คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน
เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมไปชมการแข่งขันฟุตบอล ไทย พรีเมียร์ ลีก 2009 เลกที่ 2 นัดแรก ระหว่าง สโมสร จุฬา ยูไนเต็ด กับ สโมสร สมุทรสงคราม เอฟซี ที่สนามกีฬาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งผลจบลงด้วยการเสมอกันแบบไร้สกอร์ แต่สิ่งแปลกใหม่ที่ผมเห็นก็คือ ในแบบฟอร์มทะเบียนชื่อนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ ที่แจกให้สื่อมวลชน นอกจากจะมีรายชื่อผู้ตัดสินและผู้ควบคุมการแข่งขันตามปกติแล้ว ยังมีผู้ประเมินการตัดสินเพิ่มขึ้นมาอีก
เผอิญผมเห็น คุณภิรมย์ อั๋นประเสริฐ อดีตผู้ตัดสินฟีฟาชาวไทยคนแรกที่ได้ทำหน้าที่ในการแข่งขันฟุตบอลโลก ใน “ ฟร็องซ์ 98 ” ที่ประเทศฝรั่งเศส นั่งชมเกมอยู่ด้วยในฐานะผู้ประเมินการตัดสิน จึงได้ความกระจ่างว่า ที่จัดให้มีการประเมินการตัดสินนั้นไม่ใช่เพราะว่า ช่วงเลกแรกมีการตัดสินผิดพลาดบ่อยมาก และทางบริษัท ไทยพรีเมียร์ ลีก จะจัดให้มีการแบ่งเกรดผู้ตัดสิน แยกตามคุณภาพระดับฝีมือ เพื่อยกระดับคุณภาพฝีมือของผู้ตัดสิน ไม่ให้เกิดปัญหา และพัฒนาฟุตบอลลีกของไทยให้ดียิ่งขึ้น
อาจารย์ภิรมย์ ซึ่งปัจจุบันเป็นวิทยากรของ สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย ( Asian Football Confederation - AFC ) และเป็นผู้ตรวจสอบผู้ตัดสินของ ทั้งฟีฟา และ เอเอฟซี ( Referee Inspector ) บอกผมว่า ที่มาวันนี้ ได้นำ คุณแซมมูเอล ชาน ( Samuel Chan ) ผู้แทนของ เอเอฟซี ชาวฮ่องกงมาประเมินการตัดสินของคุณ อภิสิทธิ์ อ้นรักษ์ โดยเฉพาะเลย เพื่อพิจารณาปรับระดับเลื่อนขั้นขึ้นเป็นผู้ตัดสินระดับแนวหน้า ( Elite ) ของฟีฟา โดยตอนนี้ ทางสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยกำลังพยายามคัดเอาผู้ตัดสินฟีฟาของไทยที่มีอายุไม่เกิน 37 ปี มาปั้นให้เป็นผู้ตัดสินฟีฟาระดับแนวหน้า ซึ่งจะทำให้เป็นตัวเลือกในการทำหน้าที่ในการแข่งขันนัดสำคัญๆ ในทอร์นาเมนท์ใหญ่ๆ เช่น ฟุตบอลโลก ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติของทวีปต่างๆ ในขณะที่ การเป็นผู้ตัดสิน ฟีฟา ระดับธรรมดา นั้น ก็ได้ทำหน้าที่ตัดสินในการแข่งขันทั่วๆไป แต่ส่วนมากจะเป็นแมตช์กระจอก พวกนัดกระชับมิตร นัดอุ่นเครื่องเท่านั้น ซึ่งในปัจจุบันนี้ ประเทศไทยมีผู้ตัดสินฟีฟา 6 คนคือ ชัยยะ มหาปราบ สุระ ศรีอาจ ประยูร วีระพูล นิติภูมิ กุลบุตร สุรศักดิ์ กุลดิลกศิโรดมภ์ และอภิสิทธิ์ อ้นรักษ์ อันนี้ อาจารย์ภิรมย์ เขียนรายชื่อมาให้ผมเองครับ คุณชัยยะ เป็นคนเดียวที่อยู่ในระดับ Elite ส่วนคนที่ 2 ที่กำลังประเมินคือ คุณอภิสิทธิ์
