อังเดร อาร์ชาวิน ดาวยิงทีมชาติรัสเซียโชว์ฟอร์มเด่นจนเป็นส่วนสำคัญช่วยให้ อาร์เซนอล เปิดบ้านถล่มเอาชนะ แบล็กเบิร์น 4-0 ขณะที่ เอฟเวอร์ตัน ไม่น้อยหน้าเอาชนะ สโต๊ค ซิตี 3-1 ในการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา
ผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
อาร์เซนอล 4-0 แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส
อาร์เซนอล จัดการส่ง อังเดร อาร์ชาวิน กองหน้าทีมชาติรัสเซียลงสนามอีกครั้งหลังจากติดคัพไทในเกมแชมเปียนส์ ลีก รวมถึง ธีโอ วัลคอตต์ กลับมาเป็นตัวจริงในเกมลีกนัดแรกหลังจากหายจากอาการบาดเจ็บ ขณะที่ แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส หมดสิทธิ์ใช้งาน โรเก ซานตา ครูส เนื่องจากอาการบาดเจ็บจึงส่ง เจสัน โรเบิร์ต ลงมาจับคู่ในแดนหน้าร่วมกับ เอล ฮัดจิ ดิยุฟ
เริ่มเกมครึ่งแรกเพียง 2 นาที อาร์เซนอล มาทำประตูออกนำก่อนอย่างรวดเร็ว เมื่อ เบนด์ทเนอร์ พลิกบอลหนีผู้เล่นทีมเยือนจากบริเวณกลางสนามอย่างสวยงาม ก่อนแทงบอลทะลุแผงกองหลังไปให้ วัลคอตต์ ใช้ความเร็วกระชากหนีเข้าไปจนถึงสุดเส้น ก่อนเปิดบอลเข้ากลางและเป็น อาร์ชาวิน วิ่งเบียดคู่แข่งตามมาชาร์ตบอลแฉลบตัว ออยเยอร์ เข้าประตูตัวเองไปให้เจ้าถิ่นออกนำ 1-0
"ปืนใหญ่" ยังคงทำเกมรุกอย่างต่อเนื่องมาถึงนาที 17 อาร์ชาวิน จ่ายบอลต่มาให้ วัลคอตต์ หลุดเข้าไปเกือบได้ยิงแต่กรรมการเป้าให้เป็นลูกล้ำหน้าเสียก่อน ด้าน แบล็กเบิร์น มีโอกาสลุ้นเช่นกันในนาทีที่ 27 เมื่อทีมทำเกมรุกขึ้นมาทางริมเส้นด้านขวาก่อนเปิดเข้ากลางมาให้ ดิยุฟ โหม่งจังหวะแรกถูก ฌูรู โหม่งเคลียร์ออกมา แต่บอลยังไปเข้าทาง พีเดอร์เซน โหม่งสวนอีกครั้งเข้ากรอบประตูให้ อัลมูเนีย ต้องออกแรงปัดทิ้งออกหลังไป
อีกสองนาทีต่อมา คลีชี เติมเกมขึ้นมาทางด้านขวาก่อนเปิดเข้ากลางและเป็น เบนด์ทเนอร์ ได้โหม่งทางเสาสอง แต่ยังไม่ดีพอบอลผ่านหน้าประตูออกหลัง มาถึงนาที 34 "ปืนโต" มีโอกาสทำประตูหนีห่างอย่างที่สุด เมื่อมาได้ฟรีคิกระยะประมาณ 25 หลาบริเวณมุมเขตโทษ นาสรี รับหน้าที่ปั่นด้วยขวา แต่บอลพุ่งไปชนคานอย่างจังพลาดทำประตูไป อีกสองนาทีต่อมาเพลย์เมกเกอร์ชาวฝรั่งเศสมาได้ยิงในกรอบเขตโทษอีกครั้ง แต่คราวนี้ถูก โรบินสัน ปัดทิ้งออกหลังไปทำให้สุดท้ายจบ 45 นาทีแรก อาร์เซนอล นำอยู่ 1-0
