ภาวะแห่งสงครามลูกหนังในปัจจุบันคงไม่มีใครปฏิเสธว่า “เฟอร์นันโด ตอร์เรส” ดาวยิงทีมชาติสเปนของ ลิเวอร์พูล เป็นผู้เล่นตำแหน่งศูนย์หน้าที่ยอดเยี่ยมที่สุดคนหนึ่งแห่งยุคสมัย โดยเฉพาะผลงานเมื่อฤดูกาลก่อนที่ดาวยิงวัย 24 ปีระเบิดฟอร์มถล่มประตูให้แก่ "หงส์แดง" เป็นกอบเป็นกำถึง 33 ลูก นอกจากนี้ยังคีย์แมนที่มีส่วนช่วยให้ "กระทิงดุ" สเปนคว้าถ้วยฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป (ยูโร) 2008 มาครองได้สำเร็จ
แน่นอนว่าความสำเร็จของตอร์เรส นั้นมิใช่เป็นเรื่องบังเอิญหรือโชคช่วย แต่ได้มาด้วยความพยายามและความบากบั่นต่อการฝึกซ้อม ล่าสุด ศูนย์หน้าแห่งถิ่นเมอร์ซีย์ไซด์ได้ให้สัมภาษณ์ชนิดขอดเกล็ดถึงเคล็ดลับและเทคนิคการเล่นจนกลายมาเป็นสุดยอดกองหน้าอย่างเช่นทุกวันนี้ ซึ่งเป็นมุมมองที่น่าสนใจและมิใช่เพียงสาวกหงส์แดงต้องอ่านเท่านั้น แต่แฟนบอลทีมอื่นก็สามารถเข้ามารับทราบถึงความคิดของนักฟุตบอลที่มีฝีเท้าสุดยอดรายหนึ่งของโลก ที่ว่ากันว่าสิบปีจะถือกำเนิดสักหนึ่งราย
Q:โรนัลดินโญ ให้สัมภาษณ์ว่า "เขาเกิดมาพร้อมด้วยพรสวรรค์ รวมถึงทุกคนเช่นกันไม่ว่าจะเป็นด้านใดก็ตาม แต่ถ้าคุณไม่ทำหรือต่อสู้เพื่อมัน มันก็หมดคุณค่าไป เขายังกล่าวอีกว่าความสัมพันธ์ของเขาที่มีต่อลูกบอลหรือกีฬาฟุตบอลเป็นผลมาจากความพยายามและการฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่อง" คุณเห็นพ้องกับเขาหรือไม่
ตอร์เรส : ผมเห็นด้วยกับความคิดดังกล่าว ผมคิดว่าทุกคนเกิดมาพร้อมด้วยพรสวรรค์หรือบางอย่างที่โดดเด่นกว่าด้านอื่น คุณต้องหามันให้พบซึ่งบางครั้งเป็นเรื่องที่ยากลำบากที่สุด เพราะคุณอาจไม่ชอบสิ่งนั้น แต่อย่าง โรนัลดินโญ ซึ่งใฝ่ฝันถึงการเล่นฟุตบอลรวมถึงการเป็นนักเตะที่ดีที่สุด และเกิดมาพร้อมด้วยพรสวรรค์แห่งการเล่นฟุตบอล มันช่างเหมาะเจาะดีแท้(หัวเราะ) ผมไม่คิดว่าเขาทำอะไรอย่างอื่นได้ดีกว่าการเล่นฟุตบอล ผลจากการฝึกซ้อมได้ลบจุดอ่อนบางด้านที่เขาอาจมีออกไปและยิ่งช่วยพัฒนาความสามารถ ผมคิดว่าเขาเป็นนักฟุตบอลแห่งยุคสมัย และในอนาคตจะกลายเป็นผู้เล่นที่ได้รับการระลึกถึงอยู่เสมอ นี่คือตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าถ้าคุณตั้งใจทำสิ่งใดด้วยความพยายามและการทำงานที่หนัก ผมเชื่อมั่นว่าคุณจะประสบผลสำเร็จ
Q: คุณคิดว่าการฝึกซ้อมมีความสำคัญต่อการทำผลงานที่ดีในการแข่งอย่างไร มันส่งผลต่อตัวคุณด้วยหรือไม่
ตอร์เรส : ผมเคยมีโค้ชฝึกสอนคนหนึ่งซึ่งมักจะพูดว่า "บอกมาว่าเธอฝึกซ้อมอย่างไรแล้วฉันจะบอกเธอให้เล่นแบบใด" ผมคิดว่าถ้าคุณฝึกซ้อมด้วยพลังใจและกายแบบเต็มร้อยให้เหมือนกับเป็นการแข่งขันนัดหนึ่ง คุณจะเล่นได้แบบนั้นยามลงสนามจริง ถ้าคุณฝึกซ้อมเพียงเพื่อเป็นการฝึกซ้อมหรือคุณต้องไปเพราะความจำเป็น คุณไม่มีทางทำผลงานได้ดีในสนามเช่นกันและมันจะปรากฏให้เห็นยามคุณลงแข่ง ผมคิดว่านักฟุตบอลทุกคนต้องสนุกกับสิ่งที่เขาทำ ในกรณีของผม การฝึกซ้อมแต่ละวันแตกต่างกันออกไป ผมทำในสิ่งที่ผมรัก ผมซ้อมให้เหมือนว่ามันเป็นโอกาสสุดท้ายที่ผมสามารถเล่นฟุตบอลได้ คุณไม่มีทางรู้หรอก จงสนุกกับมันเหมือนอย่างกับวันแรกสุดที่ได้สัมผัส ถ้าคุณสนุกกับการซ้อมและเข้าสู่การแข่งขันด้วยความรู้สึกแบบเดียวกัน คุณจะไม่รู้สึกเลยว่ามันคือการทำงาน
