ท่านผู้อ่านที่เคารพ ผมเป็นคนที่เคารพความเป็นมนุษย์ของคนอื่นมาก ยิ่งคนที่ต้องมีปฏิสัมพันธ์กัน ไม่ว่าจะโดยตรงหรืออ้อม เช่น ท่านที่เข้ามาอ่านคอลัมน์ของผมเป็นต้น ผมก็จะต้องทั้งเคารพทั้งขอบคุณ ทั้งๆ ที่ผมรู้ดีว่าบางท่านไม่ได้ตั้งใจจะเข้ามาอ่าน แต่เข้ามาตีรวนเพื่อชักใบให้เรือเสีย หรือเพื่อแบ่งหรือแย่งเอาผู้อ่านส่วนหนึ่งไปเป็นพวกกับความคิดที่มีข้อสรุปหรือสังกัดแล้วอย่างเรียบร้อย ผมก็ไม่ว่าอะไรหรอก และยังยินดีคุยด้วยเสมอ
แต่บางครั้งผมก็จำต้องป้องกันผู้ที่เข้ามาอ่านโดยสุจริตใจ โดยเรียนให้ทราบครั้งแล้วครั้งเล่าว่า แม้แต่ผมเองท่านก็อย่าด่วนเชื่อ ขอให้ตรวจสอบข้อมูลหลักฐานและเหตุผลต่างๆ ให้ถ่องแท้เสียก่อน ยิ่งท่านผู้ที่โพสต์เข้ามา ก็ยิ่งจะมีความหลากหลายและเหตุผลต่างๆ นานา
วันนี้ผมตั้งใจจะตอบจดหมายครึ่งแรกของพลโทฤกดิ์ดี แต่ก็คงจะต้องตอบทางอ้อมเสียก่อน แทนที่จะเป็นการตอบทางตรงแบบเขียนมาก็เขียนไป ทั้งนี้ก็เพราะข้อมูลท่วม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพฤติกรรมต่างๆ ของพรรคการเมืองไทย ไม่ว่าจะเป็นผลงานขององค์กรอิสระ เช่น ศาลรัฐธรรมนูญ หรือ กกต. ไม่ว่าจะเป็นรายงานของสื่อ ไม่ว่าจะเป็นความเห็นของนักวิชาการ ไม่ว่าจะเป็นความเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ หรือแม้กระทั่ง นปก. ถึงแม้เราจะจำกัดหัวข้อไว้ที่ “เงินกับการเมือง” ข้อมูลก็ยังท่วมอยู่ดี
ผมจึงอยากเริ่มพูดเรื่องที่ผมอยากพูดที่สุด แต่คนสนใจฟังน้อยที่สุด ความจริงผมพูดเรื่องนี้มาเป็นสิบๆ ปีแล้ว แต่ก็หาคนที่จะฟังที่จะคิดตามอย่างจริงจังแทบไม่ได้ ผมคิดว่าเรื่องนี้สำคัญที่สุด ถ้าไม่เข้าใจหรือแก้ไขเสียก่อน ป่วยการที่จะไปพูดถึงการเมืองใหม่หรือการปฏิรูปการเมือง ผู้ที่มีความเห็นเหมือนผม แต่รุนแรงและร้อนแรงกว่า คือ ศ.ดร.อมร จันทรสมบูรณ์ ที่สรุปว่า การเมืองไทยมีแต่วันจะเดินหน้าไปสู่หายนะ และล้มเหลวหนักยิ่งขึ้นเรื่อยๆ เพราะมีการออกแบบที่ผิด นั่นก็คือการที่มีรัฐธรรมนูญและกฎหมายบังคับให้ ส.ส.สังกัดพรรค ดร.อมร สรุปว่า
ในที่สุดไม่แต่ ส.ส.เท่านั้นที่จะตกเป็นทาสของนายทุน แต่ประเทศทั้งประเทศและประชาชนทั้งหมดจะตกเป็นทาสของนายทุนหมด ดร.อมร ได้เขียนเรื่องนี้แบบวิชาการที่มีความชัดแจ้ง เถียงไม่ออก ไม่ว่าในทางปฏิบัติหรือทฤษฎี เสียอย่างเดียวไม่มีใครเชื่อหรือฟังดร.อมรเลย แถมไม่มีใครจะวิเคราะห์วิจารณ์อะไรต่อเสียด้วย ไม่ว่านักวิชาการ สื่อ หรือนักการเมืองที่ต้องรับผิดชอบต่อบ้านเมืองและประชาชน
