“จุดโทษ” ยิงอย่างไรไม่ให้พลาด?

ทีมชาติอังกฤษ ที่ลิ้มรสความเจ็บปวดจากการดวลเป้ามานับครั้งไม่ถ้วน, จอห์น เทอร์รี กัปตันเชลซีที่พลาดลูกนิ่งระยะ 12 หลา ปล่อยให้ถ้วยยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก หลุดลอยไปอยู่ในมือพลพรรค แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อซีซันก่อน รวมถึง มาร์ติน ปาแลร์โม ดาวยิงอาร์เจนตินาที่ทำแฮตทริก (ด้านลบ) ยิงจุดโทษไม่เข้า 3 ครั้งในเกมเดียว ค้นพบหนทางขจัดปัญหาเท้าบอดในการทำหน้าที่เพชฌฆาตแล้ว เมื่อ สกาย สปอร์ตส (Sky Sports) จับมือกับนักวิจัยค้นคว้าหาวิธียิงจุดโทษอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถใช้ได้ผลในสถานการณ์จริง

โดย ลิเวอร์พูล จอห์น มัวร์ส ยูนิเวอร์ซิตี ได้นำเอาเทคโนโลยีเข้ามาช่วยโดยการขอวิดีโอเทปที่บันทึกในระบบ HD (High Definition) ซึ่งมีความละเอียดของภาพสูงจากสื่อโทรทัศน์ด้านกีฬาชั้นนำ เพื่อนำมาศึกษาจังหวะยิงจุดโทษในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ฤดูกาลก่อน และพรีเมียร์ชิป อังกฤษ ซีซันนี้อย่างละเอียด

จากผลการสังเกต ศาสตราจารย์ ทิม เคเบิล เจ้าของงานวิจัยชิ้นนี้สรุปถึงวิธียิงเป้าที่รับประกันกับพ่อค้าแข้งว่าสามารถส่งลูกหนังเข้าสู่ก้นตาข่ายชนิด 100 เปอร์เซ็นต์ หากเสริมความแม่นยำและความแรงเข้าไปขณะสังหารออกมาดังนี้
1. ซัดบอลให้ตรงกรอบโดยให้เบียดเสาและคานราว 0.5 เมตร
2. ลูกที่พุ่งออกจากเท้าจะต้องมีความเร็วตั้งแต่ 65 กิโลเมตร / ชั่วโมง ขึ้นไป
3. ก้าวเข้าหาลูกประมาณ 5-6 ก้าว
4. ผู้ยิงจะต้องเริ่มย่างเท้าเข้าหาบอลจากเส้นเขตโทษ โดยยืนทำมุมกับลูกประมาณ 20-30 องศา

ด้านศจ.เคเบิล เปิดเผยเพิ่มเติมว่า “ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทำให้การค้นคว้าด้านการกีฬาพัฒนาตามไปด้วย เนื่องจากวิดีโอเทประบบ HD ให้รายละเอียดที่คมชัด สามารถสังเกตสิ่งต่างๆ ได้ง่ายกว่าเทคโนโลยีแบบเดิม และยังสามารถจับการเคลื่อนไหวของนักฟุตบอลในขณะยิงจุดโทษได้ละเอียดยิ่งขึ้นด้วย”

ขณะที่ แม็ทธิว เลอ ทิสซิเอร์ อดีตตำนานนักเตะ เซาธ์แฮมป์ตัน ซึ่งช่ำชองการซัดจุดโทษจากสถิติ 47 ประตูจากการรับหน้าที่สังหาร 48 ครั้ง กล่าวเสริมในฐานะผู้สันทัดกรณีของ สกาย สปอร์ตส ว่า “ตลอดอาชีพนักฟุตบอล ผม เพื่อนร่วมทีม และสตาฟฟ์โค้ช มักถกเถียงกันถึงการหาวิธียิงจุดโทษที่ได้ผลอยู่เสมอ ซึ่งผมแทบจะทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่หากมีโอกาสได้วิเคราะห์จากวิดีโอเทประบบ HD บางทีผมอาจจะยิงเข้าทั้ง 48 ครั้งเลยก็ได้”

