คอลัมน์ "หัวใจในกีฬา" โดย จำลอง ฝั่งชลจิตร
ในที่สุด เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ กองหน้าทีมชาติโตโกของอาร์เซนอล ก็กลายเป็นนักเตะกองหน้าตัวใหม่ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตามหลังคาร์ลอส เตเบซ กับโรเก้ ซานตา ครูซ เรียบร้อยโรงเรียน "เรือใบสีฟ้า" ไปแล้ว
เมื่อนับรวมกับโรบินโญ่ ,เคร็ก เบลามี่,วาเลอรี่ โบจินอฟ และเบนจานี่ ทีมมหาเศรษฐีรายใหม่ของพรีเมียร์ชิปจึงมีคอลเล็คชั่นกองหน้าที่น่าตื่นเต้นที่สุด
แต่ก็อาจมีปัญหาระหองระแหงจากการทับตำแหน่ง และบางคนอาจต้องทนนั่งเป็นตัวสำรอง เรื่องนี้ต้องดูกันยาวๆ
ค่าตัว “บายอร์” 25 ล้านปอนด์ กับสัญญา 5 ปี แฮปปี้กันทั้งสองฝ่าย นักเตะต้องการย้ายเพราะเล่นให้ทีมเก่าไม่ประสบความสำเร็จ เงินสด 25 ล้านปอนด์ ถ้าบอร์ดบริหารอาร์เซนอลผ่องถ่ายสู่มืออาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือชาวฝรั่งเศสน่าจะนำไปซื้อกองหน้าฝีเท้าจัดได้อีกสักคน จะหวังพึ่ง โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ,อังเดร อาร์ชาวิน นิคลาส เบนท์เนอร์และ ธีโอ วัลค็อตต์ บางทีอันดับสี่ก็อาจรักษาไว้ไม่ได้ และปีนี้เสี่ยงเอามากๆ
เรื่องซื้อปีนี้แมนฯ ซิตี้ มาแรงแซงทุกทีม เงินอาหรับหอมอบอวลไปทั้งพรีเมียร์ชิป ก่อนเปิดฤดูกาลถ้า จอห์น เทอร์รี่ โยนปลอกแขนกัปตันทีมเชลซีมาร่วมก๊วนอีกคน ความน่าตื่นเต้น และสีสันคงมากองรวมกันที่เมืองแมนเชสเตอร์
ประสาศิษย์เก่าอาจารย์เก่า สัปดาห์ก่อนมาร์ค ฮิวจ์ส ผู้จัดการทีมเศรษฐีใหม่อุตส่าห์มองโลกในแง่ดี บอกว่าถึงทีมเก่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะสูญเสีย คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กับ คาร์ลอส เตเบซ แต่คงไม่ส่งผลต่อทีมที่มากประสบการณ์และมีนักเตะเก่งๆ อยู่มากมาย
ทว่า เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กลับเปิดเกมรุกนอกสนามแบบไม่ประนีประนอม ว่า “เรือใบสีฟ้า” ดีแต่เอาเงินฟาดหัวนักเตะ และใช้เงินสร้างความสำเร็จ “เฟอร์กี้” อาจหัวเสียเพราะเตเบซไม่ยอมเซ็นสัญญาอยู่กับทีม เลยพูดประโยคเก่าๆ ทำนองใช้เงินฟาดหัว หรือใชเงินสร้างความสำเร็จ
อุตส่าห์พูดกับอาจารย์ด้วยภาษาดอกไม้ แต่อาจารย์ที่เคารพกลับสบประมาทให้เสียหน้า มาร์ค ฮิวจ์ส เลยเล่นเกมสวนกลับ โดยบอกเขาไม่ได้ทำอะไรที่เกินเลยไปสักนิด แล้วก็ไม่คิดด้วย ว่าการทำสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อทีมมันผิดตรงไหน กระนั้นก็ยังยั้งๆ เอาไว้ ถ้าหากเขาถามกลับ...
“แล้วยูไนเต็ดล่ะ ทีมนี้ไม่ใช้เงินเลยรึ ?”