ผมเห็นว่าการบังคับให้ ส.ส.สังกัดพรรค นอกจากจะขัดหลักประชาธิปไตยแล้ว ยังเป็นต้นตอแห่งความชั่วร้ายเกือบทั้งหมดของระบบพรรคการเมืองไทย ที่มีการซื้อสิทธิขายเสียง ซื้อผู้แทน ซื้อพรรค ซื้อตำแหน่งแย่งตำแหน่ง ซื้องบประมาณแย่งงบประมาณ และใช้อำนาจรัฐทำการทุจริตฉ้อราษฎร์บังหลวงอย่างมโหฬาร
ศ.ดร.ชัยอนันต์ สมุทวณิช นายกราชบัณฑิตยสภา ผู้ไม่เคยมีความเห็นต่อต้านการสังกัดพรรคอย่างรุนแรงมาก่อน ถึงกับนอตหลุดประกาศกลางที่สัมมนาว่าให้ตัดสิทธิ ส.ส.ทั้งหมดของพรรคที่เชื่อได้ว่าซื้อเสียงมิให้สมัครผู้แทนตลอดชีวิต และให้เอาตัวหัวหน้าไปยิงเป้า
คุณยุวรัตน์ กมลเวชช กกต.ชุดแรกก็ชอบพูดเรื่องยิงเป้าบ่อยๆ และยืนยันกับผมว่าตราบใดที่ผู้แทนชุดเก่ายังเล่นการเมืองอยู่ ประเทศไทยไม่มีวันเป็นประชาธิปไตยได้ อย่างน้อยต้องตัดสิทธิพวกนี้สัก 10 ปี ปล่อยให้ตายหรือหมดแรงไปเสียก่อน
ผมเองไม่เห็นด้วยเรื่องบังคับพรรค ดังนั้นย่อมเป็นธรรมดาที่ผมจะไม่เห็นด้วยเรื่องยุบพรรค แต่ตราบใดที่ยังมีกฎหมายเรื่องนี้บังคับใช้อยู่ ใครที่จงใจละเมิดกฎหมายก็สมควรได้รับโทษตามที่กฎหมายบัญญัติ แปลว่า ผมเห็นด้วยที่จะต้องแก้รัฐธรรมนูญกฎหมายพรรคและกฎหมายเลือกตั้ง แต่จะแก้เมื่อใด แบบไหน และให้ผู้ใดเป็นคนแก้นั้นเป็นคนละเรื่อง แต่จะต้องมิใช่แก้ตามเวลาและเงื่อนไขที่ผู้ทำลายกฎหมายนั้นๆ ต้องการ เพื่อจะอภัยโทษหรือนิรโทษกรรมให้ตนหรือพวกพ้นผิด
จดหมายจากพลโทฤกดิ์ดี ครึ่งที่สอง
พี่ลองสังเกตกลุ่มพันธมิตรฯ ที่เขาร่วมบริจาคสนับสนุนให้เงินให้ทอง ดูคนเขาบริจาคทุกคนเขาภูมิใจกันทุกคน เราจึงน่าจะให้กลุ่มพันธมิตรฯ เป็นกลุ่มคนที่เล่นการเมืองเหมือนกันแต่เป็นการเมืองภาคประชาชนต่อไป คือคอยดูแลหาคนและสนับสนุนคนที่พร้อมมาเป็นนักการเมือง คอยดูแลให้กำลังใจนักการเมืองในพรรคต่างๆ ให้เล่นการเมืองให้มันอยู่ในร่องในรอย อย่าคิดไปตั้งพรรคการเมืองเสียเองในขณะนี้เพราะอาจจะเป็นที่สงสัยว่าที่ทำกลุ่มพันธมิตรฯ ขึ้นมาเพื่อจะกระสันเป็นนักการเมืองต่อไป เอาเป็นว่าคอยดูแลประเทศไทย ดูแลพรรคการเมืองต่างๆ ให้ทำงานการเมืองดูแลให้กำลังใจองค์กรอิสระให้เขาอุ่นใจว่า สิ่งที่เขาทำนั้นมีประชาชนเข้าใจและหนุนเขาอยู่เป็นเรือนแสนเรือนล้าน เขาจะได้ไม่โดดเดี่ยวอีกต่อไป
