อรรถพล บุษปาคม กุนซือเมืองทอง-หนองจอก ยูไนเต็ด ยอมรับว่าเสียดายที่พลาดเก็บ 3 คะแนนเหนือ ชลบุรี เอฟซี ในแมตช์สำคัญ ชี้ 3 นัดที่เหลือล้วนเป็นงานหิน ด้าน เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ออกมาพูดว่าโค้งสุดท้ายของ เดอะ ชาร์ค ก็หนักพอๆ กัน
ซูเปอร์บิ๊กแมตช์ประจำฤดูกาล 2009 ของศึกไทยพรีเมียร์ลีก เมื่อช่วงหัวค่ำวันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา “กิเลนผยอง” ทีมจ่าฝูงยังไม่สามารถทำแต้มฉีกหนี “ฉลามชล” บนตารางได้ เมื่อเสมอในบ้านธันเดอร์โดม สปอร์ต คอมเพล็กซ์ 1-1 ทำให้ เมืองทองฯ มีอยู่ 56 คะแนน นำหน้าคู่ปรับเพียงแต้มเดียวเหมือนเดิม
ด้าน “โค้ชแต๊ก” ออกมาให้สัมภาษณ์หลังจบเกมถึงสถานการณ์ลุ้นแชมป์ของ เมืองทองฯ ว่า “ก่อนเกมเราหวังเก็บ 3 แต้มเพื่อเพิ่มช่องว่างซึ่งก็น่าเสียดายที่ทำไม่สำเร็จ และผมก็ยอมรับว่า ชลบุรี เล่นกันได้อย่างมีวินัยทั้งในเกมรุกและเกมรับ นอกจากนั้น เรายังเสียประตูเร็วเกินไปตั้งแต่นาทีที่ 4 อันเกิดจากการขาดสมาธิเพียงนิดเดียว และครึ่งหลังเราก็มีโอกาสไม่น้อยแต่สุดท้ายก็จบกันไม่ลงเอง ซึ่งคงต้องหาทางปรับปรุงในแมตช์ที่เหลือ”
เมื่อพูดถึง 3 นัดสุดท้ายที่จะต้องเจอ ทีทีเอ็ม สมุทรสาคร (เยือน) โอสถสภา เอ็ม-150 สระบุรี (เหย้า) และ บีอีซี เทโรศาสน (เหย้า) อรรถพล กล่าวว่า “ผมคิดว่า ซิโก้ (เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง) เองก็คงหวังเก็บให้ได้ 9 แต้มเต็มเหมือนกัน ซึ่ง เมืองทองฯ จะไม่ไปมองดู ชลบุรี แต่จะหันมามีสมาธิกับการทำงานของตัวเอง แม้ 3 นัดที่เหลือจะเป็นงานหนัก เพราะแต่ละทีมก็กำลังฟอร์มดี โดยเฉพาะ โอสถฯ และ บีอีซี ที่ต้องการจบฤดูกาลด้วยอันดับสูงๆ ที่ประมาทไม่ได้ ดังนั้น เราจะเดินหน้าต่อไปโดยทำหน้าที่ให้ดีที่สุด”
ขณะที่ เจษฎา จิตสวัสดิ์ กองหลังกัปตันทีมกิเลนพูดถึงความคึกคักในสนามที่เต็มไปด้วยผู้ชมมากกว่า 15,000 คนว่า “นี่เป็นบรรยากาศที่ยอดเยี่ยมเกินคำบรรยายจริงๆ ทำให้เกมสนุกมากยิ่งขึ้น แต่เราเองก็เสียสมาธิง่ายเกินไปในจังหวะเสียประตูแรก ทว่ายังตามมาเอาคืนได้สำเร็จ ส่วนเรื่องลุ้นแชมป์เราก็ยังมั่นใจว่าจะทำได้เพราะทีมมีขวัญกำลังใจรวมถึงความมุ่งมั่นอย่างเต็มเปี่ยม เราจะฝ่าฟันร่วมกันไปให้ถึงจุดนั้นให้ได้”
