“สิงห์บลูส์” เชลซี บุกหักกระบอก “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ถึงถิ่น 4-1 ในศึกลอนดอน ดาร์บีแมตช์ ของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำคืนวันอาทิตย์ที่ 10 พฤษภาคม 2552
ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
อาร์เซนอล 1-4 เชลซี
อาร์แซน เวนเกอร์ มีการสลับตัวผู้เล่น “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ในการทำศึกลอนดอน ดาร์บีแมตช์ กับ “สิงห์บลูส์” เชลซี หลังกรำศึกในยุโรปช่วงกลางสัปดาห์ นัดนี้พัก เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ไว้ข้างสนามใส่ อาบู ดิยาบี ลงช่วยไล่แดนกลาง ส่วน อังเดร อาร์ชาวิน ไม่สบายลงสนามไม่ได้ ขณะที่ กุส ฮิดดิงก์ จัดทัพใหญ่มาเยือน เอมิเรตส์ สเตเดียม พร้อมกับให้ นิโกลาส์ อเนลกา ลงล่าตาข่ายต้นสังกัดเก่าร่วมกับ ดิดิเยร์ ดร็อกบา ที่เพิ่งฉุนขาดมาจากการตกรอบ ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ
เริ่มเกมการแข่งขันเพียง 18 วินาที ธีโอ วัลคอตต์ เล่นชิ่งกับ เชส ฟาเบรกาส ก่อนหลุดเข้าไปยิงในกรอบโทษแต่งัดเกินไปบอลโด่งข้ามคาน แม้ตัวผู้เล่นดูเป็นรองแต่ อาร์เซนอล เดินเกมรุกแบบไม่เกรงกลัว ซาเมียร์ นาสรี ป้ายให้ วัลคอตต์ หลุดเข้าไปดีดมุมแคบ ปีเตอร์ เช็ก ต้องปัดพ้นเสาไป ทีมเยือนลุยขึ้นมาได้บ้าง นิโกลาส์ อเนลกา ลากตัดเข้าในก่อนใส่พานให้ แฟรงค์ แลมพาร์ด ตะบันบอลเฉียดคานนิดเดียวเท่านั้น
นาทีที่ 12 “ปืนใหญ่” ชวดสลุตประตูเมื่อ วัลคอตต์ ได้บอลในกรอบโทษก่อนไหลเข้ากลางให้ อาบู ดิยาบี แปด้วยซ้ายบอลหลุดเสาสองไปอย่างน่าเสียดายที่สุด เกมแลกกันอย่างสนุก เจ้าบ้านพลาดขึ้นนำอีกครั้ง ดิยาบี ลุยขึ้นมาทางซ้ายป้ายให้ วัลคอตต์ ยิงเร็วบริเวณเส้นโทษบอลพุ่งถากเสาแบบเส้นยาแดงผ่าแปด ครึ่งทางของครึ่งแรก ดิดิเยร์ ดร็อกบา ตอกส้นให้ แอชลีย์ โคล เติมเข้ากรอบโทษจ่ายให้ ฟลอรองต์ มาลูดา แปเน้นๆ ติดบล็อก คีแรน กิบบ์ส ที่หุบมาช่วยได้ทันเวลา
ถึงนาทีที่ 28 กลายเป็น “สิงห์บลูส์” ตะปบบนำ 1-0 เมื่อ ดร็อกบา หยอดฟรีคิกให้ อเล็กซ์ เติมขึ้นมาโขกบอลกระแทกคานล่างเข้าประตูไป หมดสิทธิสำหรับ ลูคัสซ์ ฟาเบียนสกี พอโดนไปก่อน อาร์เซนอล เดินเกมรุกหวังทวงประตูคืน แต่สิบนาทีถัดมาเป็นทาง เชลซี ที่ทิ้งห่างเป็น 2-0 อเนลกา ลากตัดจากซ้ายเข้ามา ซิลแวสตร์ พยายามเข้ามาบังทางแต่ดาวยิงทีมชาติฝรั่งเศสตะบันด้วยขวาส่งลูกหนังผ่านมือ ฟาเบียนสกี จบครึ่งแรกแม้รูปเกมเป็นรอง แต่ผู้มาเยือนได้เปรียบเรื่องสกอร์
