คอลัมน์ Final Quarter โดย ลุงแซม
เป็นไทแล้วครับ สำหรับ (อดีต) นักโทษชาย “ไมเคิล วิค” ซึ่งเคยเป็นควอเตอร์แบ็กซูเปอร์สตาร์แห่งศึกอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) แต่ปัจจุบันกลับมีหนี้สินรุงรัง แถมอยู่ในสถานะถูกเลิกจ้างหลังต้องโทษ 23 เดือนจากคดีความทารุณกรรมต่อสัตว์ ด้วยการเพาะพันธุ์สุนัขพิตบูลล์ตระเวนกัดแข่งขันเพื่อการพนันขันต่อ
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาตามวัน-เวลาท้องถิ่นในสหรัฐฯ วิค ได้โอกาสเดินสู่โลกแห่งอิสรภาพอีกครั้ง หลังไปกินข้าวแดงในคุกนานร่วม 20 เดือน ก่อนได้รับการอนุโลมจากศาลให้ออกมากักบริเวณที่บ้านตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แน่นอนว่าผู้เล่นวัย 29 ปี ต้องการได้สถานะคืนมาเพื่อกลับไปทำมาหากินในศึกคนชนคน ทว่ามันคงไม่ง่ายดั่งใจหวัง
เพราะตามนโยบายคุมประพฤติ (personal-conduct policy) ที่ โรเจอร์ กูเดลล์ ตั้งขึ้นมา วิค คงต้องมานั่งประจันหน้ากับประธานลีก NFL เพื่อพูดคุยกันสักหน่อยว่าเรียนรู้อะไรบ้างจากประสบการณ์ความผิดพลาดในครั้งนี้ เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นมากน้อยขนาดไหน หรือมีจิตสำนึกว่าจะสามารถทำอะไรในแง่บวกได้บ้างต่อไปในอนาคต คำเอื้อนเอ่ยต่อ กูเดลล์ และสาธารณชนจะเป็นตัวตัดสินว่า วิค คู่ควรกับการโดนแบนสักกี่เกม
เมื่อไปเปิดผลสำรวจผ่านเว็บไซต์ www.yahoo.com พบว่า 40 เปอร์เซ็นต์จากคอคนชนคนร่วม 7 หมื่นเสียง ต้องการเห็น วิค ชดใช้การกระทำเพิ่มเติมด้วยการแบนยาวตลอดทั้งฤดูกาล 2009/10 ส่วน 31 เปอร์เซ็นต์ เห็นว่า วิค ควรโดนแบนบางส่วนในซีซั่นหน้า อีก 29 เปอร์เซ็นต์มองว่า วิค ไม่ได้ทำผิดอะไรร้ายแรงพร้อมคืนสิทธิให้ตั้งแต่สัปดาห์แรก
สำหรับผมเป็นหนึ่งใน 31 เปอร์เซ็นต์ที่คิดว่า วิค สมควรโดนแบนอย่างน้อยก็น่าจะ 4 เกมหรือสักครึ่งซีซั่นก็ไม่น่าเกลียด ด้วยเหตุผลที่ว่าเผอิญผมเป็นคนรักสัตว์โดยเฉพาะน้องหมา แต่จริงๆ แล้ว NFL ก็ควรเชือดไก่ให้ลิงดูบ้างเหมือนกันในเรื่องนี้ เพราะ วิค ถือเป็นบุคคลสาธารณะคนหนึ่งที่มีส่วนรับผิดชอบต่อสังคม ไม่ควรเห็นสิ่งมีชีวิตอย่างสัตว์เลี้ยงเป็นแค่ของเล่นไว้ระบายอารมณ์