ฮิวจ์ส อธิบายว่า “ซิตี้”ของเขาจำเป็นต้องสร้างทีม เพื่อให้เข้าไปยืนอยู่ในกลุ่ม “บิ๊กโฟร์” ตอนจบฤดูกาล ทีมฟุตบอลต้องลงทุนและพยายามสร้างทีมให้ดีขึ้น จึงจำเป็นต้องใช้เงินแลกกับการได้นักเตะดีๆ การอยู่ในแถว “บิ๊กโฟร์” ทำให้ได้เล่นรายการยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก พวกเขาต้องการไปหาเงินที่นั่น ซึ่งนานมากแล้วที่พวกเขาไม่เคยได้สัมผัส
ก่อนนี้ความกดดันเรื่องใช้เงินซื้อความสำเร็จเคยอยู่กับ “เชลซีแห่งลอนดอน” ฤดูกาลนี้มันย้ายฐานมาอยู่ที่เมืองแมนเชสเตอร์ แต่ไม่ว่าจะอยู่ที่ลอนดอนหรือลิเวอร์พูล ทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยเสมอ ในฐานะคู่แข่งแย่งแช้มป์ตลอดกาล
เมื่อความกดดันเรื่องใช้เงินซื้อความสำเร็จย้ายมาอยู่ที่แมนเชสเตอร์ โดยมีแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นผู้แบกรับ จะมีผู้เกี่ยวข้องสักกี่คนรอดพ้นภัยของสงครามในธุรกิจฟุตบอล ดูอย่างเชลซีสิครับ เปลี่ยนผู้จัดการไปแล้วกี่คน เคยครองแช้มป์พรีเมียร์ชิป แต่ยังตามหาความสำเร็จไม่พบ
เชื่อเถอะ...นี่เป็นออร์เดิฟเรียกน้ำย่อยเท่านั้น “แมนเชสเตอร์’ส วอร์” หรือ “วอร์ ออฟ แมนเชสเตอร์” จะเผ็ดร้อนรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่ 15 สิงหา 2552 เป็นต้นไปอะ
ในที่สุด เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ กองหน้าทีมชาติโตโกของอาร์เซนอล ก็กลายเป็นนักเตะกองหน้าตัวใหม่ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตามหลังคาร์ลอส เตเบซ กับโรเก้ ซานตา ครูซ เรียบร้อยโรงเรียน "เรือใบสีฟ้า" ไปแล้ว
เมื่อนับรวมกับโรบินโญ่ ,เคร็ก เบลามี่,วาเลอรี่ โบจินอฟ และเบนจานี่ ทีมมหาเศรษฐีรายใหม่ของพรีเมียร์ชิปจึงมีคอลเล็คชั่นกองหน้าที่น่าตื่นเต้นที่สุด
แต่ก็อาจมีปัญหาระหองระแหงจากการทับตำแหน่ง และบางคนอาจต้องทนนั่งเป็นตัวสำรอง เรื่องนี้ต้องดูกันยาวๆ
ค่าตัว “บายอร์” 25 ล้านปอนด์ กับสัญญา 5 ปี แฮปปี้กันทั้งสองฝ่าย นักเตะต้องการย้ายเพราะเล่นให้ทีมเก่าไม่ประสบความสำเร็จ เงินสด 25 ล้านปอนด์ ถ้าบอร์ดบริหารอาร์เซนอลผ่องถ่ายสู่มืออาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือชาวฝรั่งเศสน่าจะนำไปซื้อกองหน้าฝีเท้าจัดได้อีกสักคน จะหวังพึ่ง โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ,อังเดร อาร์ชาวิน นิคลาส เบนท์เนอร์และ ธีโอ วัลค็อตต์ บางทีอันดับสี่ก็อาจรักษาไว้ไม่ได้ และปีนี้เสี่ยงเอามากๆ
