา, ซาโลมง กาลู
แอต. มาดริด : เซร์คิโอ อเซนโฆ, อัลบาโร โดมิงเกซ โซโต, หลุยส์ เปเรีย, อันโตนิโอ โลเปซ, โธมัส อูฟาลูซี, เปาโล อัสซุนเซา, ราอูล การ์เซีย, เคลแบร์ ซานตานา, เซร์คิโอ อเกวโร, ดิเอโก ฟอร์ลัน
ผลฟุตบอลยูฟา แชมเปียนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม
กลุ่มเอ
บอร์กโดซ์ (ฝรั่งเศส) ชนะ บาเยิร์น มิวนิค (เยอรมัน) 2-1
[0-1 : มิชาเอล ซิยานี ทำเข้าประตูตัวเอง น.6], [1-1 : มิชาเอล ซิยานี น.29], [2-1 : มาร์ก ปลานุส น.40]
ยูเวนตุส (อิตาลี) ชนะ มัคคาบี ไฮฟา (อิสราเอล) 1-0
[1-0 : จอร์จิโอ คิเอลลินี น.47]
กลุ่มบี
ซีเอสเคเอ มอสโก (รัสเซีย) แพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด (อังกฤษ) 0-1
[0-1 : อันโตนิโอ วาเลนเซีย น.86]
โวล์ฟสบวร์ก (เยอรมัน) เสมอ เบซิคตัส (ตุรกี) 0-0
กลุ่มซี
เอฟซี ซูริค (สวิสฯ) แพ้ มาร์กเซย (ฝรั่งเศส) 0-1
[0-1 : กาเบรียล ไฮน์เซ น.69]
เรอัล มาดริด (สเปน) แพ้ เอซี มิลาน (อิตาลี) 2-3
[1-0 : ราอูล น.19], [1-1 : อันเดรีย ปิร์โล น.62], [1-2 : ปาโต น.66], [2-2 : รอยสตัน เดรนเธ น.76], [2-3 : ปาโต น.88]
กลุ่มดี
เชลซี (อังกฤษ) ชนะ แอตเลติโก มาดริด (สเปน) 4-0
[1-0 : ซาโลมง กาลู น.41], [2-0 : ซาโลมง กาลู น.52], [3-0 : แฟรงค์ แลมพาร์ด น.69], [4-0 : หลุยส์ เปเรีย ทำเข้าประตูตัวเอง น.90]
เอฟซี ปอร์โต้ (โปรตุเกส) ชนะ อโปเอล นิโคเซีย (ไซปรัส) 2-1
[0-1 : อัลบาโร เปไรรา ทำเข้าประตูตัวเอง น.21], [1-1 : ฮัลค์ น.33], [2-1 : ฮัลค์ ลูกจุดโทษ น.48]