แอนนา คูร์นิโควา อดีตนักเทนนิสสาวสวยชาวรัสเซียเปิดเผยผ่านบล็อกส่วนตัวว่ารู้สึกสงสารประชาชนชาวเฮติเป็นอย่างยิ่งหลังได้มีโอกาสไปเยือนเมื่อเดือนที่แล้วและได้พบเห็นสภาพบ้านเมืองที่มีแต่ความสกปรก โรคระบาดร้ายแรงหลายชนิดอีกทั้งยังมีการค้าทาสอย่างเเพร่หลาย
เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา คูร์นิโควา อดีตนักหวดสาวสวยวัย 27 ปีได้เดินทางไปยัง เฮติ ประเทศเล็กๆ แถบทะเลแคริบเบียน อเมริกากลาง เพื่อช่วยเหลือ องค์กรบริการประชากรสากล หรือ พีเอสไอ(PSI) รณรงค์ต่อต้านการแพร่ขยายของโรคเอดส์(AIDS) มาลาเรีย และ การเสียชีวิตของทารก
หลังกลับมาถึงบ้านที่เมืองไมอามี รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา คูร์นิโควา ได้เขียนบล็อกส่วนตัวพรรณาถึงชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนชาวเฮติว่าน่ารันทดแตกต่างจากผู้คนในประเทศพัฒนาแล้วอย่างสิ้นเชิง
"ความเป็นอยู่ของคนในเฮติน่าสงสารมากๆ ประชากรประมาณ 70 เปอร์เซนต์ของประเทศได้เงินวันละไม่ถึง 2 ดอลลาร์สหรัฐฯ(ราว 72 บาท) อย่าว่าแต่ความสุขความบันเทิงเลย แค่อาหารและสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานพวกเขายังหาซื้อไม่ได้" น้องแอนนา เผยแบบสุดเศร้าหมอง " โรคท้องร่วงเป็นปัญหาใหญ่ที่ทำให้เด็กทารกในเฮติเสียชีวิต ส่วนหนึ่งเป็นเพราะพวกเขาขาดแคลนน้ำสะอาด ขณะที่ตามท้องถนนเต็มไปด้วยขยะกองโต ซึ่งเมื่อไม่รู้จะกำจัดมันด้วยวิธีไหน ชาวเฮติเลือกใช้วิธีเผาทิ้ง ซึ่งมันก็ยิ่งทำให้สภาพอากาศย่ำเเย่ขึ้นเข้าไปใหญ่"
หลังสาธยายถึงสภาพบ้านเมืองเรียบร้อยแล้ว นางฟ้าในคราบนักเทนนิสหันมาชูปัญหาสังคมเฮตินั่นคือการขายลูกสาวไปเป็นทาสรับใช้โดยบางครั้งถูกนายจ้างล่วงละเมิดทางเพศ
"เด็กน้อยคนหนึ่งเล่าให้ฟังว่า พ่อและเเม่นำเธอไปขายเป็นทาสให้กับอีกครอบครัวหนึ่ง เธอต้องตื่นเช้ามาตักน้ำที่บ่อทุกวัน ต้องพาลูกของพวกเขาไปโรงเรียนจากนั้นก็กลับมากวาดบ้านถูบ้านและซักเสื้อผ้าทั้งหมด หากนายผู้ชายต้องการปลดปล่อยอารมณ์ทางเพศ เธอก็ไม่สามารถปฏิเสธได้เพราะอิสรภาพทั้งหมดได้สูญเสียไปแล้วพร้อมกับเงินจำนวนน้อยนิดที่พ่อแม่แท้ๆ ของเธอรับไป"
ณ วันนี้ เฮติ มีประชากรประมาณ 8 ล้านคนโดย 300,000 คนตกเป็นทาสในจำนวนนี้ 75 เปอร์เซนต์เป็นผู้หญิง ซึ่งครึ่งหนึ่งถูกทารุณกรรมทางเพศ