“สิงโตคำราม” ทีมชาติอังกฤษ ชุดอายุต่ำกว่า 21 ปี พลาดคว้าแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2009 รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี หลังต้านความเด็ดขาดในเกมรุกของเยอรมนีไม่อยู่ จนถูกถล่มไป 0-4 ในนัดชิงชนะเลิศ เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา
ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2009 รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี นัดชิงชนะเลิศ
เยอรมนี 4-0 อังกฤษ
เยอรมนี ของกุนซือ ฮอร์สท์ ฮรูเบสช์ มีการปรับทัพเล็กน้อยหลังจาก อัสคาน เดยากาห์ ติดโทษแบน ทำให้ต้องส่ง ซานโดร วากเนอร์ ลงสนามมาจับคู่กับ เมซุต โอซิล ส่วนตำแหน่งไม่มีปัญหา กอนซาโล รอนดอน คาสโตร ทำเกมแดนกลางเหมือนเดิม ส่วน อังกฤษ ของ สจวร์ต เพียร์ซ ตัดสินใจเลือก สกอตต์ โลช ลงเฝ้าเสาแทน โจ ฮาร์ท นายด่านมือ 1 ที่ติดโทษแบน โดยเกมรุกมี ธีโอ วัลคอตต์ เป็นตัวความหวัง
เริ่มครึ่งแรก อังกฤษ ทำผลงานดีกว่าในช่วงต้นไม่ถึงนาทีก็มาได้ฟรีคิกตรงริมเส้นด้านซ้าย มิลเนอร์ เปิดบอลไปทางเสาสองให้ เครนี ได้โหม่ง แต่หลุดกรอบออกไปนิดเดียว อีก 2 นาทีต่อมา โนเบิล แทงบอลตัดกองหลังให้ วัลคอตต์ หลุดเข้าไปยิงมุมแคบ แต่ซัดด้วยขวาเหินข้ามคานออกไป
แต่เกมมาถึงนาที 23 เยอรมนี ซึ่งครองบอลน้อยกว่ามาทำประตูออกนำ 1-0 ได้อย่างพลิกความคาดหมาย จากจังหวะสวนกลับที่ โอซิล ลงต่ำมารับบอล กระชากจี้เข้าหาแผงกองหลังเมืองผู้ดี ก่อนแทงบอลทะลุช่องให้ คาสโตร วิ่งสอดมารับบอลในเขตโทษ ก่อนจิ้มสวนตัว โลช เข้าซุกก้นตาข่าย
หลังเสียประตู “ทรีไลออนส์” พยายามโหมบุกหนักเพื่อทวงประตูคืน แต่ถูก “อินทรีเหล็ก” แน่นเกมรับกันมากขึ้นทำให้หาทางเจาะเข้าไปลุ้นทำประตูแบบถนัดไม่ได้ จนเกือบมาเสียเพิ่มอีกในนาที 34 จากจังหวะที่ โบนิสช์ ของเมืองเบียร์ เติมเกมขึ้นมาซัดไกลทางซ้าย บอลหลุดเสาสองออกไปเล็กน้อย
เยอรมนี แม้บุกน้อยกว่าแต่ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ จนเกมเข้าสู่ช่วง 5 นาทีสุดท้าย ทีมมาได้ลุ้นฟรีคิกระยะ 25 หน้าเขตโทษของ อังกฤษ โดย คาสโตร รับหน้าที่สังหาร บอลพุ่งไปแฉลบกำแพงเหินข้ามคานออกไปนิดเดียว หลังจากนั้นทั้งสองทีมไม่มีจังหวะลุ้นประตูกันอีกจบ 45 นาที สกอร์อยู่ที่ 1-0