Q: ก่อนหน้านี้พวกเราสอบถาม มาสเชราโน ถึงสิ่งที่ทำให้เขาพอใจในการเล่นกับ ตอร์เรส เขาตอบกลับว่า เฟอร์นันโด เป็นผู้เล่นที่รวดเร็วมากและมีทักษะสูง แล้วตัวคุณเองบอกพวกเราได้หรือไม่ถึงสิ่งที่ทำให้คุณพอใจในการเล่นกับ ฮาเวียร์ มาสเชราโน และ อะไรคือสิ่งที่คุณชอบที่สุดเกี่ยวกับ ฮาเวียร์
ตอร์เรส : ผมคิดว่ามีผู้เล่นหลายคนที่คุณอยากให้อยู่ในทีมเดียวกับคุณและมาสเชราโน ก็เป็นหนึ่งในจำนวนนั้น ผมคิดว่าปัจจุบันนี้มีผู้เล่นไม่มากเลยที่มีความสามารถเฉพาะตัวเช่นนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตำแหน่งมิดฟิลด์ ซึ่งต้องคอยดูแลความสมดุลของทีม ทุกวันนี้ผมมีความสุขที่ได้ร่วมทีมกับเขา และหวังว่าเราจะทำงานด้วยกันในสนามไปอีกนานเท่านาน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ มาสเชราโน่ มีคุณลักษณะพิเศษบางอย่างที่หลายทีมขาดหายไป เขาเป็นเพื่อนร่วมทีมที่คุณสามารถไว้วางใจได้ทั้งช่วงเวลาที่ดีและร้าย
Q: รู้สึกอย่างไรเมื่อทำประตูได้? สามารถบอกได้หรือไม่ว่าสิ่งใดแล่นผ่านเข้ามาในความคิดคุณในช่วงเวลาดังกล่าว
ตอร์เรส : ทุกครั้งที่ทำประตูได้ศูนย์หน้าทุกคนจะรู้สึกเหมือนว่าคุณประสบความสำเร็จ คุณทำหน้าที่ครบสมบูรณ์เท่าที่ศูนย์หน้าคนหนึ่งจะทำได้ นั้นคือการทำประตู เหนือสิ่งอื่นใดหากคุณสามารถทำประตูได้และทีมของคุณคว้าชัยชนะได้ ก็จะหมายถึงการเดินทางกลับบ้านอย่างมีความสุขที่สุด
Q: อยากจะฝากอะไรถึงแฟนบอลหรือนักฟุตบอลเยาวชนที่ต้องการเดินตามรอยเท้าของคุณ
ตอร์เรส : ผมคิดว่าการมีใครสักคนเป็นแบบอย่างเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับเด็กเยาวชน พวกเราทุกคนล้วนมีแบบอย่างซึ่งถือเป็นเกณฑ์มาตรฐานในชีวิต บางคนเมื่อมองขึ้นไปหาจุดหมายอาจรู้สึกว่าไกลเกินเอื้อม แต่ถ้าคุณยังต้องการต่อสู้ต่อเพื่อคว้ามันมา มันก็ต้องมีวันแห่งความสำเร็จเข้าสักวัน
ผมรู้สึกภูมิใจที่มีเด็กหลายคนเขียนมาถึงหรือร่วมแลกเปลี่ยนผ่านทางเว็บไซต์โดยบอกว่าผมเป็นต้นแบบของพวกเขา และอยากเป็นนักฟุตบอลเหมือนกัน ซึ่งผมตอบจดหมายทุกฉบับด้วยตนเองและบอกกับเยาวชนเหล่านั้นว่า ถ้าพวกเขามีความใฝ่ฝันอย่างแน่วแน่ในการเล่นฟุตบอลและต้องการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ พวกเขาต้องต่อสู้และสนุกไปกับมัน แต่วันใดที่หมดความสนุก หมายความว่าสิ่งนี้ไม่ใช่ความใฝ่ฝันอีกต่อไปและจะต้องคิดถึงสิ่งอื่น ผมคิดว่านั้นคือหัวใจสำคัญ หากคุณสามารถทำสิ่งที่คุณรักได้ก็จงเดินหน้าต่อและทำสิ่งนั้นด้วยความอุตสาหะและเคารพต่อผู้อื่น
