ชาญวิทย์ ผลชีวิน ตกเป็นเป้าหมายของบรรดาสโมสรลูกหนังในแดนเหงียนที่ต้องการตัวไปกุมบังเหียน โดยอดีตหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยยอมรับในงานจับสลากประกบคู่ฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ เมื่อช่วงบ่ายวันศุกร์ที่ 2 ตุลาคม ว่ามีการติดต่อเข้ามาเรื่อยๆ แต่ยังรอดูข้อเสนอก่อนชั่งใจว่าจะตอบตกลงรับงานหรือไม่
ซึ่ง “โค้ชหรั่ง” ออกมาเปิดเผยว่า “เรื่องนี้เคยมีข่าวมาบ้าง ซึ่งผมได้รับการติดต่อจาก ฮอง อันห์ ยาลาย เป็นระยะๆ ตั้งแต่ 3-4 เดือนก่อนตั้งแต่ช่วงที่ ดุสิต เฉลิมแสน มาอบรมหลักสูตรโค้ชกับผมแล้วไปทำทีมให้เขา กระทั่งผลงานไม่ดีแล้วเปลี่ยนมาเป็น ชัชชัย พหลแพทย์ แต่ก็ยังไม่มีทีมไหนที่มาคุยกับผมโดยตรง จะมีก็แต่ ด่อง ทัป ที่ติดต่อทางเมล์มาตลอด ส่วนอีกทีมหนึ่งอยู่ในระดับดิวิชันหนึ่งซึ่งมีโรงงานกระดาษที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนามเป็นสปอนเซอร์ ซึ่งหากเลื่อนชั้นขึ้นสู่ วี-ลีก พวกเขาจะมาคุยกับผมอย่างจริงจังอีกครั้ง”
อย่างไรก็ตาม อดีตกุนซือทีมชาติไทยกล่าวถึงอุปสรรคที่ติดงานรับราชการให้กับสำนักงานพัฒนาการกีฬาและนันทนาการ (สพก.) ในตำแหน่งหัวหน้ากลุ่มพัฒนาผู้ฝึกสอนและผู้ตัดสินกีฬาว่า “ทีมที่ว่ามาก็ทราบถึงงานราชการของผมจึงยังไม่ได้ติดต่ออย่างจริงจัง เพราะเขารู้ว่าผมตัดสินใจยาก แต่ถ้าจะคุยกันจริงๆ ก็คงต้องดูข้อเสนอก่อน ซึ่งตอนนี้ผมเพิ่งได้รับมอบหมายจากคุณสมบัติ คุรุพันธ์ ผู้อำนวยการสพก. ให้ทำทีมนักเรียนไทย อายุ 18 ปี ลงแข่งรายการฟุตบอลนักเรียนชิงแชมป์เอเชีย ครั้งที่ 37 ระหว่างวันที่ 1-9 ธันวาคมที่เราเป็นเจ้าภาพด้วย ทำให้ยุ่งอยู่กับการเตรียมทีม”
สำหรับเรื่องข้อเสนอที่กำลังรอพิจารณานั้น ชาญวิทย์ กล่าวว่า “ในบรรดาทีมที่ติดต่อมามี ฮอง อันห์ ยาลาย ที่จริงจังกว่าใครเพราะเขายืนยันว่าต้องการโค้ชชาวไทย หลังจากที่ ซิโก้ (เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง), โอ่ง (ดุสิต) และ น้าชัช (ชัชชัย) เคยทำงานให้กับเขาแล้วประทับใจรู้ว่าเราทำงานกันอย่างไร ถ้าเขาตัดสินใจเลือกผมจริงๆ ก็ต้องมาคุยรายละเอียดส่วนตัวกันอีกที ถ้าเงื่อนไขดีจริงก็มีแนวโน้มที่จะตอบตกลงได้ แต่ใจจริงผมก็อยากทำงานจนจบอายุราชการอีก 5-6 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าจะยื่นสัญญามากี่ปี ค่าตอบแทนเท่าไหร่ และเงื่อนไขอื่นๆ ด้วย ซึ่งเขาเองก็ให้เกียรติเรามาก”