เริ่มครึ่งหลัง ผ่านมาเพียง 3 นาที สถานการณ์ของ อังกฤษ ย่ำแย่ลงไปอีกหลังมาเสียประตู 0-2 จากลูกฟรีคิกระยะประมาณ 25 หลาของ โอซิล แต่หลังจากนั้น “สิงโตคำราม” มีโอกาสทวงคืนหนึ่งลูกเช่นกันในนาที 57 จากจังหวะที่ คัทเทอร์โมล ได้สับไกยิงจากนอกเขตโทษ บอลพุ่งแฉลบคานออกไปนิดเดียว
เกมผ่านหนึ่งชั่วโมง มิลเนอร์ ทำเกมขึ้นมาทางริมเขตโทษด้านขวาได้สวย โยกหลอกกองหลังเมืองเบียร์ 2-3 คนจนหลุดไปถึงเส้นหลัง ก่อนตวัดกลับเข้าใน แต่เพื่อนร่วมทีมชาร์จหน้าประตูไม่โดนพลาดโอกาสทวงประตูคืนไป หลังจากนั้นนาที 70 “สิงโตคำราม” มาได้ลูกเตะมุม จอห์นสัน เปิดเข้ากลาง คัทเทอร์โมล ลอยตัวโขก แต่เยอรมนี มี เบ็ก ยืนเฝ้าเส้นอยู่สกัดทิ้งออกไป
เกมเข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย คาสโตร ของ “อินทรีเหล็ก” แตะบอลลอดขา เครนี จนทะลุเข้าเขตโทษ ก่อนเปิดบอลไปทางเสาสองให้ วากเนอร์ จับบอลหนึ่งจังหวะก่อนล็อกเข้ามาซัดด้วยซ้าย แต่บอลเหินข้ามคานออกไป นาทีต่อมา เครนี สกัดพลาดอีกครั้งปล่อยให้ โอซิล ฉกบอลเข้าไปในเขตโทษ ก่อนถวายพานให้ วากเนอร์ พยายามวิ่งเข้าชาร์จ แต่โดนไม่ดี บอลหลุดเสาออกไปอย่างไม่น่าเชื่อ
แต่นาที 79 วากเนอร์ มาพังประตูได้สำเร็จ เมื่อรับบอลได้จาก โอซิล จนหลุดเข้าไปในเขตโทษ ก่อนซัดมุมแคบ บอลลอดขา โลช ซุกก้นตาข่ายทำให้ เยอรมนี หนีห่าง 3-0 หลังจากนั้นอีก 5 นาที ศูนย์หน้าจากดุยส์บวร์ก มาบวกอีกลูกของตัวเองให้ทีมนำห่าง 4-0 จากจังหวะโต้กลับเร็วจนได้บอลขึ้นมายิงปั่นไซด์โค้งตรงเส้นเขตโทษของเมืองผู้ดี บอลเลี้ยวหนีมือ โลช เข้าประตูไปอย่างสวยงาม
ช่วงท้ายเกม อังกฤษ ยังพยายามลุ้นตีไข่แตก โดยมีโอกาสจากลูกเซตพีซ แต่ ริชาร์ดส์ ที่เติมเกมขึ้นมาดันโหม่งหลุดเสาออกไป ขณะที่ “อินทรีเหล็ก” มีลุ้นจังหวะสุดท้ายของเกมจากลูกยิงของ มาร์เซล ชเมลเซอร์ ตัวสำรอง แต่ โลช รับได้สบาย หลังจากนั้นก็จบ 90 นาที เยอรมนี จึงเอาชนะไป 4-0 พร้อมกับคว้าแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ชุดอายุต่ำกว่า 21 ปีเป็นสมัยแรก
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เยอรมนี : มานูเอล นอยเออร์, เจอโรม บัวเต็ง, เซบาสเตียน โบนิสช์, อันเดรียส เบ็ก, แมตส์ จูเลียน ฮัมเมลส์, ฟาเบียน จอห์นสัน, เบเนดิกท์ โอเวเดส, กอนซาโล รอนดอน คาสโตร, เมซุต โอซิล, ซามี เคดิรา, ซานโดร วากเนอร์
