ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2009-2010 เปิดฉากโม่แข้งกันไปแล้ว 8 นัด (บางทีม 7 นัด) โดยปีนี้มีการเสมอกันน้อยลงและมีการทำประตูเฉลี่ยถึง 3.01 ประตู มากที่สุดนับตั้งแต่สถาปนาลีกสูงสุดเมืองผู้ดีเปลี่ยนชื่อจาก ดิวิชัน 1 ล่าสุดสำนักข่าว "เดลี เมล ออนไลน์" ได้นำ 7 เหตุผลมาอธิบายว่าทำไมปีนี้ถึง "น่าตื่นเต้น" ตั้งแต่ออกสตาร์ท
1.แมนเชสเตอร์ ซิตี, ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ และ แอสตัน วิลลา มีสิทธิ์ก้าวขึ้นมาลุ้นพื้นที่ ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก หลังจากโชว์ฟอร์มเด่นเอาชนะ "บิ๊กโฟร์" ได้แล้ว
2.นักเตะดาวดับกลับมาเล่นได้ดี ยกตัวอย่าง เคร็ก เบลลามี หอก แมนเชสเตอร์ ซิตี ลงเล่นไป 7 เกมยิงได้ 4 ประตูจากโอกาส 7 ครั้งและปั้นจังหวะให้เพื่อนได้ 9 ครั้ง ขณะที่ซูเปอร์สตาร์ค่ายเดียวกันอย่าง โรบิญโญ ได้รับบาดเจ็บและลงสนามไปแค่ 2 เกมยังยิงไม่ได้เลย
3.กองหลังช่วยยิง โทมัส เฟอร์มาเลน กองหลังจาก อาร์เซนอล ที่เพิ่งย้ายจาก อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ปรับตัวเข้ากับบอลอังกฤษได้เร็ว โดยยิงไปแล้ว 4 ประตูในลีกและอีก 1 ลูกในบอลยุโรป
4.เฝ้าบ้านเยี่ยม ไปเยือนแย่ คือคำจำกัดความของทีม เบิร์นลีย์ โดยกุนซือ โอเวน คอยล์ ที่ชนะรวด 4 แมตช์ในบ้านรวมถึงการเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ 1-0 ทั้งที่ผู้เล่นในทีมมีเพดานเงินเดือนแค่ 15,000 ปอนด์ (ประมาณ 825,000 บาท) ต่อสัปดาห์ เท่านั้น
5. แลกหมัดทุกแมตช์ สกอร์ 1-0 สำหรับฤดูกาลนี้เป็นเรื่องล้าสมัย ถึงเวลานี้มีการซัลโวประตูไปแล้ว 229 ลูก เฉลี่ย 3.01 ประตูต่อนัดมากที่สุดนับตั้งแต่มี พรีเมียร์ลีก โดย อาร์เซนอล กดไป 24 ลูก โดยทำ 6 ประตูได้ถึง 2 นัดในเกม ถล่ม เอฟเวอร์ตัน 6-1 และยำ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 6-2 ส่วน ลิเวอร์พูล ยิงไป 22 ลูก, แมนฯ ซิตี กดไป 15 ประตู เช่นเดียวกับ สเปอร์ส ที่ซัดไป 19 ประตู และน่าแปลกคือ ซันเดอร์แลนด์ ยิงไปแล้ว 16 ประตู
6.สตีฟ บรูซ ปฏิวัติความคิดในการเยือนทีมใหญ่ การใช้กองหน้า 2 คนไปเยือน แมนฯยู ถึง โอลด์ แทรฟฟอร์ด และได้ผลเสมอ 2-2 กลับมาเป็นการยืนยันว่า สตีฟ บรูซ เป็นพวกหัวก้าวหน้าและทำสิ่งที่ถูกต้อง หลังจากก่อนหน้านี้ทีมเล็กอุด 10 คนหน้าประตูตนเองเสมอๆ หากไปเยือน "บิ๊กโฟร์"
7.ฟุตบอลโลกรออยู่ นักฟุตบอลทุกคนลงสนามด้วยความกระชุ่มกระชวย โดยเฉพาะนักเตะที่ต้องลุ้นติดทีมชาติไปลุยบอลโลก 2010 จะวิ่งกันมากขึ้นเพื่อโชว์ฟอร์มเด่น
