เธอผู้ไม่แพ้ ‘สเวตลาน่า คุซเนตโซว่า’

การรอคอยอันยาวนานกว่า 5 ปีของ ซเวตลานา คุซเนตโซวา ได้สิ้นสุดลงหลังจากเอาชนะ ดินารา ซาฟีนา "หมายเลข 1 ของโลก" คนปัจจุบันได้อย่างง่ายดาย 2-0 เซต 6-4, 6-2 โดยใช้เวลาการแข่งขันเพียงแค่ 1 ชั่วโมง 14 นาทีคว้าแชมป์ เฟรนช์ โอเพน 2009 ซึ่งเป็นแชมป์แกรนด์สแลมรายการที่ 2 ในชีวิต พร้อมส่งชื่อตนเองกลับเข้าสู่ทำเนียบยอดนักเทนนิสหญิงของโลกอีกครั้ง หลังจากอดีตมือ 2 ของโลกผู้เคยเป็นถึงแชมป์ ยูเอส โอเพน 2004 หากห่างหายไปจากหน้าสื่อและความสนใจของแฟนสักหลาดเนื่องจากฟอร์มอันไม่คงเส้นคงวาของตนเอง

ก่อนที่แกรนด์สแลมรายการที่ 2 ของปีจะเปิดฉากขึ้นน้อยชื่อของ คุซเนตโซวา แทบจะไม่ได้รับการกล่าวถึงแม้ว่าเธอจะได้แชมป์ในปีนี้ไปแล้ว 1 รายการที่ สตุ๊ตการ์ท และถูกวางเป็นมือ 7 ของรายการ แต่สปอตไลท์ของสื่อกลับจับจ้องไปที่การพิสูจน์ความเป็นราชินีเทนนิสโลกระหว่าง ดินารา ซาฟีนา กับ เซเรนา วิลเลียมส์ ที่ออกมาเปิดสงครามน้ำลายใส่กันตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมถึงการหวนคืนสนามแกรนด์สแลมอีกครั้งของ มาเรีย ชาราโปวา อดีตมือ 1 ของโลกที่บาดเจ็บไปนานและการลงป้องกันแชมป์ของ อนา อิวาโนวิช สาวสวยชาวเซิร์บ

บนเส้นทางคอร์ตดินสีแดงของโรลังด์ การ์ลอส คุซเนตโซวาในวัย วัย 23 ปีที่ครองแชมป์มาเพียง 6 จาก 21 รายการที่เข้าชิงชนะเลิศนับตั้งแต่ปี 2005 เรียกเสียงเสียงฮือฮาในรอบก่อนรองชนะเลิศเมื่อสามารถโค่น เซเรนา แชมป์เก่าปี 2002 รวมถึง ซามานธา สโตเซอร์ มือดีจากออสเตรเลีย ในรอบตัดเชือกโดยใช้เวลาสองแมตช์รวมกันถึง 5 ชั่วโมง 10 นาที ซึ่งการกรำศึกหนักดังกล่าวทำให้เท้าขวาของสาวรัสเซียพองจนต้องพันผ้าหลายชั้นเพื่อกันการเสียดสี นอกจากนี้ยังออกมายอมรับว่ารู้สึกเหนื่อยล้าจนไม่หวังอะไรในรอบชิงชนะเลิศมากไปกว่าลงไปเล่นให้สนุก

อย่างไรก็ตามเมื่อถึงเวลาลงเล่นรอบชิงชนะเลิศต่อหน้าแฟนเทนนิสนับหมื่นคนใน ‘คอร์ต ฟิลลิป ชาตริเยร์’ คุซเนตโซวา กลับทำผลงานได้ยอดเยี่ยมเอาชนะ ซาฟีนา ขาดลอยโดยทำสถิติเสิร์ฟแรกลงถึง 78 เปอร์เซนต์ และขึ้นไปจบสกอร์หน้าเน็ตได้ 6 แต้มจากโอกาส 6 ครั้งพร้อมกวาด 4 เกมสุดท้ายของแมตช์ตรงกันข้ามกับ ซาฟีนา ที่ขึ้นหน้าเน็ต 6 ครั้งได้ 3 แต้ม นอกจากนี้ยังกดดันตัวเองเสิร์ฟดับเบิลฟอลท์ถึง 7 ลูกซึ่งรวมถึงแต้มแมตช์พอยท์