เรื่องซื้อปีนี้แมนฯ ซิตี้ มาแรงแซงทุกทีม เงินอาหรับหอมอบอวลไปทั้งพรีเมียร์ชิป ก่อนเปิดฤดูกาลถ้า จอห์น เทอร์รี่ โยนปลอกแขนกัปตันทีมเชลซีมาร่วมก๊วนอีกคน ความน่าตื่นเต้น และสีสันคงมากองรวมกันที่เมืองแมนเชสเตอร์
ประสาศิษย์เก่าอาจารย์เก่า สัปดาห์ก่อนมาร์ค ฮิวจ์ส ผู้จัดการทีมเศรษฐีใหม่อุตส่าห์มองโลกในแง่ดี บอกว่าถึงทีมเก่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะสูญเสีย คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กับ คาร์ลอส เตเบซ แต่คงไม่ส่งผลต่อทีมที่มากประสบการณ์และมีนักเตะเก่งๆ อยู่มากมาย
ทว่า เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กลับเปิดเกมรุกนอกสนามแบบไม่ประนีประนอม ว่า “เรือใบสีฟ้า” ดีแต่เอาเงินฟาดหัวนักเตะ และใช้เงินสร้างความสำเร็จ “เฟอร์กี้” อาจหัวเสียเพราะเตเบซไม่ยอมเซ็นสัญญาอยู่กับทีม เลยพูดประโยคเก่าๆ ทำนองใช้เงินฟาดหัว หรือใชเงินสร้างความสำเร็จ
อุตส่าห์พูดกับอาจารย์ด้วยภาษาดอกไม้ แต่อาจารย์ที่เคารพกลับสบประมาทให้เสียหน้า มาร์ค ฮิวจ์ส เลยเล่นเกมสวนกลับ โดยบอกเขาไม่ได้ทำอะไรที่เกินเลยไปสักนิด แล้วก็ไม่คิดด้วย ว่าการทำสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อทีมมันผิดตรงไหน กระนั้นก็ยังยั้งๆ เอาไว้ ถ้าหากเขาถามกลับ...
“แล้วยูไนเต็ดล่ะ ทีมนี้ไม่ใช้เงินเลยรึ ?”
ฮิวจ์ส อธิบายว่า “ซิตี้”ของเขาจำเป็นต้องสร้างทีม เพื่อให้เข้าไปยืนอยู่ในกลุ่ม “บิ๊กโฟร์” ตอนจบฤดูกาล ทีมฟุตบอลต้องลงทุนและพยายามสร้างทีมให้ดีขึ้น จึงจำเป็นต้องใช้เงินแลกกับการได้นักเตะดีๆ การอยู่ในแถว “บิ๊กโฟร์” ทำให้ได้เล่นรายการยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก พวกเขาต้องการไปหาเงินที่นั่น ซึ่งนานมากแล้วที่พวกเขาไม่เคยได้สัมผัส
ก่อนนี้ความกดดันเรื่องใช้เงินซื้อความสำเร็จเคยอยู่กับ “เชลซีแห่งลอนดอน” ฤดูกาลนี้มันย้ายฐานมาอยู่ที่เมืองแมนเชสเตอร์ แต่ไม่ว่าจะอยู่ที่ลอนดอนหรือลิเวอร์พูล ทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยเสมอ ในฐานะคู่แข่งแย่งแช้มป์ตลอดกาล
เมื่อความกดดันเรื่องใช้เงินซื้อความสำเร็จย้ายมาอยู่ที่แมนเชสเตอร์ โดยมีแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นผู้แบกรับ จะมีผู้เกี่ยวข้องสักกี่คนรอดพ้นภัยของสงครามในธุรกิจฟุตบอล ดูอย่างเชลซีสิครับ เปลี่ยนผู้จัดการไปแล้วกี่คน เคยครองแช้มป์พรีเมียร์ชิป แต่ยังตามหาความสำเร็จไม่พบ
เชื่อเถอะ...นี่เป็นออร์เดิฟเรียกน้ำย่อยเท่านั้น “แมนเชสเตอร์’ส วอร์” หรือ “วอร์ ออฟ แมนเชสเตอร์” จะเผ็ดร้อนรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่ 15 สิงหา 2552 เป็นต้นไปอะ