คริสเตียโน โรนัลโด และ คาร์ลอส เตเบซ ช่วยกันยิงประตูช่วย “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านล่ม “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี 2-0 ในศึกดาร์บีแมตช์ พร้อมทวงจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนมาจาก “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล
ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-0 แมนเชสเตอร์ ซิตี
ผ่านศึกหนังในฟุตบอลยุโรปถ้วยใหญ่ช่วงกลางสัปดาห์ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ปรับหมาก “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พอสมควรในการลุย “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี ในดาร์บีแมตช์ พักทั้ง จอห์น โอเชีย, ไมเคิล คาร์ริค และ เวย์น รูนีย์ อยู่ขอบสนาม แต่ก็มี คริสเตียโน โรนัลโด เป็นตัวหลัก ด้าน มาร์ค ฮิวจ์ส หวังมีแต้มออกจากโอลด์ แทรฟฟอร์ด เพื่อลุ้นโควตาลุย ยูโรปา ลีก ซีซันหน้า เกมนี้มาเยือนแบบเต็มสูบนำโดย เอลาโน บลูมเมอร์ และ โรบินโญ สตาร์บราซิเลียน
เริ่มเกมการแข่งขันได้สองนาทีเศษ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้จังหวะลุ้นทำประตูก่อน ราฟาเอล ดา ซิลวา เปิดบอลเข้ากลาง คาร์ลอส เตเบซ แตะต่อให้ ปาร์ค จี ซอง แปด้วยขวาส่งบอลหลุดเสาไป จังหวะถัดมา เตเบซ ลองสับไกแต่ไม่เกินความสามารถของ เชย์ กิฟเวน ช่วง 10 นาทีแรกเป็นเจ้าถิ่นเดินเกมรุกใส่อย่างต่อเนื่อง คริสเตียโน โรนัลโด อาศัยความสามารถเฉพาะตัวลากหนี ไมกาห์ ริชาร์ดส เข้ามายิงด้วยขวาแต่ตรงตัว กิฟเวน
เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 18 “ผีแดง” ออกนำ 1-0 เมื่อได้ลูกฟรีคิกหวังผลระยะ 30 หลา โรนัลโด รับหน้าที่ตะบันผ่านช่องกำแพงเข้าเสียบตาข่าย กิฟเวน พยายามปัดแต่ไม่ถึง พอโดนไปก่อน แมนฯ ซิตี ตั้งเกมขึ้นมาบ้างสิบนาทีถัดมา โรบินโญ ได้ล็อกยิงบริเวณหัวกะโหลกแต่บอลค่อนข้างบดหลุดข้างเสาไป ครึ่งชั่วโมงผ่านไป แมนฯ ยูไนเต็ด เกือบหนีห่าง ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ ไหลคืนให้ เตเบซ ปั่นด้วยขวาบอลลอยไปกระแทกบริเวณสามเหลี่ยมออกมา กิฟเวน ได้แค่ป้องกันด้วยสายตา
ทั้งสองฝ่ายเปิดเกมแลกตามจังหวะของตัวเอง แต่เป็นเจ้าบ้านซึ่งดูมีจังหวะฉาบฉวยที่เหนือกว่าเล็กน้อย ไรอัน กิกส์ พยายามเล่นลักไก่เปิดฟรีคิกเร็ว โรนัลโด วิ่งกวดจะไปเอาบอลแต่ กิฟเวน ไวกว่าออกมาตัดไว้ได้ ถึงนาทีสุดท้ายของครึ่งแรก แมนฯ ยูไนเต็ด หนีห่างเป็น 2-0 จนได้ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ป้ายบอลให้ เตเบซ ล็อกหลบ ริชาร์ด ดันน์ ก่อนยิงบอลผ่านมือ กิฟเวน แฉลบเสาประตูเข้าไป จบ 45 นาทีแรกเจ้าถิ่นได้เปรียบทั้งสกอร์และรูปเกม
ลงมาลุยต่อครึ่งหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด ยังเดินหน้าต่อไป ราฟาเอล กึ่งยิงกึ่งผ่านมาหน้าประตูบอลข้ามคานแบบเฉียดฉิว นาทีที่ 51 “เรือใบสีฟ้า” พลาดโอกาสตีไข่แตกไปอย่างเหลือเชื่อ โรบินโญ จับบอลได้ในเขตโทษแต่ยิงหลุดกรอบอย่างน่าเสียดาย แต่ก็ต้องชม ราฟาเอล ที่เบียดรุ่นพี่ชาวบราซิเลียนให้ยิงไม่ถนัดนัก ทีมเยือนได้โอกาสอีกครั้งจาก เฟลิเป ไซเซโด แต่ไม่เป็นปัญหาสำหรับ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์
