เสร็จศึกบนผืนผ้าใบใน “ปักกิ่งเกมส์” สมจิตร จงจอหอ สามารถหอบหิ้วเหรียญทองกลับมาฝากแฟนมวยชาวไทย แต่ยังมีอีกหนึ่งกระแสที่ดังเป็นพลุแตกไม่แพ้กัน คือการที่ พลเอกทวีป จันทรโรจน์ ประกาศผ่านสื่ออย่างไม่กลัวหน้าอินทร์หน้าพรหมว่ามีกลุ่มคนที่ต้องการเลื่อยขาเก้าอี้นายกสมาคมมวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทย โดยใช้การทำหน้าที่ของผู้ตัดสินเป็นเครื่องมือ นั่นเป็นจุดเริ่มต้นการตีแผ่ความไม่ชอบมาพากลของวงการที่ได้ชื่อว่าเป็นกีฬาของชายชาตรี
หากยังจำกันได้ความพ่ายแพ้ของ อำนาจ รื่นเริง ที่มีต่อ เซอร์ดัมบา ปูเรฟดอร์จ คู่ชกจากมองโกเลีย 2-5 หมัด รอบ 8 คนสุดท้าย รุ่นฟลายเวต 48 กิโลกรัม ในกีฬาโอลิมปิกที่จีนเมื่อเดือนสิงหาคมปีก่อน ค้านสายตาคอหมัดมวยที่จับจ้องการถ่ายทอดสดผ่านหน้าจอโทรทัศน์ไม่น้อย ความน่าสงสัยดังกล่าวไม่รอดพ้นสายตา พลเอกทวีป จันทรโรจน์ ที่นั่งติดตามอยู่ขอบสนาม ก่อนที่นายใหญ่ขุนพลเสื้อกล้ามไทยออกมาตั้งข้อสังเกตว่าทำไมทางสหพันธ์มวยสากลสมัครเล่นนานาชาติ (ไอบา) ถึงเจาะจงให้กรรมการชุดเดิมมาตัดสินในคู่ที่ไทยชก ก่อนหน้านี้ก็เป็น อังคาร ชมพูพวง และ มนัส บุญจำนงค์
คำวิพากษ์วิจารณ์ผ่านสื่อไทยอย่างถึงพริกถึงขิงทำนองมี “ไอ้โม่ง 3 คน” พยายามโค่นอำนาจของตัวเองลงนั้น ทำให้ ชิง กัวะ วู ประธานไอบาชาวไต้หวันไม่พอใจเป็นอย่างยิ่งถึงกับส่งจดหมายเวียนไปยังชาติสมาชิก พร้อมมีการสั่งลงโทษพักงาน (Suspended) เสธ.วีป ซึ่งมีตำแหน่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริหาร ทำให้ พล.อ.ทวีป ต้องร้องไปยังศาลกีฬาโลกที่สวิตเซอร์แลนด์ จนได้สิทธิคุ้มครองชั่วคราวเพื่อตรวจสอบที่มาที่ไปก่อนมีคำสั่งอะไรกันต่อไป
ทีมข่าว MGR Sport มีโอกาสพูดคุยอย่างเปิดอกกับ พล.อ.ทวีป ครั้งไปร่วมพิธีเปิดการแข่งขันมวยสากลสมัครเล่นชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 31 ที่เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดย “เสธ.วีป” เผยถึงความคืบหน้าของคดี “ตอนนี้ทางศาลโลกยังไม่มีคำตัดสินใดๆ ออกมาและก็ยังไม่รู้ว่าจะตัดสินกันเมื่อไหร่ แต่สิ่งที่ผมร้องไปยังศาลนั้นไม่ได้หวังในเรื่องของการแพ้หรือชนะ ใจจริงผมต้องการเพียงแค่ให้มันเป็นกรณีตัวอย่าง เพราะไม่อยากเห็นใครมาโดนอย่างผมเท่านั้นเอง”
“เรื่องที่เกิดขึ้นผมเคยชี้แจงต่อไอบาไปแล้วเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่าช่วงปลายปีไอบาก็ตัดสินใจพักงานผมโดยใช้การพิจารณาตัดสินเพียงแค่ 5 คนเท่านั้น ช่วงการประชุมที่มิลานเดือนกุมภาพันธ์ก็ยังไม่ให้โอกาสผมได้ชี้แจงอีก ทั้งที่ตามขั้นตอนอันถูกต้องแล้ว เรื่องนี้ต้องมีการตั้งคณะกรรมการพิจารณาเรื่อง ก่อนส่งเรื่องให้กรรมการฝ่ายกฎหมายได้ตรวจสอบ แต่นี่กลายเป็นการข้ามขั้นตอนเข้าที่ประชุมกัน 5 คน แล้วมาปักป้ายพักงานใส่ผม มันจึงไม่มีความเป็นธรรมแม้แต่น้อย”
