เฟร์นานโด ตอร์เรส ดาวยิงทีมชาติสเปน เหมาสองประตูช่วยให้ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล บุกไปเฉือนเอาชนะ “ขุนค้อน” เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 3-2 ที่สนามอัปตัน ปาร์ก ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่สุดท้าย เมื่อวันเสาร์ที่ 19 ก.ย.
ผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 2-3 ลิเวอร์พูล
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ของกุนซือ จิอันฟรังโก โซลา มีข่าวดีได้ เฮริตา อิลุงกา และ วาลอน เบห์รามี สองผู้เล่นตัวหลักกลับมาจากอาการบาดเจ็บ ขณะที่ ราฟาเอล เบนิตเซ นายใหญ่ ลิเวอร์พูล ยังคงผู้เล่นชุดเดิมจากเกมที่แล้ว โดยมี สตีเวน เจอร์ราร์ด และ เฟร์นานโด ตอร์เรส เป็นตัวเดินเกมในแดนหน้าเหมือนเช่นเคย
เริ่มครึ่งแรกมาได้ 3 นาที ลิเวอร์พูล เกือบเสียประตูเมื่อ คาร์ราเกอร์ ส่งบอลพลาดถูก ไฮน์ส ฉกจากเท้าจนหลุดเข้าไปดวลกับ เรนา ในเขตโทษ แต่ลูกยิงดันชนเสากระดอนออกมาอย่างน่าเสียดาย หลังจากอีก 3 นาที ตอร์เรส ได้บอลตรงหน้าเขตโทษ ก่อนจะไหลให้ เบนายูน หลุดเข้าไปยิง แต่ทำได้ไม่ดีพอถูก กรีน ป้องกันไว้ได้
มาถึงนาที 14 เวสต์แฮม ต่อบอลกันขึ้นมาได้สวยทางริมเส้นด้านขวา ก่อนที่ โคล จะเปิดบอลเข้ากลาง กลายเป็น จอห์นสัน ของทีมเยือนโหม่งผิดเหลี่ยมเกือบเข้าประตูตัวเอง แต่ยังดีที่ เรนา ผวาปัดเอาไว้ได้ทัน จากนั้นนาทีถัดมา จิอามันติ ได้ซัดบริเวณเส้นเขตโทษ แต่ยิงบดออกหลังไป
เจอร์ราร์ด ตัดบอลจาก อิลุงกา ได้ในนาที 17 ก่อนจะจ่ายยัดเข้าในให้ ตอร์เรส พลิกตัวยิงในเขตโทษ แต่บอลไม่ตรงกรอบหลุดเสาออกหลังไป แต่แล้วดาวยิงทีมชาติสเปนก็มาซัลโวได้สำเร็จจากการใช้ความสามารถเฉพาะตัวกระชากบอลหนี ทอมกินส์ ของเจ้าถิ่น จนหลุดเข้าไปจิ้มบอลมุมแคบแสกหน้า กรีน ส่งบอลตุงตาข่าย สกอร์ขยับ 1-0
เกมหยุดไปพักใหญ่เนื่องจาก อัพสัน ของ เวสต์แฮม มีอาการบาดเจ็บจนถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามไป หลังจากนั้นเมื่อกลับมาเล่นกันใหม่ได้ไม่กี่นาที เจ้าถิ่นก็ตามตีเสมอได้สำเร็จจากลูกจุดโทษที่ คาร์ราเกอร์ ไปทำฟาวล์ ไฮน์ส ล้มลงและเป็น ดิอามันติ แม้จะลื่นในจังหวะยิง แต่สังหารไม่พลาดทำให้ "ขุนค้อน" ตีเสมอ 1-1
หลังจากเสมอกัน เกมของทั้งสองทีมสู้กันค่อนข้างจะสูสี แต่เมื่อมาถึงนาที 41 “หงส์แดง” เป็นฝ่ายพลิกออกนำอีกครั้งเป็น 2-1 จากลูกเตะมุม เบนายูน เปิดบอลมาเข้าหัว เจอร์ราร์ด โหม่งสะบัดไปทางเสาสอง ก่อนที่ เคาท์ จะแหย่เท้าเปลี่ยนทางบอลเล็กน้อยเข้าประตูไป