ภายหลังการแข่งขัน คุซเนตโซวา ออกมากล่าวว่า "วันนี้ลงสนามด้วยความสบายใจ คิดแค่ไปเล่นเทนนิสและทำให้ดีที่สุด ที่สุดฉันก็สามารถคว้าแชมป์มาครองได้หลังจากรอเวลาแบบนี้มานาน ส่วน ซาฟีนา นั้นเธอเล่นได้ดีมากหากแต่การเป็นมือ 1 ของโลกและต้องการแชมป์รายการนี้ทำให้เธอต้องแบกรับความกดดันอย่างหนัก หลังจากเธอเสิร์ฟดับเบิลฟอลท์จนต้องพ่ายแพ้ ฉันไม่กล้าทิ้งตัวลงไปดีใจ เพราะต้องรีบวิ่งไปจับมือและพูดปลอบใจเธอที่หน้าเน็ต"

ด้าน ซาฟีนา ซึ่งเป็นเพื่อนกับ คุซเนตโซวา มา 10 ปียอมรับว่า "ความกดดันมหาศาลเกิดขึ้นเนื่องจากฉันต้องการเป็นแชมป์รายการนี้หลังจากได้รองแชมป์เมื่อปีที่แล้ว แต่สุดท้ายก็ต้องแพ้ใจตนเองอีกเมื่อไม่สามารถรับกับความกดดันได้ สภาพจิตใจของฉันยังแกร่งไม่พอ บางจังหวะในรอบชิงชนะเลิศยอมรับเลยว่ารู้สึกสิ้นหวัง"

ประสบการณ์บนคอร์ตดินของ คุซเนโตโซวา นั้นเริ่มต้นเมื่ออายุ 13 ปี ที่เมือง บาร์เซโลนา ในสเปนอันเป็นผลให้เธอคุ้นเคยเป็นอย่างยิ่งกับสนามที่มีความหนืดของโรลังด์ การ์ลอส หากก่อนหน้านี้ ผลงานในทัวร์ของซาฟิน่าคว้าได้เพียงรองแชมป์ 5 รายการหลังจากครองแชมป์ยูเอสโอเพ่น ทำให้สาวรัสเซียรายนี้ขาดความมั่นใจถึงขนาดคิดจะ “แขวนแร็กเกต”มาแล้ว ทว่าโชคยังเข้าข้างเมื่อเธอมาได้คำแนะนำจาก โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ นักเทนนิสมือ 2 ของโลกคนปัจจุบันเมื่อทั้งคู่เดินทางไปแข่งขันเทนนิส โอลิมปิก ที่กรุง ปักกิ่ง ประเทศจีน

"2-3 ปีที่ผ่านมาฉันประสบปัญหาด้านความเชื่อมั่น โดยเฉพาะหลังจากตกรอบตัดเชือก เฟรนช์ โอเพน เมื่อปี 2008 ตอนนั้นฉันรู้สึกคิดถึงบ้านและอยากพบหน้าคนในครอบครัวแต่ยังลังเลว่าจะไปจากสเปนดีหรือไม่ กระทั่งได้พบกับ โรเจอร์ ระหว่างลงแข่งขัน โอลิมปิก จึงได้เข้าไปขอคำปรึกษาและได้คำตอบจากเขาว่า 'ขอให้ทำตามใจตนเอง เลือกสิ่งที่เธอต้องการ' "

หลังจากฟังคำแนะนำจากแชมป์แกรนด์สแลม 13 สมัย คุซเนตโซวา ตัดสินใจกลับไปอยู่ที่ กรุงมอสโคว์ พร้อมควานหาโค้ชอยู่นานจนได้ ลาริซา ซาฟเชนโก อดีตนักเทนนิสหญิงคู่มือ 1 ของโลกวัย 42 ปีเข้ามาเป็นทั้งโค้ชและเพื่อนส่งผลให้อดีตแชมป์ ยูเอส โอเพน 2004 เริ่มเรียกความมั่นใจกลับมาจนคว้าแชมป์รายการแรกในรอบเกือบ 2 ปีได้ที่ สตุ๊ตการ์ท เมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ก่อนต่อมาครองแชมป์ เฟรนช์ โอเพน ได้ในที่สุด

ภาพที่คุซเนตโซว่า กอดถ้วย “กูป ซูซาน ลองจ์ลอง” ในฐานะแชมป์หญิงเดี่ยว เฟรนช์ โอเพน เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมานั้นแสดงให้เห็นว่ารางวัลแห่งความสำเร็จคือผลตอบแทนอันหอมหวานของ “เธอผู้ไม่แพ้” สเวตลาน่า คุซเนตโซว่า