ลงมาลุยต่อครึ่งหลังแค่ 4 นาที เชลซี นำไปไกลเป็น 3-0 จอห์น โอบี มิเกล เปิดบอลให้ โคล หลุดเข้าไปเปิดบอลทางริมเส้นฝั่งซ้ายเข้ามาเสาแรก โคโล ตูเร สกัดบอลพลาดกระเด้งเสาเข้าประตูตัวเอง จังหวะถัดมา อาร์เซนอล เกือบตีไข่แตกได้ทันควัน ดิยาบี ฝ่าเข้าไปแทงทะลุช่องให้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี แปไปติดปลายมือ เช็ก นาทีที่ 57 เจ้าถิ่นพลาดโอกาสทองอีกครั้ง อเล็กซานเดอร์ ซง เปิดให้ วัลคอตต์ หลุดโล่งๆ ก่อนดีดด้วยขวาหลุดเลยเสาสองไปอีก ค่อนข้างใช้โอกาสเปลืองทีเดียวสำหรับปีกดาวรุ่งทีมชาติอังกฤษ
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป เชลซี เล่นกันอย่างไม่กดดันเกือบได้ประตูอีกครั้งถ้า โฮเซ โบซิงวา ที่เติมขึ้นมาไม่ซัดบอลเหน่งๆ ข้ามคานไปนิดเดียว เมื่อไม่มีอะไรดีขึ้น อาร์แซน เวนเกอร์ ขยับส่งทั้ง เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ และ เดนิลสัน ลงมาเล่นแทน ซง กับ วัลคอตต์ นาทีที่ 70 “ปืนใหญ่” ไล่มา 1-3 บาการี ซานญา เปิดจากขวาอย่างเหมาะเหม็งให้ นิคลาส เบนด์ทเนอร์ อีกหนึ่งตัวสำรองที่ลงมาก่อนหน้านี้กระโดดเหนือ เอสเซียง ขึ้นโขกไม่เหลือ
15 นาทีสุดท้ายการเติมเกมของ ซานญา เกือบได้ผลอีกครั้งโยนมาให้ เบนด์ทเนอร์ โหม่งเต็มๆ แต่คราวนี้ เช็ก บินรับไว้ทัน ก่อนหมดเวลา 4 นาที เชลซี ย้ำชัย 4-1 ฟลอรองต์ มาลูดา ยิงไปติดเซฟ ฟาเบียนสกี เข้าทาง อเนลกา ซ้ำชนเสาแต่กระดอนเป็นใจให้ มาลูดา แปกระแทกเข้าไป หมดเวลา “สิงห์บลูส์” เก็บเพิ่มเป็น 77 คะแนนจากการลงเตะ 36 นัด รั้งอันดับ 3 ของตาราง ตามหลัง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ที่สองอยู่ 3 แต้ม ขณะที่ อาร์เซนอล มีอยู่ 68 คะแนนเท่าเดิม จบฤดูกาลในอันดับ 4 แน่นอนแล้ว
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
อาร์เซนอล : ลูคัสซ์ ฟาเบียนสกี , บาการี ซานญา , โคโล ตูเร , มิคาเอล ซิลแวสตร์ , คีแรน กิบบ์ส , ธีโอ วัลคอตต์ , อเล็กซานเดอร์ ซง , อาบู ดิยาบี , ซาเมียร์ นาสรี , เชส ฟาเบรกาส , โรบิน ฟาน เพอร์ซี
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก , โฮเซ โบซิงวา , จอห์น เทอร์รี , อเล็กซ์ , แอชลีย์ โคล , จอห์น โอบี มิเกล , มิคาเอล เอสเซียง , แฟรงค์ แลมพาร์ด , ฟลอรองต์ มาลูดา , นิโกลาส์ อเนลกา , ดิดิเยร์ ดร็อกบา
ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
อาร์เซนอล 1-4 เชลซี
อาร์แซน เวนเกอร์ มีการสลับตัวผู้เล่น “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ในการทำศึกลอนดอน ดาร์บีแมตช์ กับ “สิงห์บลูส์” เชลซี หลังกรำศึกในยุโรปช่วงกลางสัปดาห์ นัดนี้พัก เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ไว้ข้างสนามใส่ อาบู ดิยาบี ลงช่วยไล่แดนกลาง ส่วน อังเดร อาร์ชาวิน ไม่สบายลงสนามไม่ได้ ขณะที่ กุส ฮิดดิงก์ จัดทัพใหญ่มาเยือน เอมิเรตส์ สเตเดียม พร้อมกับให้ นิโกลาส์ อเนลกา ลงล่าตาข่ายต้นสังกัดเก่าร่วมกับ ดิดิเยร์ ดร็อกบา ที่เพิ่งฉุนขาดมาจากการตกรอบ ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ
เริ่มเกมการแข่งขันเพียง 18 วินาที ธีโอ วัลคอตต์ เล่นชิ่งกับ เชส ฟาเบรกาส ก่อนหลุดเข้าไปยิงในกรอบโทษแต่งัดเกินไปบอลโด่งข้ามคาน แม้ตัวผู้เล่นดูเป็นรองแต่ อาร์เซนอล เดินเกมรุกแบบไม่เกรงกลัว ซาเมียร์ นาสรี ป้ายให้ วัลคอตต์ หลุดเข้าไปดีดมุมแคบ ปีเตอร์ เช็ก ต้องปัดพ้นเสาไป ทีมเยือนลุยขึ้นมาได้บ้าง นิโกลาส์ อเนลกา ลากตัดเข้าในก่อนใส่พานให้ แฟรงค์ แลมพาร์ด ตะบันบอลเฉียดคานนิดเดียวเท่านั้น
นาทีที่ 12 “ปืนใหญ่” ชวดสลุตประตูเมื่อ วัลคอตต์ ได้บอลในกรอบโทษก่อนไหลเข้ากลางให้ อาบู ดิยาบี แปด้วยซ้ายบอลหลุดเสาสองไปอย่างน่าเสียดายที่สุด เกมแลกกันอย่างสนุก เจ้าบ้านพลาดขึ้นนำอีกครั้ง ดิยาบี ลุยขึ้นมาทางซ้ายป้ายให้ วัลคอตต์ ยิงเร็วบริเวณเส้นโทษบอลพุ่งถากเสาแบบเส้นยาแดงผ่าแปด ครึ่งทางของครึ่งแรก ดิดิเยร์ ดร็อกบา ตอกส้นให้ แอชลีย์ โคล เติมเข้ากรอบโทษจ่ายให้ ฟลอรองต์ มาลูดา แปเน้นๆ ติดบล็อก คีแรน กิบบ์ส ที่หุบมาช่วยได้ทันเวลา
ถึงนาทีที่ 28 กลายเป็น “สิงห์บลูส์” ตะปบบนำ 1-0 เมื่อ ดร็อกบา หยอดฟรีคิกให้ อเล็กซ์ เติมขึ้นมาโขกบอลกระแทกคานล่างเข้าประตูไป หมดสิทธิสำหรับ ลูคัสซ์ ฟาเบียนสกี พอโดนไปก่อน อาร์เซนอล เดินเกมรุกหวังทวงประตูคืน แต่สิบนาทีถัดมาเป็นทาง เชลซี ที่ทิ้งห่างเป็น 2-0 อเนลกา ลากตัดจากซ้ายเข้ามา ซิลแวสตร์ พยายามเข้ามาบังทางแต่ดาวยิงทีมชาติฝรั่งเศสตะบันด้วยขวาส่งลูกหนังผ่านมือ ฟาเบียนสกี จบครึ่งแรกแม้รูปเกมเป็นรอง แต่ผู้มาเยือนได้เปรียบเรื่องสกอร์
