คณะกรรมการผู้ตัดสิน สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จัดการทดสอบผู้ตัดสินเพื่อเสนอชื่อขึ้นทะเบียนสู่ระดับชั้นฟีฟาอย่างเข้มข้นทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ ด้าน ภิรมย์ อั๋นประเสริฐ รองประธานเชิ้ตดำไทยชี้หากคนลงทำหน้าที่มีความฟิตมากพอก็จะช่วยให้เกิดข้อผิดพลาดน้อยลงได้
ตลอดช่วงบ่ายถึงเย็นวันพฤหัสบดีที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา มีการทดสอบตุลาการสนามโดยคณะกรรมการผู้ตัดสินฯ ซึ่งเริ่มด้วยการสอบทฤษฎี สอบข้อเขียน และทดสอบภาษาอังกฤษภายในห้องประชุมศุภชลาศัย สนามกีฬาแห่งชาติ จากนั้นเป็นการทดสอบสมรรถภาพร่างกายที่สนามเทพหัสดิน แบ่งเป็นการวิ่งระยะสั้น และวิ่งระยะยาวภายใต้เวลาที่กำหนด โดยในการทดสอบได้แบ่งกลุ่มผู้ตัดสินและไลน์แมนออกจากกัน
สำหรับการทดสอบครั้งนี้มี ผศ.ชูชัย บัวบูชา ประธานผู้ตัดสิน และ ภิรมย์ อั๋นประเสริฐ รองประธานและผู้อำนวยการสถาบันผู้ตัดสินแห่งชาติ ควบคุมอย่างใกล้ชิด ซึ่งเหล่าสิงห์เชิ้ตดำในทุกประเภท ทั้งฟุตบอล ฟุตซอล ฟุตบอลหญิง และฟุตบอลชายหาด ต่างมาร่วมกันอย่างคับคั่ง ก่อนที่จะประกาศผลผู้มีสิทธิ์ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ตัดสินฟีฟา ประจำปี 2553 ต่อสมาคมฟุตบอลฯ ในวันที่ 25 กันยายนนี้ต่อไป ซึ่งก่อนจะได้เป็นผู้ตัดสินฟีฟาต้องผ่านขั้นตอนส่งชื่อไปให้ สหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) ตามด้วย สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟา) พิจารณาในช่วงปลายปีนี้
ด้าน ผศ.ชูชัย พูดถึงการสอบผู้ตัดสินฟีฟาว่า “จากนี้ไปเราจะจัดการทดสอบปีต่อปี เพื่อให้ผู้ตัดสินมีความตื่นตัวและพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ถ้าใครทำหน้าที่ดีก็มีสิทธิ์เลื่อนชั้นขึ้นมาได้ และคนที่อยู่ในระดับชั้นต้นๆ แต่ไม่มีผลงานก็สามารถถูกลดชั้นได้เช่นกัน ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้มีผู้ประเมินการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินคอยตรวจสอบผลงานและคิดคะแนนจัดลำดับมาโดยตลอด เราจะคัดเลือกเอาคนที่ดีที่สุดก่อนเสนอชื่อขึ้นทะเบียนผู้ตัดสินฟีฟา เพราะถือว่าเป็นหน้าตาของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ซึ่งตอนนี้มีเพียง ชัยยะ มหาปราบ ที่อยู่ในระดับอีลิท (Elite – ชั้นแนวหน้า) ผมเชื่อว่าภายใน 2 ปีจะมีผู้ตัดสินระดับอีลิทเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน”
“นอกจากนั้น ทุกวันอาทิตย์ก็มีการเชิญบรรดาผู้ตัดสินมาหารือกันเรื่องการทำหน้าที่ด้วย จะเห็นว่าเรามุ่งมั่นพัฒนาผู้ตัดสินโดยตลอด ส่วนเรื่องความผิดพลาดต่างๆ ที่เกิดขึ้นอยากให้แฟนบอลเข้าใจว่าคงไม่มีใครที่เป่าลำเอียงหรือรับสินบนมา เพราะหากเราพบพฤติกรรมเหล่านี้ก็คงร่วมงานกันไม่ได้ และหลายคนก็ต้องการก้าวหน้าบนเส้นทางสายนี้ รวมถึงอยากมีโอกาสลงเป่ารายการใหญ่ๆ เช่น ฟุตบอลโลก เพื่อเป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูล ขณะที่ใครทำหน้าที่ผิดพลาดก็พร้อมลงโทษ ไม่ว่าจะมีการทักท้วงจากสโมสรหรือเราพิจารณาเองก็ตาม”
ขณะที่ “อาจารย์อั๋น” ภิรมย์ อั๋นประเสริฐ อดีตเชิ้ตดำผู้ผ่านการลงเป่าในฟุตบอลโลก ปี 1998 แสดงทัศนะถึงปัจจัยที่ช่วยให้การตัดสินเกิดความผิดพลาดน้อยลงว่า “สิ่งสำคัญที่สุดของผู้ตัดสินรวมทั้งไลน์แมนคือต้องมีร่างกายที่สมบูรณ์ บางครั้งเราแม่นกฎกติกาแต่หากไม่ฟิตจริงๆ โอกาสที่จะวิ่งพาตัวเองไปอยู่ในตำแหน่งที่เห็นเหตุการณ์ได้ถนัดก็มีน้อยลง นอกจากนั้นถ้าร่างกายเหนื่อยล้า ยืนระยะได้ไม่ครบ 90 นาทีก็มีผลต่อการสั่งการของสมอง ส่งผลให้เกิดการตัดสินที่ผิดพลาดตามมา ดังนั้น คนทำหน้าที่ต้องรักษาสภาพร่างกายอยู่เสมอ”
อนึ่ง การทดสอบครั้งนี้มีบรรดาผู้ตัดสินที่ลงทำหน้าที่ในศึกไทยพรีเมียร์ลีก 2009 อาทิ มงคลชัย เพชรศรี, สุระ ศรีอาจ, ประยูร วีระพูล สุรศักดิ์ คุณดิลกสิโรดม, คมชลัช เลขาวิจิตร, ปรีชา กางรัมย์, มานพ ปานสาคร, อรรถกร เวชการ, สัญญา ขันธิวิธิ ส่วน ชัยยะ มหาปราบ ไม่ได้มาร่วมด้วยเนื่องจากติดธุระ