คอลัมน์ M-Green โดย Ryo Ishi Kapom
สัปดาห์ก่อนทีมงาน M-Green ได้รับเชิญไปทดสอบสนาม แบล็ก เมาท์เทน กอล์ฟ คลับ หัวหิน เนื่องในโอกาสที่สนามแห่งนี้กำลังจะได้เป็นเจ้าภาพจัดศึก "แบล็ก เมาท์เทน มาสเตอร์ส" รายการน้องใหม่ระดับเอเชี่ยนทัวร์ที่จะเริ่มแข่งกันในวันที่ 26 มีนาคม บนสนามใหม่ที่มีอายุไม่ถึงสองปีแถมยังเป็นคอร์สที่ตั้งอยู่ในหุบเขาอันมีชื่อเหมือนสนามว่า “ภูเขาสีดำ” (Black Mountain) เนื่องจากเป็นแนวเทือกเขาที่ประกอบด้วยหินสีดำขนาดใหญ่จำนวนมาก ในขณะที่ความท้าทายทั้ง 18 หลุมนั้นเป็นผลงานของ ฟิล ไรอัน จากบริษัท แปซิฟิก คอร์ส ดีไซน์ ประเทศออสเตรเลีย ที่มีประสบการณ์ออกแบบสนามกอล์ฟทั้งในเมืองไทยและภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกมาแล้วมากมาย
ความน่าสนใจของ แบล็กเมาท์เท่น นั้นนอกจากจะเป็นสนามที่ถูกเลือกใช้ในการแข่งขันระดับภูมิภาคอย่างเอเชี่ยนทัวร์แล้ว สนามน้องใหม่แต่เก๋าในการออกแบบแห่งนี้ยังท้าทายนักกอล์ฟด้วยเลย์เอาท์บีบหัวใจ คาดคคั้นความสำเร็จกับกรีนติดสปีด นับเป็นอุปสรรคที่ทำเอา วีคเอนด์ กอล์ฟเฟอร์อย่างผมเองออกอาการขาสั่นตั้งแต่ทีออฟหลุมแรกเลยทีเดียว
ด้วยความที่แบล็กเมาท์เท่น เป็นสนามในฮุบเขา อุปสรรคส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับสภาพทางภูมิศาสตร์ ดังเช่น หลุม 2 พาร์ 5 ระยะ 444 หลาจากหมุดขาวด้วยเลย์เอาท์ที่มีลักษณะ “ดอกเลค” ขวานิดๆ ทำให้ต้องเลือกระหว่างเปิดเกมบุกตั้งแต่หัววันด้วยการเสี่ยงยิงชอต 2 ขึ้นกรีนที่มีธารน้ำไหลผ่านหน้ากรีน หรือหากใจไม่กล้าพอจะเลือกตีวางในชอต 2 แล้วค่อย แอพโพรชด้วยล็อบเวดจ์ โอกาสเก็บเบอร์ดีด้วยการทำพัตต์เดียวก็ยังมีอยู่เช่นกัน
ความง่ายยากของแต่ละหลุมในสนามแห่งนี้ดุเหมือนจะสลับสับเปลี่ยนกันไปอย่างผมเองหลังเก็บสกอร์ด้วยโบกีหลุม 2 และออกดับเบิลโบกีที่หลุม 3 พอมองเห็นแฟร์เวย์อันกว้างขวางที่หลุม 4 แล้วก็พาลทำให้เกิดความหวังลึกๆ ว่าน่าจะเก็บพาร์ได้เป็นหลุมแรกแต่ใครจะคิดว่าระยะแค่ 336 หลาก็ทำพิษจนได้ เมื่อมาเกิดอาการขาสั่นที่ชอต 2 ต้องหยิบพิชชิงขึ้นมาแอพโพรชขึ้นกรีนที่โอบล้อมไปด้วยผืนน้ำที่แทบจะเรียกได้ว่าทุกด้าน ต้องแอบเรียกสมาธิแบบ “พี่วู้ดส์” ก่อนจะตีออกกรีนทำ 2 พัตต์เก็บพาร์ได้แบบไม่มีฟลุค