หากเคล็ดลับดังกล่าวเกินกำลังสำหรับเหล่าศูนย์หน้าหรือมือปืนประจำทีม ศจ.เคเบิล ก็ยังมีแนวทางกดจุดโทษอย่างไรให้มีอัตราเป็นประตูเฉลี่ยสูงถึง 80 เปอร์เซ็นต์มาเสนอแนะเพิ่มเติม ดังต่อไปนี้
1. ยิงให้เข้ากรอบโดยเล็งให้ลูกห่างจากเสาและคานไม่เกิน 0.7 เมตร ใช้ได้ทั้งลูกโด่ง, ลูกเรียด หรือลูกพุ่งเหนือพื้นเล็กน้อย
2. เล็งมุมที่ต้องการให้แม่นยำโดยไม่จำเป็นต้องอาศัยความแรงเสมอไป แต่ลูกควรพุ่งด้วยความเร็วประมาณ 45-55 กิโลเมตร / ชั่วโมง
3. ย่างเข้าหาบอล 5 ก้าว โดยยืนทำมุมกับลูกบอลไม่เกิน 45 องศา
4. หลอกล่อผู้รักษาประตูด้วยการเคลื่อนไหวขณะเข้าหาบอล เช่น มองมุมหนึ่งแต่ยิงไปอีกมุมหนึ่ง และวางเท้าหลัก (เท้าอีกข้างที่ไม่ได้ยิง) ให้ลึกกว่าลูกบอลเล็กน้อย ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดที่สุด คือ คาร์ลอส เตเบซ ที่รับหน้าที่สังหารในเกม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบ วีแกน ซึ่งแทบมองไม่ออกเลยว่าจะยิงมุมไหนกระทั่งเท้าสัมผัสบอลแล้ว
5. เพื่อให้นายทวารจับทางไม่ถูก ควรหลอกหน้าเท้าในจังหวะสุดท้ายก่อนสัมผัสลูก

ไม่เพียงแต่แนะนำวิธีซัดให้ได้สกอร์เท่านั้น แต่ ศจ.เคเบิล ยังแจกแจงถึงการยิงที่มีโอกาสพลาดสูงด้วย คือ
-ตะบันด้วยความแรง หรือซัดนิ่มๆ โดยห่างจากเสาและคานเกินกว่า 0.8 เมตร รวมถึงการยิงเข้ากลางประตู ซึ่งวิธีนี้จะได้ผลก็ต่อเมื่อผู้รักษาประตูพุ่งผิดทางเท่านั้น
-การยิงกลางประตูจะได้ผลยาก หากขาดการฝึกซ้อมและความมั่นใจในทักษะของผู้รับหน้าที่สังหาร
-หลีกเลี่ยงการเดินลากเท้าหรือหยุดชะงักก่อนยิง เพราะลูกที่ยิงออกไปจะเบากว่าปกติ นอกจากนั้น คนที่ลังเลไม่ใช่แค่ผู้รักษาประตูคนเดียว แต่ยังรวมถึงตัวคนยิงเองด้วย

พร้อมกันนี้ เจ้าของงานวิจัยได้กล่าวสรุปทิ้งท้ายให้กับผู้สังหารลูกนิ่งระยะ 12 หลาทั้งหลายว่าให้นำทริคดังกล่าวไปใช้ควบคู่ไปกับการฝึกซ้อม ทั้งในเรื่องความแม่นยำ การหลอกล่อขณะเข้าหาบอล ความเร็วในจังหวะสัมผัสบอล สมาธิ การเลือกมุมยิงซึ่งต้องคิดล่วงหน้าก่อน มุมที่ถนัดหรือได้ผล (ส่วนมากจะเป็นมุมบนซ้ายหรือขวา) ตลอดจนฝึกซ้อมในทุกสภาพอากาศโดยเฉพาะเวลาฝนตกหรือสนามเฉอะแฉะ และการวางเท้าหลักให้มั่นคง

ทว่า ทั้งหมดที่กล่าวมานี้คงเป็นเพียงทฤษฎีเลื่อนลอย หากบรรดาเพชฌฆาตลืมปัจจัยพื้นฐานที่นักกีฬาอาชีพพึงมี นั่นคือความมุ่งมั่นขยันในการฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอ