เทิดศักดิ์ ใจมั่น มิดฟิลด์รุ่นลายครามเชื่อมั่นในฝีมือของ ไบรอัน ร็อบสัน กุนซือชาวอังกฤษว่าจะสามารถนำทีมชาติไทยเก็บชัยชนะเหนือ สิงคโปร์ พร้อมทั้งได้ชูธงไตรรงค์ไปโบกสะบัดในศึกเอเชียน คัพ 2011 รอบสุดท้าย ที่กาตาร์
“น้าเทิด” วัย 36 ปีถูก สตีฟ ดาร์บี สตาฟฟ์โค้ชเลือดผู้ดีเรียกตัวกลับมาติดทัพ “ช้างศึก” ชุดใหญ่แบบสุดเซอร์ไพรส์ หลังจากหายหน้าหายตาไป 2 ปีนับตั้งแต่จบศึกเอเชียน คัพ 2007 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพร่วม ซึ่งล่าสุดดาวเตะจอมทักษะที่ค้าแข้งอยู่กับ สิงคโปร์ อาร์ม ฟอร์ซ ในเมืองลอดช่องออกมาให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ www.the-afc.com
โดยประเด็นสำคัญอยู่ที่ความเชื่อมั่นในตัวของ ไบรอัน ร็อบสัน ตำนานนักเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่จะเข้ามารับงานคุมทีมลูกหนังแดนสยามในวันที่ 16 ตุลาคมนี้ ซึ่ง เทิดศักดิ์ กล่าวว่า “โดยส่วนตัวผมคิดว่าเขามีความสามารถในการดึงศักยภาพของนักเตะไทยออกมาได้อย่างเต็มที่ ด้วยประสบการณ์ของเขาทั้งในฐานะผู้เล่นและผู้จัดการทีม บวกกับบุคลิกที่ผู้เล่นจะให้ความเคารพยำเกรง ทำให้ผมเชื่อว่าเขาจะช่วยให้เรายกระดับมาตรฐานการเล่นให้สูงขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ได้”
สำหรับการคืนสู่ทำเนียบทีมชาติคราวนี้ อดีตแข้งบีอีซี เทโรศาสน ยอมรับว่าไม่ได้คาดหวังที่จะได้ลงสนามแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย แต่ยินดีนำประสบการณ์ที่ตนมีอยู่มาช่วยทีมให้เกิดประโยชน์สูงสุด “ถ้าเป็นการทำเพื่อทีมชาติแล้ว ผมไม่มีปัญหาหรือลำบากใจกับบทบาทที่จะได้รับ เพราะพวกเราทุกคนต่างก็หวังได้เห็นธงชาติไทยไปโบกสะบัดที่ กาตาร์ ในปี 2011 นี่คือภารกิจที่ทุกคนต้องฝ่าฟันร่วมกันโดยไม่เกี่ยงว่าจะมีส่วนร่วมกับทีมมากหรือน้อยเพียงใดก็ตาม”
ขณะเดียวกัน เทิดศักดิ์ ยังแสดงความคิดเห็นว่าขุนพลลูกหนังลอดช่องอาจไม่ได้เปรียบไปกว่าทัพช้างศึกเท่าใดนัก เนื่องจาก เอส.ลีก ยังไม่ปิดฤดูกาลและมีนักเตะทีมชาติอีกหลายราย อาทิ นอห์ อลัม ชาห์ ที่ติดรับใช้ต้นสังกัดใน อินโดนีเซีย ซูเปอร์ ลีก ซึ่งจะเปิดฉากซีซันใหม่ในช่วงปลายเดือนนี้ ทำให้ ราดอยโก อัฟราโมวิช เฮดโค้ชชาวเซอร์เบียมีเวลาเตรียมทีมให้พร้อมก่อนเผชิญหน้ากันในเอเชียน คัพ รอบคัดเลือก กลุ่มอี อย่างจำกัดจำเขี่ย
โดยน้าเทิดอธิบายว่า “ปัญหาข้างต้นจะเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการฝึกซ้อมเตรียมความพร้อมของทีมชาติสิงคโปร์ เนื่องจากมีเวลารวมตัวกันค่อนข้างน้อย ทำให้ประสิทธิภาพของทีมอาจด้อยลงไปบ้าง” ซึ่ง ไทย มีคิวออกไปเยือนที่บิชาน สเตเดียม ก่อนในวันเสาร์ที่ 14 พฤศจิกายน แล้วจึงกลับมาเล่นที่สนามราชมังคลากีฬาสถานในวันพุธที่ 18 พฤศจิกายน