หากได้ Second Chance กลับมาอยู่ในมือ จะมีทีมไหนให้โอกาสแก่ควอเตอร์แบ็กที่เคยได้รับความไว้วางใจจาก แอตแลนตา ฟอลคอนส์ ด้วยการเซ็นสัญญายาว 10 ปี ค่าเหนื่อย 130 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 4,400 ล้านบาท) บ้าง ในเมื่อ นิวยอร์ก ไจแอนท์ส และ นิวยอร์ก เจ็ตส์ บอกปัดโอกาสดังกล่าวไปแล้ว ดังนั้นจากคำโอ้อวดของเอเย่นต์ส่วนตัวที่ว่า วิค ถูกแอบเหล่จาก 6 ทีม ก็น่าจะเหลือเพียงแค่สี่
แต่ตอนนี้ผมเห็นเพียง โอคแลนด์ เรดเดอร์ส กับ ซานฟรานซิสโก โฟร์ตีไนเนอร์ส ที่พอมีโอกาสอ้าแขนรับเข้าสู่อ้อมอก กรณีของ “สลัดดำ” เรดเดอร์ส ปัจจุบันมีควอเตอร์แบ็กถึง 4 ราย โดย เจฟฟ์ การ์เซีย คงต้องเบียดแย่งมือหนึ่งกับ จามาร์คัส รัสเซลล์ แต่จากการที่ได้ติดตามทีมนี้มา แอล เดวิส เจ้าของทีมชอบคิดอะไรแผลงๆ การดึง วิค เข้าทีมก็ไม่น่าใช่เรื่องน่าประหลาดใจอะไร
ส่วน ไนเนอร์ส มีข่าวมาตลอดก่อนหน้านี้ว่าสนใจในตัว วิค เมื่อชำเลืองดูแล้วผมมองว่าโอกาสพอมี ไมค์ ซิงเกิลแทรี คงไม่คิดว่า ชอน ฮิลล์ หรือ อเล็กซ์ สมิธ คือคำตอบที่ใช่เลย การได้ วิค ซึ่งโดดเด่นเรื่องการวิ่งเองน่าจะเป็นอ๊อปชั่นเสริมที่น่าสนใจ เพียงแต่ว่ามันจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ต้องติดตามกัน อีกทั้งมันก็ขึ้นอยู่กับ วิค ด้วยว่ามีความมุ่งมั่นคัมแบ็กกลับสู่ NFL แค่ไหน ถ้าสภาพร่างกายและจิตใจไม่พร้อมเส้นทางในอาชีพคงดับวูบอีกครั้ง
เป็นไทแล้วครับ สำหรับ (อดีต) นักโทษชาย “ไมเคิล วิค” ซึ่งเคยเป็นควอเตอร์แบ็กซูเปอร์สตาร์แห่งศึกอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) แต่ปัจจุบันกลับมีหนี้สินรุงรัง แถมอยู่ในสถานะถูกเลิกจ้างหลังต้องโทษ 23 เดือนจากคดีความทารุณกรรมต่อสัตว์ ด้วยการเพาะพันธุ์สุนัขพิตบูลล์ตระเวนกัดแข่งขันเพื่อการพนันขันต่อ
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาตามวัน-เวลาท้องถิ่นในสหรัฐฯ วิค ได้โอกาสเดินสู่โลกแห่งอิสรภาพอีกครั้ง หลังไปกินข้าวแดงในคุกนานร่วม 20 เดือน ก่อนได้รับการอนุโลมจากศาลให้ออกมากักบริเวณที่บ้านตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แน่นอนว่าผู้เล่นวัย 29 ปี ต้องการได้สถานะคืนมาเพื่อกลับไปทำมาหากินในศึกคนชนคน ทว่ามันคงไม่ง่ายดั่งใจหวัง
เพราะตามนโยบายคุมประพฤติ (personal-conduct policy) ที่ โรเจอร์ กูเดลล์ ตั้งขึ้นมา วิค คงต้องมานั่งประจันหน้ากับประธานลีก NFL เพื่อพูดคุยกันสักหน่อยว่าเรียนรู้อะไรบ้างจากประสบการณ์ความผิดพลาดในครั้งนี้ เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นมากน้อยขนาดไหน หรือมีจิตสำนึกว่าจะสามารถทำอะไรในแง่บวกได้บ้างต่อไปในอนาคต คำเอื้อนเอ่ยต่อ กูเดลล์ และสาธารณชนจะเป็นตัวตัดสินว่า วิค คู่ควรกับการโดนแบนสักกี่เกม