อังกฤษ : สกอตต์ โลช, มาร์ติน เครนี, เนดัม โอนูโอชา, ไมกาห์ ริชาร์ดส์, คีแรน กิบบ์ส, เจมส์ มิลเนอร์, มาร์ก โนเบิล, อดัม จอห์นสัน, ธีโอ วัลคอตต์, ฟาบริซ มูอัมบา, ลี คัทเทอร์โมล
ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2009 รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี นัดชิงชนะเลิศ
เยอรมนี 4-0 อังกฤษ
เยอรมนี ของกุนซือ ฮอร์สท์ ฮรูเบสช์ มีการปรับทัพเล็กน้อยหลังจาก อัสคาน เดยากาห์ ติดโทษแบน ทำให้ต้องส่ง ซานโดร วากเนอร์ ลงสนามมาจับคู่กับ เมซุต โอซิล ส่วนตำแหน่งไม่มีปัญหา กอนซาโล รอนดอน คาสโตร ทำเกมแดนกลางเหมือนเดิม ส่วน อังกฤษ ของ สจวร์ต เพียร์ซ ตัดสินใจเลือก สกอตต์ โลช ลงเฝ้าเสาแทน โจ ฮาร์ท นายด่านมือ 1 ที่ติดโทษแบน โดยเกมรุกมี ธีโอ วัลคอตต์ เป็นตัวความหวัง
เริ่มครึ่งแรก อังกฤษ ทำผลงานดีกว่าในช่วงต้นไม่ถึงนาทีก็มาได้ฟรีคิกตรงริมเส้นด้านซ้าย มิลเนอร์ เปิดบอลไปทางเสาสองให้ เครนี ได้โหม่ง แต่หลุดกรอบออกไปนิดเดียว อีก 2 นาทีต่อมา โนเบิล แทงบอลตัดกองหลังให้ วัลคอตต์ หลุดเข้าไปยิงมุมแคบ แต่ซัดด้วยขวาเหินข้ามคานออกไป
แต่เกมมาถึงนาที 23 เยอรมนี ซึ่งครองบอลน้อยกว่ามาทำประตูออกนำ 1-0 ได้อย่างพลิกความคาดหมาย จากจังหวะสวนกลับที่ โอซิล ลงต่ำมารับบอล กระชากจี้เข้าหาแผงกองหลังเมืองผู้ดี ก่อนแทงบอลทะลุช่องให้ คาสโตร วิ่งสอดมารับบอลในเขตโทษ ก่อนจิ้มสวนตัว โลช เข้าซุกก้นตาข่าย
หลังเสียประตู “ทรีไลออนส์” พยายามโหมบุกหนักเพื่อทวงประตูคืน แต่ถูก “อินทรีเหล็ก” แน่นเกมรับกันมากขึ้นทำให้หาทางเจาะเข้าไปลุ้นทำประตูแบบถนัดไม่ได้ จนเกือบมาเสียเพิ่มอีกในนาที 34 จากจังหวะที่ โบนิสช์ ของเมืองเบียร์ เติมเกมขึ้นมาซัดไกลทางซ้าย บอลหลุดเสาสองออกไปเล็กน้อย
เยอรมนี แม้บุกน้อยกว่าแต่ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ จนเกมเข้าสู่ช่วง 5 นาทีสุดท้าย ทีมมาได้ลุ้นฟรีคิกระยะ 25 หน้าเขตโทษของ อังกฤษ โดย คาสโตร รับหน้าที่สังหาร บอลพุ่งไปแฉลบกำแพงเหินข้ามคานออกไปนิดเดียว หลังจากนั้นทั้งสองทีมไม่มีจังหวะลุ้นประตูกันอีกจบ 45 นาที สกอร์อยู่ที่ 1-0
เริ่มครึ่งหลัง ผ่านมาเพียง 3 นาที สถานการณ์ของ อังกฤษ ย่ำแย่ลงไปอีกหลังมาเสียประตู 0-2 จากลูกฟรีคิกระยะประมาณ 25 หลาของ โอซิล แต่หลังจากนั้น “สิงโตคำราม” มีโอกาสทวงคืนหนึ่งลูกเช่นกันในนาที 57 จากจังหวะที่ คัทเทอร์โมล ได้สับไกยิงจากนอกเขตโทษ บอลพุ่งแฉลบคานออกไปนิดเดียว