“น้าเทิด” วัย 36 ปีถูก สตีฟ ดาร์บี สตาฟฟ์โค้ชเลือดผู้ดีเรียกตัวกลับมาติดทัพ “ช้างศึก” ชุดใหญ่แบบสุดเซอร์ไพรส์ หลังจากหายหน้าหายตาไป 2 ปีนับตั้งแต่จบศึกเอเชียน คัพ 2007 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพร่วม ซึ่งล่าสุดดาวเตะจอมทักษะที่ค้าแข้งอยู่กับ สิงคโปร์ อาร์ม ฟอร์ซ ในเมืองลอดช่องออกมาให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ www.the-afc.com
โดยประเด็นสำคัญอยู่ที่ความเชื่อมั่นในตัวของ ไบรอัน ร็อบสัน ตำนานนักเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่จะเข้ามารับงานคุมทีมลูกหนังแดนสยามในวันที่ 16 ตุลาคมนี้ ซึ่ง เทิดศักดิ์ กล่าวว่า “โดยส่วนตัวผมคิดว่าเขามีความสามารถในการดึงศักยภาพของนักเตะไทยออกมาได้อย่างเต็มที่ ด้วยประสบการณ์ของเขาทั้งในฐานะผู้เล่นและผู้จัดการทีม บวกกับบุคลิกที่ผู้เล่นจะให้ความเคารพยำเกรง ทำให้ผมเชื่อว่าเขาจะช่วยให้เรายกระดับมาตรฐานการเล่นให้สูงขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ได้”
สำหรับการคืนสู่ทำเนียบทีมชาติคราวนี้ อดีตแข้งบีอีซี เทโรศาสน ยอมรับว่าไม่ได้คาดหวังที่จะได้ลงสนามแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย แต่ยินดีนำประสบการณ์ที่ตนมีอยู่มาช่วยทีมให้เกิดประโยชน์สูงสุด “ถ้าเป็นการทำเพื่อทีมชาติแล้ว ผมไม่มีปัญหาหรือลำบากใจกับบทบาทที่จะได้รับ เพราะพวกเราทุกคนต่างก็หวังได้เห็นธงชาติไทยไปโบกสะบัดที่ กาตาร์ ในปี 2011 นี่คือภารกิจที่ทุกคนต้องฝ่าฟันร่วมกันโดยไม่เกี่ยงว่าจะมีส่วนร่วมกับทีมมากหรือน้อยเพียงใดก็ตาม”
ขณะเดียวกัน เทิดศักดิ์ ยังแสดงความคิดเห็นว่าขุนพลลูกหนังลอดช่องอาจไม่ได้เปรียบไปกว่าทัพช้างศึกเท่าใดนัก เนื่องจาก เอส.ลีก ยังไม่ปิดฤดูกาลและมีนักเตะทีมชาติอีกหลายราย อาทิ นอห์ อลัม ชาห์ ที่ติดรับใช้ต้นสังกัดใน อินโดนีเซีย ซูเปอร์ ลีก ซึ่งจะเปิดฉากซีซันใหม่ในช่วงปลายเดือนนี้ ทำให้ ราดอยโก อัฟราโมวิช เฮดโค้ชชาวเซอร์เบียมีเวลาเตรียมทีมให้พร้อมก่อนเผชิญหน้ากันในเอเชียน คัพ รอบคัดเลือก กลุ่มอี อย่างจำกัดจำเขี่ย
โดยน้าเทิดอธิบายว่า “ปัญหาข้างต้นจะเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการฝึกซ้อมเตรียมความพร้อมของทีมชาติสิงคโปร์ เนื่องจากมีเวลารวมตัวกันค่อนข้างน้อย ทำให้ประสิทธิภาพของทีมอาจด้อยลงไปบ้าง” ซึ่ง ไทย มีคิวออกไปเยือนที่บิชาน สเตเดียม ก่อนในวันเสาร์ที่ 14 พฤศจิกายน แล้วจึงกลับมาเล่นที่สนามราชมังคลากีฬาสถานในวันพุธที่ 18 พฤศจิกายน