เริ่มเกมครึ่งหลัง เจ้าถิ่นเปิดเกมรุกเข้าใส่ก่อนและมีลุ้นทันทีเมื่อ วัลคอตต์ ได้หลุดมาทางกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนตัดสินใจยิง แต่บอลพุ่งเรียดหลุดเสาสองออกหลังไป นาทีต่อมา นาสรี จ่ายบอลจากกลางสนามให้ วัลคอตต์ หลุดขึ้นมาทางริมเส้นด้านขวาอีกครั้ง คราวนี้ตัดสินใจผ่านเข้ากลางมาให้ เบนด์ทเนอร์ ได้ยิงด้วยซ้าย แต่โดนไม่เต็มเท้าบอลพุ่งไปผิดทิศทาง ก่อนที่ โรบินสัน จะตามมาเก็บไว้ได้ทัน
"ปืนใหญ่" พับสนามบุกต่อ มาถึงนาที 50 นาสรี หลุดขึ้นมาทางด้านขวา ก่อนเปิดเข้ากลางมาให้ อเล็กซานเดอร์ ซง โหม่งเช็ดต่อให้ วัลคอตต์ ได้โดดยิงวอลเลย์แต่ โรบินสัน โชว์ซูเปอร์เซฟปัดบอลทิ้งออกไปอีกครั้ง มาถึงนาที 60 ตูเร ลากตะลุยขึ้นมาเล่นชิงกับ ซง หน้าเขตโทษ ก่อนที่จังหวะสุดท้ายจะเป็น เบนด์ทเนอร์ ได้ยิงแต่เบาเกินไปอีก อีกสองนาทีต่อมาดาวยิงชาวเดนมาร์กได้หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงในเขตโทษอีกครั้ง แต่ถูกนายทวารทีมเยือนออกมาปิดมุมป้องกันไว้ได้เหมือนเดิม
กระทั่งนาที 65 อาร์เซนอล มาทำประตูหนีห่างเป็นผลสำเร็จ เมื่อ อาร์ชาวิน ได้บอลทางริมเส้นด้านซ้าย ก่อนตัดสินใจเลี้ยงหลบผู้เล่นกองหลังหลุดไปยิงมุมแคบแสกหน้า โรบินส้น เข้าซุกตาข่ายให้สกอร์ขยับเป็น 2-0 จากนั้นในนาที 75 เจ้าถิ่นได้โต้กลับเร็ว ซง ลากบอลลุยขึ้นมาถึงหน้าเขตโทษคู่แข่งส่งต่อ อาร์ชาวิน แทงบอลเร็วไปให้ เบนด์ทเนอร์ หลุดไปยิงในเขตโทษอีกครั้ง แต่ซัดเหินข้ามคานออกไปเหมือนเดิม
ก่อนหมดเวลา 3 นาที อาร์เซนอล มาทำประตูหนีห่างจนได้เมื่อ เบลา เปิดบอลจากทางขวามาให้ อาร์ชาวิน ยิงก่อนจังหวะแรกไปติดกองหลัง แต่กระดอนมาทาง เอบูเอ ตามซ้ำเข้าประตูไปให้สกอร์ขยับเป็น 3-0 ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เจ้าถิ่นมาได้ลูกจุดโทษเมื่อ เบลา ถูกทำฟาวล์ล้มลงและ เอบูเอ คนเดิมรับหน้าที่สังหารเข้าไปให้ "ปืนโต" ชนะไป 4-0 พร้อมเก็บสามคะแนนสำคัญ
ขณะที่ผลการแข่งขันอีกคู่ เอฟเวอร์ตัน ทำผลงานดีเช่นกันเมื่อเปิดสนามกูดิสัน ปาร์ก เอาชนะ สโต๊ค ซิตี 3-1 โดยเจ้าถิ่นได้ประตูจาก โช (น.18),โจเลียน เลสคอตต์ (น.25), และ มารูยาน เฟลลายนี (น.90) ส่วนทีมเยือนมาได้ประตูปลอบใจจากการยิงของ ไรอัน ชอว์ครอสส์ (น.52)
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
อาร์เซนอล : มานูเอล อัลมูเนีย, โยฮัน ฌูรู, โคโล ตูเร, กาเอล คลีชี, บาการี ซานญา, เดนิลสัน, อเล็กซานเดอร์ ซง, ซามีร์ นาสรี, ธีโอ วัลคอตต์ ,นิคลาส เบนด์ทเนอร์ ,อังเดร อาร์ชาวิน