การเมืองภาคประชาชนที่ผมกล่าวถึงนี้มันจึงจะเป็นแนวทางใหม่ในการเล่นการเมืองภาคประชาชนโดยประชาชน และเพื่อประชาชน คอยดูแลกดดันข้าราชการประจำที่ทำไม่ถูกต้องแทนนักการเมือง ดูแลสภาฯ ดูแลความยุติธรรมภายในประเทศ และถ้าเป็นไปได้อาจจะถึงขั้นคัดเลือกคนไปเป็นองค์คณะลูกขุนในระบบศาลแบบในประเทศอเมริกาก็ได้
การเมืองใหม่ที่ประกอบด้วยประชาชนทุกจังหวัดทุกอาชีพจะเป็นองค์กรใหม่ที่เหนียวแน่นที่สุด จะจัดทำเป็นสภาประชาชนพบกันทุกวันเสาร์-อาทิตย์ก็น่าจะทำได้ โดยผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไปพบปะกันยังจังหวัดต่างๆ ไปให้ข่าวสารทางการเมือง ไปให้ความรู้ทางการเมืองแก่ประชาชน ไปให้กำลังใจประชาชนทุกจังหวัดทุกอาชีพทุกฐานะเพื่อยกระดับประชาชนให้มีฐานะเป็นคนชั้นกลางทางทฤษฎีประชาธิปไตยให้ได้ การเมืองมันจะได้ยั่งยืนและจะเป็นการเมืองใหม่ตามความหมายของมันเสียที การเมืองเก่านั้นมันไม่ใช่ไม่ดีนะพี่ มันดีกับระยะเวลาหนึ่ง พอถึงคราวมันมีสิ่งแวดล้อมไม่เหมาะสมมีเทคโนโลยีที่พัฒนาแบบก้าวกระโดดมันทำให้มีการเอารัดเอาเปรียบกันมากขึ้นและเร็วขึ้น เราจึงต้องนำการเมืองมาสังคายนากันเสียที
ด้วยความรักและเคารพ
ฤกดิ์ดี ชาติอุทิศ
แต่บางครั้งผมก็จำต้องป้องกันผู้ที่เข้ามาอ่านโดยสุจริตใจ โดยเรียนให้ทราบครั้งแล้วครั้งเล่าว่า แม้แต่ผมเองท่านก็อย่าด่วนเชื่อ ขอให้ตรวจสอบข้อมูลหลักฐานและเหตุผลต่างๆ ให้ถ่องแท้เสียก่อน ยิ่งท่านผู้ที่โพสต์เข้ามา ก็ยิ่งจะมีความหลากหลายและเหตุผลต่างๆ นานา
วันนี้ผมตั้งใจจะตอบจดหมายครึ่งแรกของพลโทฤกดิ์ดี แต่ก็คงจะต้องตอบทางอ้อมเสียก่อน แทนที่จะเป็นการตอบทางตรงแบบเขียนมาก็เขียนไป ทั้งนี้ก็เพราะข้อมูลท่วม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพฤติกรรมต่างๆ ของพรรคการเมืองไทย ไม่ว่าจะเป็นผลงานขององค์กรอิสระ เช่น ศาลรัฐธรรมนูญ หรือ กกต. ไม่ว่าจะเป็นรายงานของสื่อ ไม่ว่าจะเป็นความเห็นของนักวิชาการ ไม่ว่าจะเป็นความเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ หรือแม้กระทั่ง นปก. ถึงแม้เราจะจำกัดหัวข้อไว้ที่ “เงินกับการเมือง” ข้อมูลก็ยังท่วมอยู่ดี