สำหรับการประเมินนั้น ก็ต้องทำกันถึง 3 ครั้ง โดยแต่ละครั้ง ฟีฟา จะส่งเจ้าหน้าที่มานั่งชมการตัดสินไปตลอดเกม แล้วก็เขียนรายงานไปทาง ฟีฟา หากการตัดสินเกมนั้น เห่ยมาก ก็จบตรงนั้น ถือว่าไม่ผ่าน แต่ถ้าการตัดสินเป็นไปด้วยดี อาจมีข้อผิดพลาดบ้าง แต่เล็กน้อยเหลือเกิน สมควรให้ผ่าน ก็จะมีการประเมินครั้งต่อไป ถ้าครั้งที่ 2 ผ่านก็มีการประเมินครั้งที่ 3 คราวนี้เป็นเจ้าหน้าที่ 2 คน และต้องได้ผ่านทั้ง 2 คนด้วย ไม่ใช่คนหนึ่งให้ผ่าน แต่อีกคนบอกว่า ยังไม่ถึงขั้น
ในกรณีของ คุณอภิสิทธิ์ ขั้นตอนแรกผ่านไปเรียบร้อยแล้ว จึงมีการประเมินครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ซึ่งหลังจบเกม อย่าไปคิดถามอาจารย์ภิรมย์ หรือคุณแซมมูเอล ชาน เลยครับว่า คุณอภิสิทธิ์ ผ่านหรือไม่ เพราะเขาไม่สามารถเปิดเผยได้ ต้องรายงานลับไปให้ทาง ฟีฟา แล้วถ้าผ่าน ก็จะมีการประเมินครั้งที่ 3 เองแหละ เอาเป็นว่า เราก็รอลุ้น คุณอภิสิทธิ์ อ้นรักษ์ ให้ได้เป็นผู้ตัดสิน ฟีฟา ระดับ Elite อีกสักคน เผื่อว่า การแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย เซาธ์ อัฟริกา 2010 ( South Africa 2010 ) ในปีหน้า แม้ว่าเราจะไม่มีทีมฟุตบอลของไทยไปร่วมเตะกับเขา แต่เราก็อาจจะมีผู้ตัดสินชาวไทยได้ไปทำหน้าที่อีกครั้งครับ
เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมไปชมการแข่งขันฟุตบอล ไทย พรีเมียร์ ลีก 2009 เลกที่ 2 นัดแรก ระหว่าง สโมสร จุฬา ยูไนเต็ด กับ สโมสร สมุทรสงคราม เอฟซี ที่สนามกีฬาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งผลจบลงด้วยการเสมอกันแบบไร้สกอร์ แต่สิ่งแปลกใหม่ที่ผมเห็นก็คือ ในแบบฟอร์มทะเบียนชื่อนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ ที่แจกให้สื่อมวลชน นอกจากจะมีรายชื่อผู้ตัดสินและผู้ควบคุมการแข่งขันตามปกติแล้ว ยังมีผู้ประเมินการตัดสินเพิ่มขึ้นมาอีก
เผอิญผมเห็น คุณภิรมย์ อั๋นประเสริฐ อดีตผู้ตัดสินฟีฟาชาวไทยคนแรกที่ได้ทำหน้าที่ในการแข่งขันฟุตบอลโลก ใน “ ฟร็องซ์ 98 ” ที่ประเทศฝรั่งเศส นั่งชมเกมอยู่ด้วยในฐานะผู้ประเมินการตัดสิน จึงได้ความกระจ่างว่า ที่จัดให้มีการประเมินการตัดสินนั้นไม่ใช่เพราะว่า ช่วงเลกแรกมีการตัดสินผิดพลาดบ่อยมาก และทางบริษัท ไทยพรีเมียร์ ลีก จะจัดให้มีการแบ่งเกรดผู้ตัดสิน แยกตามคุณภาพระดับฝีมือ เพื่อยกระดับคุณภาพฝีมือของผู้ตัดสิน ไม่ให้เกิดปัญหา และพัฒนาฟุตบอลลีกของไทยให้ดียิ่งขึ้น