ลงมาลุยต่อครึ่งหลังแค่ 4 นาที เชลซี นำไปไกลเป็น 3-0 จอห์น โอบี มิเกล เปิดบอลให้ โคล หลุดเข้าไปเปิดบอลทางริมเส้นฝั่งซ้ายเข้ามาเสาแรก โคโล ตูเร สกัดบอลพลาดกระเด้งเสาเข้าประตูตัวเอง จังหวะถัดมา อาร์เซนอล เกือบตีไข่แตกได้ทันควัน ดิยาบี ฝ่าเข้าไปแทงทะลุช่องให้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี แปไปติดปลายมือ เช็ก นาทีที่ 57 เจ้าถิ่นพลาดโอกาสทองอีกครั้ง อเล็กซานเดอร์ ซง เปิดให้ วัลคอตต์ หลุดโล่งๆ ก่อนดีดด้วยขวาหลุดเลยเสาสองไปอีก ค่อนข้างใช้โอกาสเปลืองทีเดียวสำหรับปีกดาวรุ่งทีมชาติอังกฤษ
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป เชลซี เล่นกันอย่างไม่กดดันเกือบได้ประตูอีกครั้งถ้า โฮเซ โบซิงวา ที่เติมขึ้นมาไม่ซัดบอลเหน่งๆ ข้ามคานไปนิดเดียว เมื่อไม่มีอะไรดีขึ้น อาร์แซน เวนเกอร์ ขยับส่งทั้ง เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ และ เดนิลสัน ลงมาเล่นแทน ซง กับ วัลคอตต์ นาทีที่ 70 “ปืนใหญ่” ไล่มา 1-3 บาการี ซานญา เปิดจากขวาอย่างเหมาะเหม็งให้ นิคลาส เบนด์ทเนอร์ อีกหนึ่งตัวสำรองที่ลงมาก่อนหน้านี้กระโดดเหนือ เอสเซียง ขึ้นโขกไม่เหลือ
15 นาทีสุดท้ายการเติมเกมของ ซานญา เกือบได้ผลอีกครั้งโยนมาให้ เบนด์ทเนอร์ โหม่งเต็มๆ แต่คราวนี้ เช็ก บินรับไว้ทัน ก่อนหมดเวลา 4 นาที เชลซี ย้ำชัย 4-1 ฟลอรองต์ มาลูดา ยิงไปติดเซฟ ฟาเบียนสกี เข้าทาง อเนลกา ซ้ำชนเสาแต่กระดอนเป็นใจให้ มาลูดา แปกระแทกเข้าไป หมดเวลา “สิงห์บลูส์” เก็บเพิ่มเป็น 77 คะแนนจากการลงเตะ 36 นัด รั้งอันดับ 3 ของตาราง ตามหลัง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ที่สองอยู่ 3 แต้ม ขณะที่ อาร์เซนอล มีอยู่ 68 คะแนนเท่าเดิม จบฤดูกาลในอันดับ 4 แน่นอนแล้ว
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
อาร์เซนอล : ลูคัสซ์ ฟาเบียนสกี , บาการี ซานญา , โคโล ตูเร , มิคาเอล ซิลแวสตร์ , คีแรน กิบบ์ส , ธีโอ วัลคอตต์ , อเล็กซานเดอร์ ซง , อาบู ดิยาบี , ซาเมียร์ นาสรี , เชส ฟาเบรกาส , โรบิน ฟาน เพอร์ซี
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก , โฮเซ โบซิงวา , จอห์น เทอร์รี , อเล็กซ์ , แอชลีย์ โคล , จอห์น โอบี มิเกล , มิคาเอล เอสเซียง , แฟรงค์ แลมพาร์ด , ฟลอรองต์ มาลูดา , นิโกลาส์ อเนลกา , ดิดิเยร์ ดร็อกบา