ผมจึงอยากเริ่มพูดเรื่องที่ผมอยากพูดที่สุด แต่คนสนใจฟังน้อยที่สุด ความจริงผมพูดเรื่องนี้มาเป็นสิบๆ ปีแล้ว แต่ก็หาคนที่จะฟังที่จะคิดตามอย่างจริงจังแทบไม่ได้ ผมคิดว่าเรื่องนี้สำคัญที่สุด ถ้าไม่เข้าใจหรือแก้ไขเสียก่อน ป่วยการที่จะไปพูดถึงการเมืองใหม่หรือการปฏิรูปการเมือง ผู้ที่มีความเห็นเหมือนผม แต่รุนแรงและร้อนแรงกว่า คือ ศ.ดร.อมร จันทรสมบูรณ์ ที่สรุปว่า การเมืองไทยมีแต่วันจะเดินหน้าไปสู่หายนะ และล้มเหลวหนักยิ่งขึ้นเรื่อยๆ เพราะมีการออกแบบที่ผิด นั่นก็คือการที่มีรัฐธรรมนูญและกฎหมายบังคับให้ ส.ส.สังกัดพรรค ดร.อมร สรุปว่า
ในที่สุดไม่แต่ ส.ส.เท่านั้นที่จะตกเป็นทาสของนายทุน แต่ประเทศทั้งประเทศและประชาชนทั้งหมดจะตกเป็นทาสของนายทุนหมด ดร.อมร ได้เขียนเรื่องนี้แบบวิชาการที่มีความชัดแจ้ง เถียงไม่ออก ไม่ว่าในทางปฏิบัติหรือทฤษฎี เสียอย่างเดียวไม่มีใครเชื่อหรือฟังดร.อมรเลย แถมไม่มีใครจะวิเคราะห์วิจารณ์อะไรต่อเสียด้วย ไม่ว่านักวิชาการ สื่อ หรือนักการเมืองที่ต้องรับผิดชอบต่อบ้านเมืองและประชาชน
ผมเห็นว่าการบังคับให้ ส.ส.สังกัดพรรค นอกจากจะขัดหลักประชาธิปไตยแล้ว ยังเป็นต้นตอแห่งความชั่วร้ายเกือบทั้งหมดของระบบพรรคการเมืองไทย ที่มีการซื้อสิทธิขายเสียง ซื้อผู้แทน ซื้อพรรค ซื้อตำแหน่งแย่งตำแหน่ง ซื้องบประมาณแย่งงบประมาณ และใช้อำนาจรัฐทำการทุจริตฉ้อราษฎร์บังหลวงอย่างมโหฬาร
ศ.ดร.ชัยอนันต์ สมุทวณิช นายกราชบัณฑิตยสภา ผู้ไม่เคยมีความเห็นต่อต้านการสังกัดพรรคอย่างรุนแรงมาก่อน ถึงกับนอตหลุดประกาศกลางที่สัมมนาว่าให้ตัดสิทธิ ส.ส.ทั้งหมดของพรรคที่เชื่อได้ว่าซื้อเสียงมิให้สมัครผู้แทนตลอดชีวิต และให้เอาตัวหัวหน้าไปยิงเป้า
คุณยุวรัตน์ กมลเวชช กกต.ชุดแรกก็ชอบพูดเรื่องยิงเป้าบ่อยๆ และยืนยันกับผมว่าตราบใดที่ผู้แทนชุดเก่ายังเล่นการเมืองอยู่ ประเทศไทยไม่มีวันเป็นประชาธิปไตยได้ อย่างน้อยต้องตัดสิทธิพวกนี้สัก 10 ปี ปล่อยให้ตายหรือหมดแรงไปเสียก่อน
ผมเองไม่เห็นด้วยเรื่องบังคับพรรค ดังนั้นย่อมเป็นธรรมดาที่ผมจะไม่เห็นด้วยเรื่องยุบพรรค แต่ตราบใดที่ยังมีกฎหมายเรื่องนี้บังคับใช้อยู่ ใครที่จงใจละเมิดกฎหมายก็สมควรได้รับโทษตามที่กฎหมายบัญญัติ แปลว่า ผมเห็นด้วยที่จะต้องแก้รัฐธรรมนูญกฎหมายพรรคและกฎหมายเลือกตั้ง แต่จะแก้เมื่อใด แบบไหน และให้ผู้ใดเป็นคนแก้นั้นเป็นคนละเรื่อง แต่จะต้องมิใช่แก้ตามเวลาและเงื่อนไขที่ผู้ทำลายกฎหมายนั้นๆ ต้องการ เพื่อจะอภัยโทษหรือนิรโทษกรรมให้ตนหรือพวกพ้นผิด