แต่ "ขุนค้อน" ไม่เสียสมาธิพยายามบุกเพื่อทวงประตูคืน โดย ดิอามันติ ได้ซัดฟรีคิกก่อนหมดเวลานาทีเดียว แต่บอลแฉลบกำแพงออกหลังไปได้เพียงลูกเตะมุม และจังหวะนี้เองเจ้าบ้านก็มาตีเสมอได้สำเร็จ เมื่อ โนเบิล เปิดบอลมาเข้าหัว โคล ซึ่งเบียด สเคอร์เทล โหม่งเช็ดเข้าหน้าต่างเสาสองทำให้สกอร์เสมอ 2-2 และจบ 45 นาทีแรกไป
เริ่มครึ่งหลัง ทั้งสองทีมเปิดเกมบุกเข้าใส่กัน โดย ลิเวอร์พูล ดูจะเหนือกว่าเล็กน้อย แต่โอกาสลุ้นทำประตูก็ยังไม่ชัดเจนนัก เมื่อเกมมาถึงนาที 61 เบนายูน มีจังหวะเลี้ยงบอลตัดจากด้านซ้ายเข้ามาในเขตโทษและเกือบได้สับไก แต่สุดท้ายถูกกองหลังเจ้าถิ่นสกัดออกมาอย่างหวุดหวิด
อย่างไรก็ตาม หลังนวดอยู่พักใหญ่ “หงส์แดง” มาทำประตูออกนำอีกครั้งได้สำเร็จ จากจังหวะที่ บาเบล เก็บบอลได้ทางริมเส้นด้านขวา กระชากขึ้นมาเปิดเข้ากลาง บอลลอยไปเข้าหัว ตอร์เรส เบียดกองหลังเจ้าถิ่นโขกเต็มหน้าผากส่งบอลตุงตาข่ายให้ทีมนำอีกครั้ง 3-2
อีก 2 นาทีต่อมา เวสต์แฮม เกือบตีเสมอได้อย่างทันควัน เมื่อ โคล โหม่งบอลเช็ดต่อให้ ดิอามันติ โขกตรงหน้าประตู แต่ เรนา ไม่พลาดผวาปัดออกไปได้ หลังจากนั้น ลิเวอร์พูล สามารถประคองเกมยันไม่ให้เสียประตูจนครบ 90 นาทีจึงเก็บชัยชนะไป 3-2 คว้าสามคะแนนเต็ม พร้อมขึ้นมาอยู่ที่ 3 ของตาราง
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เวสต์แฮม : โรเบิร์ต กรีน, แมทธิว อัพสัน ,เจมส์ ทอมกินส์, เฮริตา อีลุงกา, ฌูเลียน โฟแบร์ต, สกอตต์ ปาร์กเกอร์, วาลอน เบห์รามี, มาร์ก โนเบิล, ซาวอน ไฮน์ส, คาร์ตัน โคล, อเลสซานโดร ดิอามันติ
ลิเวอร์พูล : เปเป เรนา, มาร์ติน สเคอร์เทล, เจมี คาร์ราเกอร์, เอมิเลียโน อินซัว, เกล็น จอห์นสัน, ฮาเวียร์ มาสเชราโน ,ลูคัส เลวา, สตีเวน เจอร์ราร์ด, ยอสซี เบนายูน, เฟร์นานโด ตอร์เรส, เดิร์ก เคาท์
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
เบิร์นลีย์ ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 3-1
[1-0 : แกรแฮม อเล็กซานเดอร์ ลูกจุดโทษ น.13], [1-1 : ดาร์เรน เบนท์ น.39], [2-1 : เดวิด นูเจนท์ น.67], [3-1 : เดวิด นูเจนท์ น.86]
อาร์เซนอล ชนะ วีแกน 4-0
[1-0 : โธมัส เวอร์มาเลน น.25], [2-0 : โธมัส เวอร์มาเลน น.49], [3-0 : เอดูอาร์โด น.59], [4-0 : เชส ฟาเบรกาส น.90]
แอสตัน วิลลา ชนะ ปอร์ทสมัธ 2-0
[1-0 : เจมส์ มิลเนอร์ ลูกจุดโทษ น.34], [2-0 : กาเบรียล อักบอนลาฮอร์ น.43]
โบลตัน เสมอ สโต๊ค 1-1
[0-1 : เดฟ คิตสัน น.53], [1-1 : แมทธิว เทย์เลอร์ ลูกจุดโทษ น.89]
ฮัลล์ แพ้ เบอร์มิงแฮม 0-1
[0-1 : แกรี โอคอนเนอร์ น.75]
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด แพ้ ลิเวอร์พูล 2-3