“การประกาศออกมาแบบนี้ทำให้ชาติสมาชิกค่อนข้างสับสนเหมือนกัน และอยากจะบอกว่า 2 ปีมานี้มีเรื่องฟ้องร้องภายในสหพันธ์มวยสากลสมัครเล่นนานาชาติ 17-18 คดีเห็นจะได้ มีเรื่องให้ร้องเรียนไปยังคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) อีกมากมาย”
“เมื่อมีเรื่องเกิดขึ้นก็มีการมองกันว่าผมมีปัญหากับทางไอบา ช่วงก่อนเลือกตั้งนายกสมาคมฯ สมัยที่ผ่านมา ก็มีคนไปแปลความหมายตีความว่าผมพูดอย่างโน้นพูดอย่างนี้เชิงให้ร้ายไอบา นี่เหมือนการดิสเครดิตกัน แต่ผมไม่ห่วงและก็ชนะเลือกตั้งอีกสมัย ผมอยู่วงการนี้มานาน 16-17 ปี รู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร ไม่อย่างนั้นอย่ามาเรียกผมว่า เสธ.วีป จะดีกว่า ผมสามารถทำให้นักชกของเรานำเหรียญรางวัลมาฝากแฟนๆ ได้ นั่นเป็นเรื่องสำคัญที่สุด”
“ส่วนการแข่งขันคิงส์คัพ เราจัดมายาวนาน 30 ปี ทางไอบาก็ไม่ได้รับรองการแข่งขันในปีนี้ (ครั้งที่ 31) โดยให้เหตุผลว่าผมมีคดีติดตัวอยู่ สิ่งที่พูดๆ ไปส่งผลกับพวกเขา แต่สำหรับผมกลับมองอีกด้านหนึ่งว่าการกระทำของผมเป็นการช่วยทางสหพันธ์ฯ เพื่อให้มีความโปร่งใสมากขึ้นด้วยซ้ำไป ต้องการให้มวยสากลสมัครเล่นมีการปรับปรุงมาตรฐานการตัดสินของกรรมการ, มีการลงโทษกรรมการที่ตัดสินแบบไม่ชอบมาพากล หรือว่านำเอาคะแนนดิบมาเปิดเผยให้เห็นกันไปเลย เหล่านี้ล้วนเป็นความโปร่งใสและยุติธรรมมิใช่หรือ”
“การที่ใครต่อใครมองว่าผมหักกับไอบา หรือใครหักหน้าใครนั้น ผมไม่สนและไม่คิดว่าจะส่งผลกระทบอะไรกับวงการมวยสากลสมัครเล่นของไทยด้วย ในเมื่อถ้ามวยชนะก็ต้องชนะอยู่วันยังค่ำหากฝีมือเราดีกว่า ส่วนถ้าผลออกมาค้านสายตาแน่นอนก็ต้องประท้วงกันต่อไป สำหรับมวยชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ จุดประสงค์หลักเลยคือการเทิดพระเกียรติในหลวงของเรา ทั้งยังเป็นการสร้างประสบการณ์ให้นักชกไทยรุ่นใหม่ๆ”
“นักชกรุ่นใหม่ๆ เหล่านี้ผมอยากให้ไปหาประสบการณ์ในซีเกมส์ เราไม่ได้มองแค่การแข่งขันที่ลาวช่วงปลายปีนี้เท่านั้น เป้าหมายของผมคือโอลิมปิกเกมส์ 2012 ช่วงเวลาสามปีนี้เราต้องปั้นเด็กรอเอาไว้เพื่อใช้งานทดแทนรุ่นพี่ๆ คิงส์คัพ ถือเป็นเวทีแรกของใครหลายคนแต่เด็กๆ เหล่านี้ถือเป็นอนาคตของเราต่อไป” พล.อ.ทวีป ทิ้งท้าย
ถึงวันนี้ความยุติธรรมยังไม่ปรากฏ ศาลโลกยังไม่มีการชูมือให้ “เสธ.วีป” หรือ “ไอบา” เป็นฝ่ายชนะหรือแพ้ แต่นั่นหาใช่เรื่องสำคัญ ทุกถ้อยคำที่ออกจากปาก พลเอกทวีป จันทรโรจน์ ทำให้ได้รับรู้ว่าความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย เป็นมนุษย์ปุถุชนต่างหากที่จะเลือกจากโลกนี้ไปด้วยการกล้าออกหน้าสู้กับความจริงหรือเก็บงำมันเอาไว้ตลอดไป