ผ่านไปแต่ละหลุมช่างยากเย็นแสนลำบาก แต่ในที่สุดก็ฝ่าด่านมาถึง Signature Hole ที่หลุม 11 ซึ่งเป็นพาร์ 3 ที่วัดทั้งจังหวะฝีมือและการควบคุมจิตใจในระยะกำลังสนุก 121 หลา หลุมนี้มีบ่อน้ำอยู่ครบทั้งด้านหน้า ขวา และหลัง ส่วนด้านซ้ายของกรีนเป็นน้ำตกและป่าที่เพิ่งปรับปรุงใหม่ โดยมีหญ้าแดงที่นำเข้ามาจากอินเดียปลูกเป็นกอไว้อยู่ด้านหลังช่วยเพิ่มทัศนียภาพที่สวยงาม เหลุมนี้มีเสียงแว่วมาในก๊วนให้ได้ยินว่า “เซฟแค่พาร์” ก็ยืดได้ไม่อายใคร
ในช่วงท้ายๆ มีหลายหลุมที่น่าเล่น โดยผมขอแนะนำหลุม 14 พาร์ 3 ระยะ 159 หลา ท่นทีอยู่คนละฝั่งกับกรีนที่มีบ่อน้ำขนาด ใหญ่คั่นกลาง เป็นความท้าทายด้านความแม่นยำตามแบบฉบับของหลุมพาร์ 3 หากเล่นจากหมุดโปร แล้วธงปักอยู่ด้านหลังซ้ายของกรีนต้องเรียกว่าบีบหัวใจ เนื่องจากมีบังเกอร์คอยดักซ้ายและขวา งานนี้ถ้าไม่ช๊อตเดียวออน ก็มีอันงานเข้าเป็นแน่ละครับพี่น้อง
จบ 18 หลุมใช้เวลากว่า 5 ชั่วโมง เกือบครึ่งหมดไปกับเกมบนกรีนติดเทอร์โบที่บรรดาโปรชอบ แต่นักกอล์ฟสมัครเล่นกลับเข็ดขยาดจนไม่กล้าพัตต์ ส่วนสภาพของพื้นที่ที่มีลักษณะเป็นเนินเขาทำให้น้อยครั้งนักที่จะได้ยืนตีแบบปกติ แต่สรุปสุดท้ายหลังดูสกอร์การ์ดของตนเองก็นับว่าเป็นผลงานที่น่าพอใจออกรอบทริปนี้ได้เก็บความรู้สึกฮึกเหิมกลับกรุงเทพฯแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ ก็ผ่านสนามระดับ เอเชียน ทัวร์ มาแล้ว คราวนี้สังเวียนไหนก็ไม่มีกลัว
การเดินทาง : ทางเข้าจากตัวเมืองหัวหิน เข้าซอยหัวหิน 56 (ซอยหัวหินทันสมัย) ข้ามทางรถไฟและคลองชลประทาน ตรงไปผ่านวัดอิติสุขโต วิ่งตามป้าย แบล็ก เมาท์เทน ประมาณ 13 กิโลเมตร ถึงสนามกอล์ฟ แบล็ก เมาท์เทน (เบอร์โทรศัพท์ 032-618666, www.bmghuahin.com)
ค่ากรีนฟี : 2,500 บาท
รถกอล์ฟ : 600 บาท
โปรโมชัน : ตลอดเดือนสิงหาคมเทศกาล Golf festival กรีนฟีลดเหลือ 1,000 บาท
คุณภาพที่ M-Green มอบให้
สภาพสนาม : 5 ดาว
เลย์เอาต์และความท้าทาย : 4 ดาว
แคดดี้ : 4 ดาว
คลับเฮาส์และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ : 5 ดาว
อาหารและเครื่องดื่ม : 4 ดาว
ราคากับความคุ้มค่า : 4 ดาว