[0-1 : เฟร์นานโด ตอร์เรส น.20], [1-1 : อเลสซานโดร ดิอามันติ ลูกจุดโทษ น.29], [1-2 : เดิร์ก เคาท์ น.41], [2-2 : คาร์ลตัน โคล น.45], [2-3 : เฟร์นานโด ตอร์เรส น.75]
ผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 2-3 ลิเวอร์พูล
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ของกุนซือ จิอันฟรังโก โซลา มีข่าวดีได้ เฮริตา อิลุงกา และ วาลอน เบห์รามี สองผู้เล่นตัวหลักกลับมาจากอาการบาดเจ็บ ขณะที่ ราฟาเอล เบนิตเซ นายใหญ่ ลิเวอร์พูล ยังคงผู้เล่นชุดเดิมจากเกมที่แล้ว โดยมี สตีเวน เจอร์ราร์ด และ เฟร์นานโด ตอร์เรส เป็นตัวเดินเกมในแดนหน้าเหมือนเช่นเคย
เริ่มครึ่งแรกมาได้ 3 นาที ลิเวอร์พูล เกือบเสียประตูเมื่อ คาร์ราเกอร์ ส่งบอลพลาดถูก ไฮน์ส ฉกจากเท้าจนหลุดเข้าไปดวลกับ เรนา ในเขตโทษ แต่ลูกยิงดันชนเสากระดอนออกมาอย่างน่าเสียดาย หลังจากอีก 3 นาที ตอร์เรส ได้บอลตรงหน้าเขตโทษ ก่อนจะไหลให้ เบนายูน หลุดเข้าไปยิง แต่ทำได้ไม่ดีพอถูก กรีน ป้องกันไว้ได้
มาถึงนาที 14 เวสต์แฮม ต่อบอลกันขึ้นมาได้สวยทางริมเส้นด้านขวา ก่อนที่ โคล จะเปิดบอลเข้ากลาง กลายเป็น จอห์นสัน ของทีมเยือนโหม่งผิดเหลี่ยมเกือบเข้าประตูตัวเอง แต่ยังดีที่ เรนา ผวาปัดเอาไว้ได้ทัน จากนั้นนาทีถัดมา จิอามันติ ได้ซัดบริเวณเส้นเขตโทษ แต่ยิงบดออกหลังไป
เจอร์ราร์ด ตัดบอลจาก อิลุงกา ได้ในนาที 17 ก่อนจะจ่ายยัดเข้าในให้ ตอร์เรส พลิกตัวยิงในเขตโทษ แต่บอลไม่ตรงกรอบหลุดเสาออกหลังไป แต่แล้วดาวยิงทีมชาติสเปนก็มาซัลโวได้สำเร็จจากการใช้ความสามารถเฉพาะตัวกระชากบอลหนี ทอมกินส์ ของเจ้าถิ่น จนหลุดเข้าไปจิ้มบอลมุมแคบแสกหน้า กรีน ส่งบอลตุงตาข่าย สกอร์ขยับ 1-0
เกมหยุดไปพักใหญ่เนื่องจาก อัพสัน ของ เวสต์แฮม มีอาการบาดเจ็บจนถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามไป หลังจากนั้นเมื่อกลับมาเล่นกันใหม่ได้ไม่กี่นาที เจ้าถิ่นก็ตามตีเสมอได้สำเร็จจากลูกจุดโทษที่ คาร์ราเกอร์ ไปทำฟาวล์ ไฮน์ส ล้มลงและเป็น ดิอามันติ แม้จะลื่นในจังหวะยิง แต่สังหารไม่พลาดทำให้ "ขุนค้อน" ตีเสมอ 1-1
หลังจากเสมอกัน เกมของทั้งสองทีมสู้กันค่อนข้างจะสูสี แต่เมื่อมาถึงนาที 41 “หงส์แดง” เป็นฝ่ายพลิกออกนำอีกครั้งเป็น 2-1 จากลูกเตะมุม เบนายูน เปิดบอลมาเข้าหัว เจอร์ราร์ด โหม่งสะบัดไปทางเสาสอง ก่อนที่ เคาท์ จะแหย่เท้าเปลี่ยนทางบอลเล็กน้อยเข้าประตูไป
แต่ "ขุนค้อน" ไม่เสียสมาธิพยายามบุกเพื่อทวงประตูคืน โดย ดิอามันติ ได้ซัดฟรีคิกก่อนหมดเวลานาทีเดียว แต่บอลแฉลบกำแพงออกหลังไปได้เพียงลูกเตะมุม และจังหวะนี้เองเจ้าบ้านก็มาตีเสมอได้สำเร็จ เมื่อ โนเบิล เปิดบอลมาเข้าหัว โคล ซึ่งเบียด สเคอร์เทล โหม่งเช็ดเข้าหน้าต่างเสาสองทำให้สกอร์เสมอ 2-2 และจบ 45 นาทีแรกไป
