“อินทรีเหล็ก” เยอรมนี หวั่นซ้ำรอยช้ำเปลี่ยนใจมาสวมยูนิฟอร์มสีแดง ลงชิงชนะเลิศศึกลูกหนังชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป (ยูโร) 2009 รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี กับ “สิงโตคำราม” อังกฤษ คืนวันนี้ (จันทร์ที่ 29 มิถุนายน 2552)
เยอรมนี บินเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศยูโร 2009 รุ่นยู 21 ปี หลังเฉือน “อัซซูรี” อิตาลี 1-0 เข้ามาเจอกับคู่ปรับ อังกฤษ ที่ดวลจุดโทษเอาชนะ “เจ้าภาพ” สวีเดน 5-4 หลังเสมอกันในเวลา 120 นาที 3-3
โดยก่อนฟาดเกือกกันในรอบชิงคืนนี้ เนื่องด้วยทั้งสองทีมใส่เสื้อเหย้า “สีขาว” เหมือนกัน ทำให้ต้องมีการจับสลาก ปรากฏว่า เยอรมนี ได้สิทธิในการใช้เสื้อหลักลงแข่งขัน ดังนั้น อังกฤษ ต้องเลี่ยงไปใส่ชุดเยือน “สีแดง” แทน
ทว่าให้หลัง “อินทรีเหล็ก” เปลี่ยนใจขอใส่เสื้อสีแดงแทน เล่นเอาแหล่งข่าวในแคมป์ “สิงโตคำราม” งงไปเหมือนกันจากการเปิดเผยผ่าน “เดอะซัน” สื่อเมืองผู้ดี “มันไม่เป็นไปตามหลักการ ฝ่ายเตรียมเสื้อผ้าจัดการอะไรไว้หมดแล้ว แต่ทุกอย่างเปลี่ยนไปในชั่วข้ามคืน”
ด้าน ฮอร์สท ฮรูเบสช์ กุนซือทีมชาติเยอรมนี ชุดยู 21 ปี แก้เก้อเมื่อถูกนักข่าวกระแซะกลัวอาถรรพ์พ่ายซ้ำรอย โดยเมื่อครั้งฟุตบอลโลก 1966 นัดชิงชนะเลิศ อังกฤษ ขย้ำ เยอรมนีตะวันตก 4-2 “ผมถามบรรดานักเตะ พวกเขาอยากสวมเสื้อสีแดงลงแข่งขัน (อินทรีเหล็ก ใช้เสื้อแดงในนัดเฉือนอิตาลี รอบตัดเชือกที่ผ่านมาด้วย)”
สำหรับ อังกฤษ เคยชน เยอรมนี มาแล้วในรอบแบ่งกลุ่ม นัดสุดท้าย ปรากฏว่าเสมอกันไป 1-1 โดย “อินทรีเหล็ก” นำก่อนตั้งแต่นาทีที่ 5 จาก กอนซาโล คาสโตร แต่ “สิงโตคำราม” ที่ใช้ผู้เล่นสำรองเนื่องจากผ่านเข้ารอบแล้ว มาตามตีเสมอสำเร็จจาก แจ็ค ร็อดเวลล์ กองกลางดาวรุ่ง “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน เมื่อถึงครึ่งชั่วโมงพอดี
ซึ่งนัดชิง สจวร์ต เพียร์ซ มีปัญหาในการจัดทัพ 11 คนแรกของอังกฤษ มากทีเดียว เนื่องจากมีนักเตะติดโทษแบนถึง 3 รายได้แก่ โจ ฮาร์ท ผู้รักษาประตู และคู่กองหน้าอย่าง กาเบรียล อักบอนลาฮอร์ กับ เฟรเซอร์ แคมป์เบลล์ ขณะที่เยอรมนี แอสคาน เดจากาห์ ดาวยิงตัวหลักติดโทษแบนเช่นกัน แต่แผงมิดฟิลด์คาดว่าจะได้ มาร์โก มาริน และ ซามี เคดิรา ฟิตสมบูรณ์
เยอรมนี บินเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศยูโร 2009 รุ่นยู 21 ปี หลังเฉือน “อัซซูรี” อิตาลี 1-0 เข้ามาเจอกับคู่ปรับ อังกฤษ ที่ดวลจุดโทษเอาชนะ “เจ้าภาพ” สวีเดน 5-4 หลังเสมอกันในเวลา 120 นาที 3-3
โดยก่อนฟาดเกือกกันในรอบชิงคืนนี้ เนื่องด้วยทั้งสองทีมใส่เสื้อเหย้า “สีขาว” เหมือนกัน ทำให้ต้องมีการจับสลาก ปรากฏว่า เยอรมนี ได้สิทธิในการใช้เสื้อหลักลงแข่งขัน ดังนั้น อังกฤษ ต้องเลี่ยงไปใส่ชุดเยือน “สีแดง” แทน
ทว่าให้หลัง “อินทรีเหล็ก” เปลี่ยนใจขอใส่เสื้อสีแดงแทน เล่นเอาแหล่งข่าวในแคมป์ “สิงโตคำราม” งงไปเหมือนกันจากการเปิดเผยผ่าน “เดอะซัน” สื่อเมืองผู้ดี “มันไม่เป็นไปตามหลักการ ฝ่ายเตรียมเสื้อผ้าจัดการอะไรไว้หมดแล้ว แต่ทุกอย่างเปลี่ยนไปในชั่วข้ามคืน”
ด้าน ฮอร์สท ฮรูเบสช์ กุนซือทีมชาติเยอรมนี ชุดยู 21 ปี แก้เก้อเมื่อถูกนักข่าวกระแซะกลัวอาถรรพ์พ่ายซ้ำรอย โดยเมื่อครั้งฟุตบอลโลก 1966 นัดชิงชนะเลิศ อังกฤษ ขย้ำ เยอรมนีตะวันตก 4-2 “ผมถามบรรดานักเตะ พวกเขาอยากสวมเสื้อสีแดงลงแข่งขัน (อินทรีเหล็ก ใช้เสื้อแดงในนัดเฉือนอิตาลี รอบตัดเชือกที่ผ่านมาด้วย)”
สำหรับ อังกฤษ เคยชน เยอรมนี มาแล้วในรอบแบ่งกลุ่ม นัดสุดท้าย ปรากฏว่าเสมอกันไป 1-1 โดย “อินทรีเหล็ก” นำก่อนตั้งแต่นาทีที่ 5 จาก กอนซาโล คาสโตร แต่ “สิงโตคำราม” ที่ใช้ผู้เล่นสำรองเนื่องจากผ่านเข้ารอบแล้ว มาตามตีเสมอสำเร็จจาก แจ็ค ร็อดเวลล์ กองกลางดาวรุ่ง “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน เมื่อถึงครึ่งชั่วโมงพอดี
ซึ่งนัดชิง สจวร์ต เพียร์ซ มีปัญหาในการจัดทัพ 11 คนแรกของอังกฤษ มากทีเดียว เนื่องจากมีนักเตะติดโทษแบนถึง 3 รายได้แก่ โจ ฮาร์ท ผู้รักษาประตู และคู่กองหน้าอย่าง กาเบรียล อักบอนลาฮอร์ กับ เฟรเซอร์ แคมป์เบลล์ ขณะที่เยอรมนี แอสคาน เดจากาห์ ดาวยิงตัวหลักติดโทษแบนเช่นกัน แต่แผงมิดฟิลด์คาดว่าจะได้ มาร์โก มาริน และ ซามี เคดิรา ฟิตสมบูรณ์