เยเลนา โดคิช อดีตนักเทนนิสมือ 4 ของโลกชาวออสเตรเลียเชื้อสายเซิร์บถูก ดาเมียร์ โดคิช คุณพ่อจอมโหดโทรศัพท์ขู่วางระเบิดรถยนต์เนื่องจากไม่พอใจที่ลูกสาวไปให้สัมภาษณ์แฉพฤติกรรมสุดถ่อยสมัยที่ทั้งคู่ยังใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน
เมื่อ 10 ปีก่อนในรอบแรกวิมเบิลดัน 1999 โดคิช ในวัย 16 ปีพลิกล็อกเอาชนะ มาร์ตินา ฮินกิส มือ 1 โลกในตอนนั้นจนมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกจากนั้นเธอยังโชว์ผลงานดีต่อเนื่องขึ้นสูงถึงอันดับ 4 ของโลกในปี 2002 ทว่าในปีเดียวกันนั้นหวดสาวเซิร์บเริ่มมีปัญหากับคุณพ่อ ดาเมียร์ จนต้องหนีออกจากบ้านและพักการแข่งขันไปนานเพิ่งกลับมาลงสนามอีกครั้งในปี 2006 และได้โอนสัญชาติเป็นชาวออสเตรเลียอย่างถาวรจนกระทั่งเมื่อต้นปีที่ผ่านมาโชว์ฟอร์มทะลุถึงรอบ 8 คนสุดท้ายออสเตรเลียน โอเพน ซึ่งนับเป็นการเกิดใหม่อีกครั้งกระทั่งมีโอกาสมาเเฉพฤติกรรมสุดทรามของพ่อให้นิตยสาร สปอร์ต แอนด์ สไตล์ (Sport&Style) นำมาตีพิมพ์เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
โดย โดคิช วัย 26 ปีแฉว่าเคยถูก ดาเมียร์ พ่อของตนเองทำร้ายตอนเป็นเด็ก นอกจากนี้ยังทำร้ายจิตใจด้วยการก่อเรื่องระหว่างเดินทางไปแข่งขันเทนนิสเป็นประจำ ขณะเดียวกันได้กล่าวชื่นชม ทิม บิคิช แฟนหนุ่มว่ามีส่วนช่วยให้เธอผ่านเหตุการณ์เลวร้ายทั้งหลายมาได้ ซึ่งการให้สัมภาษณ์ดังกล่าวสร้างความโกรธแค้นให้กับ ดาเมียร์ จนถึงขนาดต่อสายโทรศัพท์ไปถึงสถานทูตออสเตรเลียประจำกรุงเบลเกรด ประเทศเซอร์เบีย เมื่อวันอังคารที่ 5 พฤษภาคมที่ผ่านมาขู่จะระเบิดรถของ เยเลนา โดคิช ด้วยระเบิดน้อยหน่า หากลูกสาวในไส้ซึ่งตัดพ่อตัดลูกไปแล้วไม่ยอมถอนคำพูดที่ได้ให้ไว้กับ สปอร์ต แอนด์ สไตล์ (Sport&Style)
เพื่อทำให้เรื่องราวรุนแรงและวุ่นวายมากขึ้น ดาเมียร์ โดคิช ลงทุนโทรศัพท์ไปหานักข่าวของ บลิช (Blic) สำนักข่าวดังของเซอร์เบียเพื่อยืนยันว่าการขู่วางระเบิดรถยนต์ลูกสาวเป็นเรื่องจริง โดยนอกจากจะต้องการให้หวดสาวถอนคำพูดแล้ว ยังร้องไปที่ รัฐมนตรีกระทรวงสารสนเทศของออสเตรเลียให้หาตัวผู้ตีพิมพ์และเผยแพร่บทความอันเป็นเท็จซึ่งพาดพิงตัวเขาอย่างรุนเเรงมาลงโทษอีกด้วย (นิตยสาร สปอร์ต แอนด์ สไตล์ คือผู้ตีพิมพ์)
สำหรับ ดาเมียร์ โดคิช นับเป็นตัวอย่างของคุณพ่อนักกีฬาดังที่ทำตัวมีปัญหามากที่สุดในโลก โดยในปี 1999 เคยถูกไล่ออกจากทัวร์นาเมนต์ที่เบอร์มิงแฮมขณะไปตามเชียร์ลูกสาว จากนั้นในปี 2000 ก่อคดีทำร้ายช่างภาพในออสเตรเลียน โอเพน วิมเบิลดัน และ ยูเอส โอเพน จนถูกดับเบิลยูทีเอ ทัวร์ สั่งแบนเป็นเวลา 6 เดือน และปัจจุบันอาศัยอยู่ตัวคนเดียวในกรุงเบลเกรด ประเทศเซอร์เบีย