ข้ามมาที่ “ซิโก้” เฮดโค้ชชลบุรีที่เอ่ยปากชื่นชมลูกทีมว่า “สภาพทีมเราค่อนข้างล้าจากการกรำศึกหนักติดต่อกันหลายรายการจึงมีการพักตัวผู้เล่นบางราย เช่น พิภพ อ่อนโม้ และ โคเน โมฮาเหม็ด ซึ่งไม่สมบูรณ์เต็มที่ ถึงขั้นที่ว่าต้องลุ้นจนนาทีสุดท้ายว่าจะจัด 11 คนแรกอย่างไร ขณะที่ เมืองทองฯ เองก็สดกว่าจึงเน้นตั้งรับลึกในแดนตัวเองเสียส่วนใหญ่ โชคดีที่เราได้ประตูนำเร็วด้วยทำให้งานง่ายขึ้น การได้มา1 แต้มก็ถือว่าเป็นไปตามเป้า”
สำหรับคู่แข่งที่เหลือของ เดอะ ชาร์ค ประกอบด้วย จุฬา ยูไนเต็ด (เหย้า) ราชนาวี ระยอง (เยือน) และ การท่าเรือไทย เอฟซี (เหย้า) ซึ่งอดีตดาวยิงจอมตีลังกามองว่า “3 นัดที่เหลือเรายิ่งต้องช่วยกันทำงานมากขึ้น แม้บางคนอาจคิดว่าเกมต่อๆ ไปของเราไม่หนัก แต่อย่าลืมว่า จุฬา กับ ราชนาวี ยังต้องการคะแนนเพื่อหนีตกชั้น ซึ่ง จุฬา เองก็มีกองหน้า 3 คนที่อันตราย ส่วน ราชนาวี เราก็ต้องไปเยือน และยังมี การท่าเรือไทย อีก ผมเชื่อว่าใครที่เจอ ชลบุรี ก็ต้องการเอาชนะให้ได้ทั้งนั้น เราเองจึงมีงานหนักไม่แพ้ เมืองทองฯ”
ท้ายสุด ซิโก้ พูดถึงแฟนบอลที่เข้ามาเชียร์ในสนามมากกว่า 15,000 คน รวมทั้งอีก 4,000 รายที่นั่งชมจอยักษ์ในธันเดอร์โดม คอนเสิร์ต ฮอลล์ ข้างสังเวียนแข้งว่า “ต้องขอบคุณกองเชียร์ทั้งสองทีมที่มาช่วยกันสร้างสีสันในนัดนี้ นับเป็นนิมิตหมายอันดีของวงการฟุตบอลไทย ซึ่งผมและโค้ชคนอื่นๆ ก็จะมุ่งมั่นทำหน้าที่ในการพัฒนานักฟุตบอลของตัวเองให้ดีที่สุด เพื่อช่วยผลักดันให้ฟุตบอลไทยมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น”
ด้าน สินทวีชัย หทัยรัตนกุล ผู้รักษาประตูฉลามชลเสริมบ้างว่า “บรรยากาศนัดนี้ถือว่าสนุกทีเดียว แต่ถึงผมจะโดนกดดันจากแฟนบอลที่อยู่บนอัฒจันทร์หลังประตูตลอดเกมก็ไม่เป็นปัญหา เพราะพวกเขาก็ส่งเสียงตะโกนกันตามปกติซึ่งเราเองก็ต้องมีสมาธิอยู่กับเกมให้ได้ ส่วนเรื่องที่มีผู้เล่นบาดเจ็บเพิ่มอย่าง เกียรติประวุฒิ สายแวว ก็ถือว่าน่าหนักใจ เพราะก่อนเกมนี้เราก็พักไม่กี่วันและแทบไม่ได้ซ้อมแท็กติกอะไรมากมาย เพื่อให้ร่างกายสมบูรณ์ที่สุด ขณะที่อาการบาดเจ็บต้นขาซ้ายของผมก็ยังมีอยู่บ้าง สภาพผมตอนนี้อยู่ที่ 80 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากต้องฉีดยาชาลงเล่นด้วย แต่ตัวผมหากไม่มีปัญหาหนักหนาสาหัสก็อยากลงสนามช่วยทีมต่อไป”
อนึ่ง ยอดจำหน่ายบัตรเข้าชมการแข่งขันของเกมนี้ตีตัวเลขออกมาได้สูงถึง 803,470 บาท ส่วนรายได้จากการขายสินค้าที่ระลึกหน้าสนามก็ทำยอดทะลุเป้าถึงประมาณ 830,000 บาท