เริ่มครึ่งหลัง ทั้งสองทีมเปิดเกมบุกเข้าใส่กัน โดย ลิเวอร์พูล ดูจะเหนือกว่าเล็กน้อย แต่โอกาสลุ้นทำประตูก็ยังไม่ชัดเจนนัก เมื่อเกมมาถึงนาที 61 เบนายูน มีจังหวะเลี้ยงบอลตัดจากด้านซ้ายเข้ามาในเขตโทษและเกือบได้สับไก แต่สุดท้ายถูกกองหลังเจ้าถิ่นสกัดออกมาอย่างหวุดหวิด
อย่างไรก็ตาม หลังนวดอยู่พักใหญ่ “หงส์แดง” มาทำประตูออกนำอีกครั้งได้สำเร็จ จากจังหวะที่ บาเบล เก็บบอลได้ทางริมเส้นด้านขวา กระชากขึ้นมาเปิดเข้ากลาง บอลลอยไปเข้าหัว ตอร์เรส เบียดกองหลังเจ้าถิ่นโขกเต็มหน้าผากส่งบอลตุงตาข่ายให้ทีมนำอีกครั้ง 3-2
อีก 2 นาทีต่อมา เวสต์แฮม เกือบตีเสมอได้อย่างทันควัน เมื่อ โคล โหม่งบอลเช็ดต่อให้ ดิอามันติ โขกตรงหน้าประตู แต่ เรนา ไม่พลาดผวาปัดออกไปได้ หลังจากนั้น ลิเวอร์พูล สามารถประคองเกมยันไม่ให้เสียประตูจนครบ 90 นาทีจึงเก็บชัยชนะไป 3-2 คว้าสามคะแนนเต็ม พร้อมขึ้นมาอยู่ที่ 3 ของตาราง
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เวสต์แฮม : โรเบิร์ต กรีน, แมทธิว อัพสัน ,เจมส์ ทอมกินส์, เฮริตา อีลุงกา, ฌูเลียน โฟแบร์ต, สกอตต์ ปาร์กเกอร์, วาลอน เบห์รามี, มาร์ก โนเบิล, ซาวอน ไฮน์ส, คาร์ตัน โคล, อเลสซานโดร ดิอามันติ
ลิเวอร์พูล : เปเป เรนา, มาร์ติน สเคอร์เทล, เจมี คาร์ราเกอร์, เอมิเลียโน อินซัว, เกล็น จอห์นสัน, ฮาเวียร์ มาสเชราโน ,ลูคัส เลวา, สตีเวน เจอร์ราร์ด, ยอสซี เบนายูน, เฟร์นานโด ตอร์เรส, เดิร์ก เคาท์
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
เบิร์นลีย์ ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 3-1
[1-0 : แกรแฮม อเล็กซานเดอร์ ลูกจุดโทษ น.13], [1-1 : ดาร์เรน เบนท์ น.39], [2-1 : เดวิด นูเจนท์ น.67], [3-1 : เดวิด นูเจนท์ น.86]
อาร์เซนอล ชนะ วีแกน 4-0
[1-0 : โธมัส เวอร์มาเลน น.25], [2-0 : โธมัส เวอร์มาเลน น.49], [3-0 : เอดูอาร์โด น.59], [4-0 : เชส ฟาเบรกาส น.90]
แอสตัน วิลลา ชนะ ปอร์ทสมัธ 2-0
[1-0 : เจมส์ มิลเนอร์ ลูกจุดโทษ น.34], [2-0 : กาเบรียล อักบอนลาฮอร์ น.43]
โบลตัน เสมอ สโต๊ค 1-1
[0-1 : เดฟ คิตสัน น.53], [1-1 : แมทธิว เทย์เลอร์ ลูกจุดโทษ น.89]
ฮัลล์ แพ้ เบอร์มิงแฮม 0-1
[0-1 : แกรี โอคอนเนอร์ น.75]
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด แพ้ ลิเวอร์พูล 2-3
[0-1 : เฟร์นานโด ตอร์เรส น.20], [1-1 : อเลสซานโดร ดิอามันติ ลูกจุดโทษ น.29], [1-2 : เดิร์ก เคาท์ น.41], [2-2 : คาร์ลตัน โคล น.45], [2-3 : เฟร์นานโด ตอร์เรส น.75]