เกมผ่านหนึ่งชั่วโมง มิลเนอร์ ทำเกมขึ้นมาทางริมเขตโทษด้านขวาได้สวย โยกหลอกกองหลังเมืองเบียร์ 2-3 คนจนหลุดไปถึงเส้นหลัง ก่อนตวัดกลับเข้าใน แต่เพื่อนร่วมทีมชาร์จหน้าประตูไม่โดนพลาดโอกาสทวงประตูคืนไป หลังจากนั้นนาที 70 “สิงโตคำราม” มาได้ลูกเตะมุม จอห์นสัน เปิดเข้ากลาง คัทเทอร์โมล ลอยตัวโขก แต่เยอรมนี มี เบ็ก ยืนเฝ้าเส้นอยู่สกัดทิ้งออกไป
เกมเข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย คาสโตร ของ “อินทรีเหล็ก” แตะบอลลอดขา เครนี จนทะลุเข้าเขตโทษ ก่อนเปิดบอลไปทางเสาสองให้ วากเนอร์ จับบอลหนึ่งจังหวะก่อนล็อกเข้ามาซัดด้วยซ้าย แต่บอลเหินข้ามคานออกไป นาทีต่อมา เครนี สกัดพลาดอีกครั้งปล่อยให้ โอซิล ฉกบอลเข้าไปในเขตโทษ ก่อนถวายพานให้ วากเนอร์ พยายามวิ่งเข้าชาร์จ แต่โดนไม่ดี บอลหลุดเสาออกไปอย่างไม่น่าเชื่อ
แต่นาที 79 วากเนอร์ มาพังประตูได้สำเร็จ เมื่อรับบอลได้จาก โอซิล จนหลุดเข้าไปในเขตโทษ ก่อนซัดมุมแคบ บอลลอดขา โลช ซุกก้นตาข่ายทำให้ เยอรมนี หนีห่าง 3-0 หลังจากนั้นอีก 5 นาที ศูนย์หน้าจากดุยส์บวร์ก มาบวกอีกลูกของตัวเองให้ทีมนำห่าง 4-0 จากจังหวะโต้กลับเร็วจนได้บอลขึ้นมายิงปั่นไซด์โค้งตรงเส้นเขตโทษของเมืองผู้ดี บอลเลี้ยวหนีมือ โลช เข้าประตูไปอย่างสวยงาม
ช่วงท้ายเกม อังกฤษ ยังพยายามลุ้นตีไข่แตก โดยมีโอกาสจากลูกเซตพีซ แต่ ริชาร์ดส์ ที่เติมเกมขึ้นมาดันโหม่งหลุดเสาออกไป ขณะที่ “อินทรีเหล็ก” มีลุ้นจังหวะสุดท้ายของเกมจากลูกยิงของ มาร์เซล ชเมลเซอร์ ตัวสำรอง แต่ โลช รับได้สบาย หลังจากนั้นก็จบ 90 นาที เยอรมนี จึงเอาชนะไป 4-0 พร้อมกับคว้าแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ชุดอายุต่ำกว่า 21 ปีเป็นสมัยแรก
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เยอรมนี : มานูเอล นอยเออร์, เจอโรม บัวเต็ง, เซบาสเตียน โบนิสช์, อันเดรียส เบ็ก, แมตส์ จูเลียน ฮัมเมลส์, ฟาเบียน จอห์นสัน, เบเนดิกท์ โอเวเดส, กอนซาโล รอนดอน คาสโตร, เมซุต โอซิล, ซามี เคดิรา, ซานโดร วากเนอร์
อังกฤษ : สกอตต์ โลช, มาร์ติน เครนี, เนดัม โอนูโอชา, ไมกาห์ ริชาร์ดส์, คีแรน กิบบ์ส, เจมส์ มิลเนอร์, มาร์ก โนเบิล, อดัม จอห์นสัน, ธีโอ วัลคอตต์, ฟาบริซ มูอัมบา, ลี คัทเทอร์โมล