จดหมายจากพลโทฤกดิ์ดี ครึ่งที่สอง
พี่ลองสังเกตกลุ่มพันธมิตรฯ ที่เขาร่วมบริจาคสนับสนุนให้เงินให้ทอง ดูคนเขาบริจาคทุกคนเขาภูมิใจกันทุกคน เราจึงน่าจะให้กลุ่มพันธมิตรฯ เป็นกลุ่มคนที่เล่นการเมืองเหมือนกันแต่เป็นการเมืองภาคประชาชนต่อไป คือคอยดูแลหาคนและสนับสนุนคนที่พร้อมมาเป็นนักการเมือง คอยดูแลให้กำลังใจนักการเมืองในพรรคต่างๆ ให้เล่นการเมืองให้มันอยู่ในร่องในรอย อย่าคิดไปตั้งพรรคการเมืองเสียเองในขณะนี้เพราะอาจจะเป็นที่สงสัยว่าที่ทำกลุ่มพันธมิตรฯ ขึ้นมาเพื่อจะกระสันเป็นนักการเมืองต่อไป เอาเป็นว่าคอยดูแลประเทศไทย ดูแลพรรคการเมืองต่างๆ ให้ทำงานการเมืองดูแลให้กำลังใจองค์กรอิสระให้เขาอุ่นใจว่า สิ่งที่เขาทำนั้นมีประชาชนเข้าใจและหนุนเขาอยู่เป็นเรือนแสนเรือนล้าน เขาจะได้ไม่โดดเดี่ยวอีกต่อไป
การเมืองภาคประชาชนที่ผมกล่าวถึงนี้มันจึงจะเป็นแนวทางใหม่ในการเล่นการเมืองภาคประชาชนโดยประชาชน และเพื่อประชาชน คอยดูแลกดดันข้าราชการประจำที่ทำไม่ถูกต้องแทนนักการเมือง ดูแลสภาฯ ดูแลความยุติธรรมภายในประเทศ และถ้าเป็นไปได้อาจจะถึงขั้นคัดเลือกคนไปเป็นองค์คณะลูกขุนในระบบศาลแบบในประเทศอเมริกาก็ได้
การเมืองใหม่ที่ประกอบด้วยประชาชนทุกจังหวัดทุกอาชีพจะเป็นองค์กรใหม่ที่เหนียวแน่นที่สุด จะจัดทำเป็นสภาประชาชนพบกันทุกวันเสาร์-อาทิตย์ก็น่าจะทำได้ โดยผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไปพบปะกันยังจังหวัดต่างๆ ไปให้ข่าวสารทางการเมือง ไปให้ความรู้ทางการเมืองแก่ประชาชน ไปให้กำลังใจประชาชนทุกจังหวัดทุกอาชีพทุกฐานะเพื่อยกระดับประชาชนให้มีฐานะเป็นคนชั้นกลางทางทฤษฎีประชาธิปไตยให้ได้ การเมืองมันจะได้ยั่งยืนและจะเป็นการเมืองใหม่ตามความหมายของมันเสียที การเมืองเก่านั้นมันไม่ใช่ไม่ดีนะพี่ มันดีกับระยะเวลาหนึ่ง พอถึงคราวมันมีสิ่งแวดล้อมไม่เหมาะสมมีเทคโนโลยีที่พัฒนาแบบก้าวกระโดดมันทำให้มีการเอารัดเอาเปรียบกันมากขึ้นและเร็วขึ้น เราจึงต้องนำการเมืองมาสังคายนากันเสียที
ด้วยความรักและเคารพ
ฤกดิ์ดี ชาติอุทิศ