แบล็กเบิร์น : พอล โรบินสัน, คริสโตเฟอร์ แซมบา, อังเดร ออยเยอร์, กาเอล กลีชี, แดนนี ซิมป์สัน, สตีเฟน วอร์น็อค, แอรอน โมโกเอนา, ซูรับ คิซานิชวิลี, มอร์เทน กัมส์ต พีเดอร์เซน ,เอล ฮัดจิ ดิยุฟ, เจสัน โรเบิร์ต
ผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้ ลิเวอร์พูล 1-4
[1-0 : คริสเตียโน โรนัลโด ลูกจุดโทษ น.23], [1-1 : เฟอร์นานโด ตอร์เรส น.28], [1-2 : สตีเวน เจอร์ราร์ด ลูกจุดโทษ น.44], [1-3 : ฟาบิโอ ออเรลิโอ น.77], [1-4 : อันเดรีย ดอสเซนา น.90]
อาร์เซนอล ชนะ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 4-0
[1-0 : อังเดร อาร์ชาวิน น.2], [2-0 : อังเดร อาร์ชาวิน น.65], [3-0 : เอมมานูเอล เอบูเอ น.88], [4-0 : เอมมานูเอล เอบูเอ ลูกจุดโทษ น.90]
โบลตัน แพ้ ฟูแลม 1-3
[0-1 : แอนดรูว์ จอห์นสัน น.42], [1-1 : เควิน เดวีส์ น.45], [1-2 : ไซมอน เดวีส์ น.56], [1-3 : ดิมานซี กามารา น.88]
เอฟเวอร์ตัน ชนะ สโต๊ค 3-1
[1-0 : โช น.18], [2-0 : โจเลียน เลสคอตต์ น.25], [2-1 : ไรอัน ชอว์ครอสส์ น.52], [3-1 : มารูยาน เฟลลายนี น.90]
ฮัลล์ เสมอ นิวคาสเซิล 1-1
[1-0 : มาร์ซิโอ จิโอวานนี น.9], [1-1 : สตีเวน เทย์เลอร์ น.38]
มิดเดิลสโบรช์ เสมอ พอร์ตสมัธ 1-1
[0-1 : ปีเตอร์ เคราช์ น.30], [1-1 : มาร์ลอน คิง น.90]
ซันเดอร์แลนด์ แพ้ วีแกน 1-2
[0-1 : เบน วัตสัน น.12], [1-1 : แกรนต์ เลดบิทเทอร์ น.41], [1-2 : ชาร์ล เอ็นซอกเบีย น.45]
ผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
อาร์เซนอล 4-0 แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส
อาร์เซนอล จัดการส่ง อังเดร อาร์ชาวิน กองหน้าทีมชาติรัสเซียลงสนามอีกครั้งหลังจากติดคัพไทในเกมแชมเปียนส์ ลีก รวมถึง ธีโอ วัลคอตต์ กลับมาเป็นตัวจริงในเกมลีกนัดแรกหลังจากหายจากอาการบาดเจ็บ ขณะที่ แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส หมดสิทธิ์ใช้งาน โรเก ซานตา ครูส เนื่องจากอาการบาดเจ็บจึงส่ง เจสัน โรเบิร์ต ลงมาจับคู่ในแดนหน้าร่วมกับ เอล ฮัดจิ ดิยุฟ
เริ่มเกมครึ่งแรกเพียง 2 นาที อาร์เซนอล มาทำประตูออกนำก่อนอย่างรวดเร็ว เมื่อ เบนด์ทเนอร์ พลิกบอลหนีผู้เล่นทีมเยือนจากบริเวณกลางสนามอย่างสวยงาม ก่อนแทงบอลทะลุแผงกองหลังไปให้ วัลคอตต์ ใช้ความเร็วกระชากหนีเข้าไปจนถึงสุดเส้น ก่อนเปิดบอลเข้ากลางและเป็น อาร์ชาวิน วิ่งเบียดคู่แข่งตามมาชาร์ตบอลแฉลบตัว ออยเยอร์ เข้าประตูตัวเองไปให้เจ้าถิ่นออกนำ 1-0
"ปืนใหญ่" ยังคงทำเกมรุกอย่างต่อเนื่องมาถึงนาที 17 อาร์ชาวิน จ่ายบอลต่มาให้ วัลคอตต์ หลุดเข้าไปเกือบได้ยิงแต่กรรมการเป้าให้เป็นลูกล้ำหน้าเสียก่อน ด้าน แบล็กเบิร์น มีโอกาสลุ้นเช่นกันในนาทีที่ 27 เมื่อทีมทำเกมรุกขึ้นมาทางริมเส้นด้านขวาก่อนเปิดเข้ากลางมาให้ ดิยุฟ โหม่งจังหวะแรกถูก ฌูรู โหม่งเคลียร์ออกมา แต่บอลยังไปเข้าทาง พีเดอร์เซน โหม่งสวนอีกครั้งเข้ากรอบประตูให้ อัลมูเนีย ต้องออกแรงปัดทิ้งออกหลังไป
อีกสองนาทีต่อมา คลีชี เติมเกมขึ้นมาทางด้านขวาก่อนเปิดเข้ากลางและเป็น เบนด์ทเนอร์ ได้โหม่งทางเสาสอง แต่ยังไม่ดีพอบอลผ่านหน้าประตูออกหลัง มาถึงนาที 34 "ปืนโต" มีโอกาสทำประตูหนีห่างอย่างที่สุด เมื่อมาได้ฟรีคิกระยะประมาณ 25 หลาบริเวณมุมเขตโทษ นาสรี รับหน้าที่ปั่นด้วยขวา แต่บอลพุ่งไปชนคานอย่างจังพลาดทำประตูไป อีกสองนาทีต่อมาเพลย์เมกเกอร์ชาวฝรั่งเศสมาได้ยิงในกรอบเขตโทษอีกครั้ง แต่คราวนี้ถูก โรบินสัน ปัดทิ้งออกหลังไปทำให้สุดท้ายจบ 45 นาทีแรก อาร์เซนอล นำอยู่ 1-0
เริ่มเกมครึ่งหลัง เจ้าถิ่นเปิดเกมรุกเข้าใส่ก่อนและมีลุ้นทันทีเมื่อ วัลคอตต์ ได้หลุดมาทางกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนตัดสินใจยิง แต่บอลพุ่งเรียดหลุดเสาสองออกหลังไป นาทีต่อมา นาสรี จ่ายบอลจากกลางสนามให้ วัลคอตต์ หลุดขึ้นมาทางริมเส้นด้านขวาอีกครั้ง คราวนี้ตัดสินใจผ่านเข้ากลางมาให้ เบนด์ทเนอร์ ได้ยิงด้วยซ้าย แต่โดนไม่เต็มเท้าบอลพุ่งไปผิดทิศทาง ก่อนที่ โรบินสัน จะตามมาเก็บไว้ได้ทัน
"ปืนใหญ่" พับสนามบุกต่อ มาถึงนาที 50 นาสรี หลุดขึ้นมาทางด้านขวา ก่อนเปิดเข้ากลางมาให้ อเล็กซานเดอร์ ซง โหม่งเช็ดต่อให้ วัลคอตต์ ได้โดดยิงวอลเลย์แต่ โรบินสัน โชว์ซูเปอร์เซฟปัดบอลทิ้งออกไปอีกครั้ง มาถึงนาที 60 ตูเร ลากตะลุยขึ้นมาเล่นชิงกับ ซง หน้าเขตโทษ ก่อนที่จังหวะสุดท้ายจะเป็น เบนด์ทเนอร์ ได้ยิงแต่เบาเกินไปอีก อีกสองนาทีต่อมาดาวยิงชาวเดนมาร์กได้หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงในเขตโทษอีกครั้ง แต่ถูกนายทวารทีมเยือนออกมาปิดมุมป้องกันไว้ได้เหมือนเดิม
กระทั่งนาที 65 อาร์เซนอล มาทำประตูหนีห่างเป็นผลสำเร็จ เมื่อ อาร์ชาวิน ได้บอลทางริมเส้นด้านซ้าย ก่อนตัดสินใจเลี้ยงหลบผู้เล่นกองหลังหลุดไปยิงมุมแคบแสกหน้า โรบินส้น เข้าซุกตาข่ายให้สกอร์ขยับเป็น 2-0 จากนั้นในนาที 75 เจ้าถิ่นได้โต้กลับเร็ว ซง ลากบอลลุยขึ้นมาถึงหน้าเขตโทษคู่แข่งส่งต่อ อาร์ชาวิน แทงบอลเร็วไปให้ เบนด์ทเนอร์ หลุดไปยิงในเขตโทษอีกครั้ง แต่ซัดเหินข้ามคานออกไปเหมือนเดิม