อาจารย์ภิรมย์ ซึ่งปัจจุบันเป็นวิทยากรของ สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย ( Asian Football Confederation - AFC ) และเป็นผู้ตรวจสอบผู้ตัดสินของ ทั้งฟีฟา และ เอเอฟซี ( Referee Inspector ) บอกผมว่า ที่มาวันนี้ ได้นำ คุณแซมมูเอล ชาน ( Samuel Chan ) ผู้แทนของ เอเอฟซี ชาวฮ่องกงมาประเมินการตัดสินของคุณ อภิสิทธิ์ อ้นรักษ์ โดยเฉพาะเลย เพื่อพิจารณาปรับระดับเลื่อนขั้นขึ้นเป็นผู้ตัดสินระดับแนวหน้า ( Elite ) ของฟีฟา โดยตอนนี้ ทางสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยกำลังพยายามคัดเอาผู้ตัดสินฟีฟาของไทยที่มีอายุไม่เกิน 37 ปี มาปั้นให้เป็นผู้ตัดสินฟีฟาระดับแนวหน้า ซึ่งจะทำให้เป็นตัวเลือกในการทำหน้าที่ในการแข่งขันนัดสำคัญๆ ในทอร์นาเมนท์ใหญ่ๆ เช่น ฟุตบอลโลก ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติของทวีปต่างๆ ในขณะที่ การเป็นผู้ตัดสิน ฟีฟา ระดับธรรมดา นั้น ก็ได้ทำหน้าที่ตัดสินในการแข่งขันทั่วๆไป แต่ส่วนมากจะเป็นแมตช์กระจอก พวกนัดกระชับมิตร นัดอุ่นเครื่องเท่านั้น ซึ่งในปัจจุบันนี้ ประเทศไทยมีผู้ตัดสินฟีฟา 6 คนคือ ชัยยะ มหาปราบ สุระ ศรีอาจ ประยูร วีระพูล นิติภูมิ กุลบุตร สุรศักดิ์ กุลดิลกศิโรดมภ์ และอภิสิทธิ์ อ้นรักษ์ อันนี้ อาจารย์ภิรมย์ เขียนรายชื่อมาให้ผมเองครับ คุณชัยยะ เป็นคนเดียวที่อยู่ในระดับ Elite ส่วนคนที่ 2 ที่กำลังประเมินคือ คุณอภิสิทธิ์
สำหรับการประเมินนั้น ก็ต้องทำกันถึง 3 ครั้ง โดยแต่ละครั้ง ฟีฟา จะส่งเจ้าหน้าที่มานั่งชมการตัดสินไปตลอดเกม แล้วก็เขียนรายงานไปทาง ฟีฟา หากการตัดสินเกมนั้น เห่ยมาก ก็จบตรงนั้น ถือว่าไม่ผ่าน แต่ถ้าการตัดสินเป็นไปด้วยดี อาจมีข้อผิดพลาดบ้าง แต่เล็กน้อยเหลือเกิน สมควรให้ผ่าน ก็จะมีการประเมินครั้งต่อไป ถ้าครั้งที่ 2 ผ่านก็มีการประเมินครั้งที่ 3 คราวนี้เป็นเจ้าหน้าที่ 2 คน และต้องได้ผ่านทั้ง 2 คนด้วย ไม่ใช่คนหนึ่งให้ผ่าน แต่อีกคนบอกว่า ยังไม่ถึงขั้น
ในกรณีของ คุณอภิสิทธิ์ ขั้นตอนแรกผ่านไปเรียบร้อยแล้ว จึงมีการประเมินครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ซึ่งหลังจบเกม อย่าไปคิดถามอาจารย์ภิรมย์ หรือคุณแซมมูเอล ชาน เลยครับว่า คุณอภิสิทธิ์ ผ่านหรือไม่ เพราะเขาไม่สามารถเปิดเผยได้ ต้องรายงานลับไปให้ทาง ฟีฟา แล้วถ้าผ่าน ก็จะมีการประเมินครั้งที่ 3 เองแหละ เอาเป็นว่า เราก็รอลุ้น คุณอภิสิทธิ์ อ้นรักษ์ ให้ได้เป็นผู้ตัดสิน ฟีฟา ระดับ Elite อีกสักคน เผื่อว่า การแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย เซาธ์ อัฟริกา 2010 ( South Africa 2010 ) ในปีหน้า แม้ว่าเราจะไม่มีทีมฟุตบอลของไทยไปร่วมเตะกับเขา แต่เราก็อาจจะมีผู้ตัดสินชาวไทยได้ไปทำหน้าที่อีกครั้งครับ