ไมเคิล จอร์แดน ซูเปอร์สตาร์ตลอดกาล “กระทิงเปลี่ยว” ชิคาโก บูลส์ รู้สึกเป็นเกียรติยิ่งที่ชื่อของตนถูกบรรจุไว้ใน “ฮอล ออฟ เฟม” (หอเกียรติยศ) แห่งศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) อย่างเป็นทางการแล้ว
ค่ำคืนอันงดงามของ ไมเคิล จอร์แดน เกิดขึ้นอีกครั้งและจะอยู่เช่นนี้ไปตลอดกาล เมื่อ “แอร์ จอร์แดน” วัย 46 ปี ได้รับเกียรติสูงสุดจากฮอล ออฟ เฟม ให้ใส่ชื่อเข้าสู่หอเกียรติยศในปี 2009 ร่วมกับ เดวิด โรบินสัน, จอห์น สต็อกตัน, เจอร์รี สโลน และ ซี.วิเวียน สตริงเจอร์
โดย จอร์แดน ขึ้นโพเดียมให้สัมภาษณ์เชิงถ่อมตน “พวกคุณทุกคน ผมต้องขอบคุณทุกๆ คนที่ให้แรงบันดาลใจแก่ผม นั่นเป็นสิ่งที่ผมต้องการยิ่ง นี่ถือเป็นสิทธิพิเศษและผมก็ไม่คิดว่าตัวเองจะได้รับเกียรติขนาดนี้ เพราะผมไม่ได้เก่งเหมือนกับทุกคนในหอเกียรติยศแห่งนี้เลย นี่มากเกินไปที่ผมจะถามหาได้ มากกว่าที่ผมจะรับได้”
ด้าน สกอตตี พิพเพน และ เดนนิส ร็อดแมน อดีตเพื่อนร่วมทีมบูลส์ มาร่วมเป็นเกียรติในครั้งนี้ด้วยเช่นเดียวกับ เซอร์ ชาร์ลส บาร์คลีย์ อดีตสตาร์ ฟีนิกซ์ ซันส์ ซึ่งให้สัมภาษณ์ผ่าน “เอเอฟพี” สื่อชั้นนำ “ทุกคนมาที่นี่เพื่อดู ไมเคิล (จอร์แดน) เขาคือสุดยอดผู้เล่นตลอดกาล”
“มันเหลือเชื่อแม้ ไมเคิล (จอร์แดน) เลิกเล่นไปหลายปีแล้ว แต่เขายังคงเป็นนักกีฬาที่ได้รับความนิยมสูงสุดเป็นอันดับ 2 ของโลก เป็นรองเพียงแค่ ไทเกอร์ วูดส์ เท่านั้น การมาอยู่ตรงนี้ (หอเกียรติยศ) ถือเป็นการให้เกียรติสุดยอดแก่เขา” บาร์คลีย์ ทิ้งท้าย
นอกเหนือจาก จอร์แดน เพื่อนร่วมสมาชิก “ดรีมทีม” สหรัฐอเมริกา ชุดคว้าแชมป์กีฬาโอลิมปิกปี 1992 ที่บาร์เซโลนา อย่าง “ท่านนายพล” เดวิด โรบินสัน อดีตเซ็นเตอร์ ซานอันโตนิโอ สเปอร์ส และ จอห์น สต็อกตัน อดีตการ์ดจ่ายมือทอง ยูทาห์ แจซซ์ ก็ได้รับเกียรติเข้าสู่ฮอล ออฟ เฟม เช่นเดียวกับ เจอร์รี สโลน หัวหน้าโค้ชที่ทำทีมแจซซ์ มายาวนานจนถึงทุกวันนี้ และ ซี.วิเวียน สตริงเจอร์ ตำนานโค้ชหญิงระดับมหาวิทยาลัย
ค่ำคืนอันงดงามของ ไมเคิล จอร์แดน เกิดขึ้นอีกครั้งและจะอยู่เช่นนี้ไปตลอดกาล เมื่อ “แอร์ จอร์แดน” วัย 46 ปี ได้รับเกียรติสูงสุดจากฮอล ออฟ เฟม ให้ใส่ชื่อเข้าสู่หอเกียรติยศในปี 2009 ร่วมกับ เดวิด โรบินสัน, จอห์น สต็อกตัน, เจอร์รี สโลน และ ซี.วิเวียน สตริงเจอร์
โดย จอร์แดน ขึ้นโพเดียมให้สัมภาษณ์เชิงถ่อมตน “พวกคุณทุกคน ผมต้องขอบคุณทุกๆ คนที่ให้แรงบันดาลใจแก่ผม นั่นเป็นสิ่งที่ผมต้องการยิ่ง นี่ถือเป็นสิทธิพิเศษและผมก็ไม่คิดว่าตัวเองจะได้รับเกียรติขนาดนี้ เพราะผมไม่ได้เก่งเหมือนกับทุกคนในหอเกียรติยศแห่งนี้เลย นี่มากเกินไปที่ผมจะถามหาได้ มากกว่าที่ผมจะรับได้”
ด้าน สกอตตี พิพเพน และ เดนนิส ร็อดแมน อดีตเพื่อนร่วมทีมบูลส์ มาร่วมเป็นเกียรติในครั้งนี้ด้วยเช่นเดียวกับ เซอร์ ชาร์ลส บาร์คลีย์ อดีตสตาร์ ฟีนิกซ์ ซันส์ ซึ่งให้สัมภาษณ์ผ่าน “เอเอฟพี” สื่อชั้นนำ “ทุกคนมาที่นี่เพื่อดู ไมเคิล (จอร์แดน) เขาคือสุดยอดผู้เล่นตลอดกาล”
“มันเหลือเชื่อแม้ ไมเคิล (จอร์แดน) เลิกเล่นไปหลายปีแล้ว แต่เขายังคงเป็นนักกีฬาที่ได้รับความนิยมสูงสุดเป็นอันดับ 2 ของโลก เป็นรองเพียงแค่ ไทเกอร์ วูดส์ เท่านั้น การมาอยู่ตรงนี้ (หอเกียรติยศ) ถือเป็นการให้เกียรติสุดยอดแก่เขา” บาร์คลีย์ ทิ้งท้าย
นอกเหนือจาก จอร์แดน เพื่อนร่วมสมาชิก “ดรีมทีม” สหรัฐอเมริกา ชุดคว้าแชมป์กีฬาโอลิมปิกปี 1992 ที่บาร์เซโลนา อย่าง “ท่านนายพล” เดวิด โรบินสัน อดีตเซ็นเตอร์ ซานอันโตนิโอ สเปอร์ส และ จอห์น สต็อกตัน อดีตการ์ดจ่ายมือทอง ยูทาห์ แจซซ์ ก็ได้รับเกียรติเข้าสู่ฮอล ออฟ เฟม เช่นเดียวกับ เจอร์รี สโลน หัวหน้าโค้ชที่ทำทีมแจซซ์ มายาวนานจนถึงทุกวันนี้ และ ซี.วิเวียน สตริงเจอร์ ตำนานโค้ชหญิงระดับมหาวิทยาลัย