ก่อนหมดเวลา 3 นาที อาร์เซนอล มาทำประตูหนีห่างจนได้เมื่อ เบลา เปิดบอลจากทางขวามาให้ อาร์ชาวิน ยิงก่อนจังหวะแรกไปติดกองหลัง แต่กระดอนมาทาง เอบูเอ ตามซ้ำเข้าประตูไปให้สกอร์ขยับเป็น 3-0 ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เจ้าถิ่นมาได้ลูกจุดโทษเมื่อ เบลา ถูกทำฟาวล์ล้มลงและ เอบูเอ คนเดิมรับหน้าที่สังหารเข้าไปให้ "ปืนโต" ชนะไป 4-0 พร้อมเก็บสามคะแนนสำคัญ
ขณะที่ผลการแข่งขันอีกคู่ เอฟเวอร์ตัน ทำผลงานดีเช่นกันเมื่อเปิดสนามกูดิสัน ปาร์ก เอาชนะ สโต๊ค ซิตี 3-1 โดยเจ้าถิ่นได้ประตูจาก โช (น.18),โจเลียน เลสคอตต์ (น.25), และ มารูยาน เฟลลายนี (น.90) ส่วนทีมเยือนมาได้ประตูปลอบใจจากการยิงของ ไรอัน ชอว์ครอสส์ (น.52)
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
อาร์เซนอล : มานูเอล อัลมูเนีย, โยฮัน ฌูรู, โคโล ตูเร, กาเอล คลีชี, บาการี ซานญา, เดนิลสัน, อเล็กซานเดอร์ ซง, ซามีร์ นาสรี, ธีโอ วัลคอตต์ ,นิคลาส เบนด์ทเนอร์ ,อังเดร อาร์ชาวิน
แบล็กเบิร์น : พอล โรบินสัน, คริสโตเฟอร์ แซมบา, อังเดร ออยเยอร์, กาเอล กลีชี, แดนนี ซิมป์สัน, สตีเฟน วอร์น็อค, แอรอน โมโกเอนา, ซูรับ คิซานิชวิลี, มอร์เทน กัมส์ต พีเดอร์เซน ,เอล ฮัดจิ ดิยุฟ, เจสัน โรเบิร์ต
ผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้ ลิเวอร์พูล 1-4
[1-0 : คริสเตียโน โรนัลโด ลูกจุดโทษ น.23], [1-1 : เฟอร์นานโด ตอร์เรส น.28], [1-2 : สตีเวน เจอร์ราร์ด ลูกจุดโทษ น.44], [1-3 : ฟาบิโอ ออเรลิโอ น.77], [1-4 : อันเดรีย ดอสเซนา น.90]
อาร์เซนอล ชนะ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 4-0
[1-0 : อังเดร อาร์ชาวิน น.2], [2-0 : อังเดร อาร์ชาวิน น.65], [3-0 : เอมมานูเอล เอบูเอ น.88], [4-0 : เอมมานูเอล เอบูเอ ลูกจุดโทษ น.90]
โบลตัน แพ้ ฟูแลม 1-3
[0-1 : แอนดรูว์ จอห์นสัน น.42], [1-1 : เควิน เดวีส์ น.45], [1-2 : ไซมอน เดวีส์ น.56], [1-3 : ดิมานซี กามารา น.88]
เอฟเวอร์ตัน ชนะ สโต๊ค 3-1
[1-0 : โช น.18], [2-0 : โจเลียน เลสคอตต์ น.25], [2-1 : ไรอัน ชอว์ครอสส์ น.52], [3-1 : มารูยาน เฟลลายนี น.90]
ฮัลล์ เสมอ นิวคาสเซิล 1-1
[1-0 : มาร์ซิโอ จิโอวานนี น.9], [1-1 : สตีเวน เทย์เลอร์ น.38]
มิดเดิลสโบรช์ เสมอ พอร์ตสมัธ 1-1
[0-1 : ปีเตอร์ เคราช์ น.30], [1-1 : มาร์ลอน คิง น.90]
ซันเดอร์แลนด์ แพ้ วีแกน 1-2
[0-1 : เบน วัตสัน น.12], [1-1 : แกรนต์ เลดบิทเทอร์ น.41], [1-2 : ชาร์ล เอ็นซอกเบีย น.45]