ผ่านหนึ่งชั่วโมงเต็ม เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ขยับเปลี่ยน เวย์น รูนีย์ และ พอล สโคลส์ ลงมาเล่นแทน โรนัลโด กับ ปาร์ค จี ซอง จากนั้น มาร์ค ฮิวจ์ส ปรับหมากให้ผู้มาเยือนบ้างใส่ วาเลรี โบจินอฟ ไปลุ้นล่าตาข่ายแทน ไซเซโด และดาวยิงทีมชาติบัลแกเรียก็ได้ลุ้นทันทีแต่ยิงติดบล็อกกองหลังเจ้าถิ่น เมื่อโดนบุกหนักขึ้นเรื่อยๆ ท่านเซอร์ ทิ้งไพ่ใบสุดท้ายส่ง จอห์น โอเชีย มาค้ำเกมรับแทน จอนนี อีแวนส์ ช่วง 20 นาทีสุดท้าย
แมนฯ ซิตี แก้เกมเหมือนกันให้ มาร์ติน เปตรอฟ มาเติมความวูบวาบทางกราบพร้อมกับถอด ไนเจล เดอ ยองก์ ที่เป็นกองกลางตัวรับออกมา 5 นาทีสุดท้าย เปตรอฟ ลองยิงจากนอกกรอบด้วยซ้ายข้างถนัดร้อนถึง ฟาน เดอร์ ซาร์ ต้องบินปัดออกไป นาทีสุดท้าย “ผีแดง” เกือบทิ้งขาดแต่ เตเบซ ดันโหม่งหลาเดียวชนเสา อย่างไรก็ตาม ครบ 90 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด คว้าชัยสำเร็จ เก็บเพิ่มเป็น 83 คะแนนจากการลงสนาม 35 นัด แซงหน้า ลิเวอร์พูล ขึ้นนั่งจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกด้วยความห่าง 3 แต้ม แถมมีเกมตกค้างกับ วีแกน แอธเลติก รออยู่ช่วงกลางสัปดาห์ ขณะที่ “เรือใบสีฟ้า” ยังอยู่อันดับ 10 ของตาราง มีอยู่ 47 คะแนนเท่าเดิม
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
แมนฯ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ , ราฟาเอล ดา ซิลวา , จอนนี อีแวนส์ , เนมันยา วิดิช , ปาทริซ เอฟรา , ปาร์ค จี ซอง , ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ , ไรอัน กิกส์ , คริสเตียโน โรนัลโด , คาร์ลอส เตเบซ , ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ
แมนฯ ซิตี : เชย์ กิฟเวน , ไมกาห์ ริชาร์ดส , เนดุม โอนัวฮา , ริชาร์ด ดันน์ , เวย์น บริดจ์ , ไนเจล เดอ ยองก์ , แว็งซองต์ กอมปานี , เอลาโน บลูมเมอร์ , สตีเฟน ไอร์แลนด์ , โรบินโญ , เฟลิเป ไซเซโด
ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-0 แมนเชสเตอร์ ซิตี
ผ่านศึกหนังในฟุตบอลยุโรปถ้วยใหญ่ช่วงกลางสัปดาห์ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ปรับหมาก “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พอสมควรในการลุย “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี ในดาร์บีแมตช์ พักทั้ง จอห์น โอเชีย, ไมเคิล คาร์ริค และ เวย์น รูนีย์ อยู่ขอบสนาม แต่ก็มี คริสเตียโน โรนัลโด เป็นตัวหลัก ด้าน มาร์ค ฮิวจ์ส หวังมีแต้มออกจากโอลด์ แทรฟฟอร์ด เพื่อลุ้นโควตาลุย ยูโรปา ลีก ซีซันหน้า เกมนี้มาเยือนแบบเต็มสูบนำโดย เอลาโน บลูมเมอร์ และ โรบินโญ สตาร์บราซิเลียน
เริ่มเกมการแข่งขันได้สองนาทีเศษ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้จังหวะลุ้นทำประตูก่อน ราฟาเอล ดา ซิลวา เปิดบอลเข้ากลาง คาร์ลอส เตเบซ แตะต่อให้ ปาร์ค จี ซอง แปด้วยขวาส่งบอลหลุดเสาไป จังหวะถัดมา เตเบซ ลองสับไกแต่ไม่เกินความสามารถของ เชย์ กิฟเวน ช่วง 10 นาทีแรกเป็นเจ้าถิ่นเดินเกมรุกใส่อย่างต่อเนื่อง คริสเตียโน โรนัลโด อาศัยความสามารถเฉพาะตัวลากหนี ไมกาห์ ริชาร์ดส เข้ามายิงด้วยขวาแต่ตรงตัว กิฟเวน
เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 18 “ผีแดง” ออกนำ 1-0 เมื่อได้ลูกฟรีคิกหวังผลระยะ 30 หลา โรนัลโด รับหน้าที่ตะบันผ่านช่องกำแพงเข้าเสียบตาข่าย กิฟเวน พยายามปัดแต่ไม่ถึง พอโดนไปก่อน แมนฯ ซิตี ตั้งเกมขึ้นมาบ้างสิบนาทีถัดมา โรบินโญ ได้ล็อกยิงบริเวณหัวกะโหลกแต่บอลค่อนข้างบดหลุดข้างเสาไป ครึ่งชั่วโมงผ่านไป แมนฯ ยูไนเต็ด เกือบหนีห่าง ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ ไหลคืนให้ เตเบซ ปั่นด้วยขวาบอลลอยไปกระแทกบริเวณสามเหลี่ยมออกมา กิฟเวน ได้แค่ป้องกันด้วยสายตา
ทั้งสองฝ่ายเปิดเกมแลกตามจังหวะของตัวเอง แต่เป็นเจ้าบ้านซึ่งดูมีจังหวะฉาบฉวยที่เหนือกว่าเล็กน้อย ไรอัน กิกส์ พยายามเล่นลักไก่เปิดฟรีคิกเร็ว โรนัลโด วิ่งกวดจะไปเอาบอลแต่ กิฟเวน ไวกว่าออกมาตัดไว้ได้ ถึงนาทีสุดท้ายของครึ่งแรก แมนฯ ยูไนเต็ด หนีห่างเป็น 2-0 จนได้ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ป้ายบอลให้ เตเบซ ล็อกหลบ ริชาร์ด ดันน์ ก่อนยิงบอลผ่านมือ กิฟเวน แฉลบเสาประตูเข้าไป จบ 45 นาทีแรกเจ้าถิ่นได้เปรียบทั้งสกอร์และรูปเกม
ลงมาลุยต่อครึ่งหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด ยังเดินหน้าต่อไป ราฟาเอล กึ่งยิงกึ่งผ่านมาหน้าประตูบอลข้ามคานแบบเฉียดฉิว นาทีที่ 51 “เรือใบสีฟ้า” พลาดโอกาสตีไข่แตกไปอย่างเหลือเชื่อ โรบินโญ จับบอลได้ในเขตโทษแต่ยิงหลุดกรอบอย่างน่าเสียดาย แต่ก็ต้องชม ราฟาเอล ที่เบียดรุ่นพี่ชาวบราซิเลียนให้ยิงไม่ถนัดนัก ทีมเยือนได้โอกาสอีกครั้งจาก เฟลิเป ไซเซโด แต่ไม่เป็นปัญหาสำหรับ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์
ผ่านหนึ่งชั่วโมงเต็ม เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ขยับเปลี่ยน เวย์น รูนีย์ และ พอล สโคลส์ ลงมาเล่นแทน โรนัลโด กับ ปาร์ค จี ซอง จากนั้น มาร์ค ฮิวจ์ส ปรับหมากให้ผู้มาเยือนบ้างใส่ วาเลรี โบจินอฟ ไปลุ้นล่าตาข่ายแทน ไซเซโด และดาวยิงทีมชาติบัลแกเรียก็ได้ลุ้นทันทีแต่ยิงติดบล็อกกองหลังเจ้าถิ่น เมื่อโดนบุกหนักขึ้นเรื่อยๆ ท่านเซอร์ ทิ้งไพ่ใบสุดท้ายส่ง จอห์น โอเชีย มาค้ำเกมรับแทน จอนนี อีแวนส์ ช่วง 20 นาทีสุดท้าย
แมนฯ ซิตี แก้เกมเหมือนกันให้ มาร์ติน เปตรอฟ มาเติมความวูบวาบทางกราบพร้อมกับถอด ไนเจล เดอ ยองก์ ที่เป็นกองกลางตัวรับออกมา 5 นาทีสุดท้าย เปตรอฟ ลองยิงจากนอกกรอบด้วยซ้ายข้างถนัดร้อนถึง ฟาน เดอร์ ซาร์ ต้องบินปัดออกไป นาทีสุดท้าย “ผีแดง” เกือบทิ้งขาดแต่ เตเบซ ดันโหม่งหลาเดียวชนเสา อย่างไรก็ตาม ครบ 90 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด คว้าชัยสำเร็จ เก็บเพิ่มเป็น 83 คะแนนจากการลงสนาม 35 นัด แซงหน้า ลิเวอร์พูล ขึ้นนั่งจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกด้วยความห่าง 3 แต้ม แถมมีเกมตกค้างกับ วีแกน แอธเลติก รออยู่ช่วงกลางสัปดาห์ ขณะที่ “เรือใบสีฟ้า” ยังอยู่อันดับ 10 ของตาราง มีอยู่ 47 คะแนนเท่าเดิม
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
แมนฯ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ , ราฟาเอล ดา ซิลวา , จอนนี อีแวนส์ , เนมันยา วิดิช , ปาทริซ เอฟรา , ปาร์ค จี ซอง , ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ , ไรอัน กิกส์ , คริสเตียโน โรนัลโด , คาร์ลอส เตเบซ , ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ
แมนฯ ซิตี : เชย์ กิฟเวน , ไมกาห์ ริชาร์ดส , เนดุม โอนัวฮา , ริชาร์ด ดันน์ , เวย์น บริดจ์ , ไนเจล เดอ ยองก์ , แว็งซองต์ กอมปานี , เอลาโน บลูมเมอร์ , สตีเฟน ไอร์แลนด์ , โรบินโญ , เฟลิเป ไซเซโด