เมื่อไปเปิดผลสำรวจผ่านเว็บไซต์ www.yahoo.com พบว่า 40 เปอร์เซ็นต์จากคอคนชนคนร่วม 7 หมื่นเสียง ต้องการเห็น วิค ชดใช้การกระทำเพิ่มเติมด้วยการแบนยาวตลอดทั้งฤดูกาล 2009/10 ส่วน 31 เปอร์เซ็นต์ เห็นว่า วิค ควรโดนแบนบางส่วนในซีซั่นหน้า อีก 29 เปอร์เซ็นต์มองว่า วิค ไม่ได้ทำผิดอะไรร้ายแรงพร้อมคืนสิทธิให้ตั้งแต่สัปดาห์แรก
สำหรับผมเป็นหนึ่งใน 31 เปอร์เซ็นต์ที่คิดว่า วิค สมควรโดนแบนอย่างน้อยก็น่าจะ 4 เกมหรือสักครึ่งซีซั่นก็ไม่น่าเกลียด ด้วยเหตุผลที่ว่าเผอิญผมเป็นคนรักสัตว์โดยเฉพาะน้องหมา แต่จริงๆ แล้ว NFL ก็ควรเชือดไก่ให้ลิงดูบ้างเหมือนกันในเรื่องนี้ เพราะ วิค ถือเป็นบุคคลสาธารณะคนหนึ่งที่มีส่วนรับผิดชอบต่อสังคม ไม่ควรเห็นสิ่งมีชีวิตอย่างสัตว์เลี้ยงเป็นแค่ของเล่นไว้ระบายอารมณ์
หากได้ Second Chance กลับมาอยู่ในมือ จะมีทีมไหนให้โอกาสแก่ควอเตอร์แบ็กที่เคยได้รับความไว้วางใจจาก แอตแลนตา ฟอลคอนส์ ด้วยการเซ็นสัญญายาว 10 ปี ค่าเหนื่อย 130 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 4,400 ล้านบาท) บ้าง ในเมื่อ นิวยอร์ก ไจแอนท์ส และ นิวยอร์ก เจ็ตส์ บอกปัดโอกาสดังกล่าวไปแล้ว ดังนั้นจากคำโอ้อวดของเอเย่นต์ส่วนตัวที่ว่า วิค ถูกแอบเหล่จาก 6 ทีม ก็น่าจะเหลือเพียงแค่สี่
แต่ตอนนี้ผมเห็นเพียง โอคแลนด์ เรดเดอร์ส กับ ซานฟรานซิสโก โฟร์ตีไนเนอร์ส ที่พอมีโอกาสอ้าแขนรับเข้าสู่อ้อมอก กรณีของ “สลัดดำ” เรดเดอร์ส ปัจจุบันมีควอเตอร์แบ็กถึง 4 ราย โดย เจฟฟ์ การ์เซีย คงต้องเบียดแย่งมือหนึ่งกับ จามาร์คัส รัสเซลล์ แต่จากการที่ได้ติดตามทีมนี้มา แอล เดวิส เจ้าของทีมชอบคิดอะไรแผลงๆ การดึง วิค เข้าทีมก็ไม่น่าใช่เรื่องน่าประหลาดใจอะไร
ส่วน ไนเนอร์ส มีข่าวมาตลอดก่อนหน้านี้ว่าสนใจในตัว วิค เมื่อชำเลืองดูแล้วผมมองว่าโอกาสพอมี ไมค์ ซิงเกิลแทรี คงไม่คิดว่า ชอน ฮิลล์ หรือ อเล็กซ์ สมิธ คือคำตอบที่ใช่เลย การได้ วิค ซึ่งโดดเด่นเรื่องการวิ่งเองน่าจะเป็นอ๊อปชั่นเสริมที่น่าสนใจ เพียงแต่ว่ามันจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ต้องติดตามกัน อีกทั้งมันก็ขึ้นอยู่กับ วิค ด้วยว่ามีความมุ่งมั่นคัมแบ็กกลับสู่ NFL แค่ไหน ถ้าสภาพร่างกายและจิตใจไม่พร้อมเส้นทางในอาชีพคงดับวูบอีกครั้ง