คอลัมน์ Final Quarter โดย ลุงแซม
สัปดาห์ก่อนติดค้างกันไว้เล็กน้อยสำหรับประเด็นตลาดเทรดตัวผู้เล่นในศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) มาวันนี้ขอตบให้ครบกระบวนความเพื่อจะได้พูดคุยถึงเรื่องราวในลีกอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) ที่กำลังน่าจับตามองมากขึ้นทุกขณะก่อนฤดูกาลใหม่ (2009/10) เปิดตัวขึ้นในเดือนกันยายนนี้
เส้นตายเทรดตัว NBA ปิดฉากแบบไม่หวือหวาเท่าที่ควร วินซ์ คาร์เตอร์, เทรซีย์ แม็คเกรดี, ชาคิว โอนีล, อมาเร สเตาดาไมร์ เป็น “ทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์” อยู่พักใหญ่แต่ไม่ใครย้ายบ้านใหม่กันเลย โดยเฉพาะสองรายหลัง สตีฟ เคอร์ ผู้จัดการทั่วไปของ ฟีนิกซ์ ซันส์ ทำเรื่องที่ถูกที่ควรตามความคิดเห็นของผมด้วยการเลือกเก็บ “ซูเปอร์แชค” และ สเตาดาไมร์ ไว้กับทีม เนื่องจากทั้งคู่ถือเป็นกลจักรสำคัญวงในที่เกื้อกูลกันได้เป็นอย่างดี
โอเค แชค ในวัย 36 ปี ไม่แกร่งพอสำหรับลงสนามคืนละครึ่งชั่วโมงแถมค่าจ้างแพงหูฉี่ แต่ในแง่ของการตลาดไม่มีใครกินขาดเกินเซ็นเตอร์ยักษ์ใหญ่รายนี้ที่เรียกแฟนๆ เข้ามาเต็มความจุ ยูเอส แอร์เวย์ส เซ็นเตอร์ สัปดาห์ออล-สตาร์ พี่ท่านเล่นสวมหน้ากากแร็พโยว์เปิดตัวอย่างมีสีสัน ขืนเทรดออกไปโดนด่าตายชัก เช่นเดียวกับ สเตาดาไมร์ นี่ขนาดมีปัญหาที่เข่าทั้งสองข้าง แต่พาวเวอร์ ฟอร์เวิร์ด ทีมชาติสหรัฐฯ ยังอุตสาห์ทำคะแนนและรีบาวด์สูงสุดของทีม 3 ฤดูกาลติด ไม่รู้ว่า เคอร์ เอาหัวแม่เท้าข้างไหนคิดถึงมีข่าวเทรด สเตาดาไมร์
ส่วนการเทรดที่เข้าตาผมที่สุดเห็นจะหนีไม่พ้น ออร์แลนโด แมจิก เทรดสามทางกับ ฮุสตัน ร็อคเก็ตส์ และ เมมฟิส กริซลีย์ส นำมาซึ่ง ราเฟอร์ อัลสตัน การ์ดวัย 32 ปีที่เข้ามาทดแทน จาเมียร์ เนลสัน การ์ดจ่ายตัวหลักซึ่งผ่าไหล่ต้องพักทั้งฤดูกาล ถึงวันนี้ แมจิก ถูกหยิบยกให้เป็นคู่แข่งแย่งแชมป์ฝั่งตะวันออกกับ “แชมป์เก่า” บอสตัน เซลติกส์ และ คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส แม้ อัลสตัน ทำแต้มไม่ได้เป็นกอบเป็นกำเหมือน เนลสัน แต่ประสบการณ์จะช่วยให้ แมจิก ได้ลุ้นถึงเกมชิงแชมป์สายแน่นอน
ใช้หนี้สัญญากันไปเรียบร้อย ข้ามฟากมาที่ NFL กันเลย พ้นเส้นตายการปัก “เฟรนไชส์ เพลย์เยอร์” กันไป ปีนี้มี 14 ทีมใช้สิทธิเลือกเก็บผู้เล่นคนสำคัญไว้กับทีมอีกหนึ่งปี (หมายเหตุ หากทีมอื่นสู้ราคาก็เอาดราฟท์รอบแรก 2 หนมาแลก) ซึ่งผู้เล่นที่รับทรัพย์ก้อนโตแน่ๆ ในฤดูกาลหน้าก็มีอาทิเช่น แมตต์ คาสเซล (แพทริออตส์), แบรนดอน จาค็อบส์ (ไจแอนท์ส), เทอร์เรลล์ ซักก์ส (เรฟเวนส์), จูเลียส เพพเพอร์ส (แพนเธอร์ส) หรือ ดาร์เรน สโปรลส์ (ชาร์จเจอร์ส) การรับค่าเหนื่อยเฉลี่ย 5 อันดับแรกของแต่ละตำแหน่ง ใครบ้างไม่อยากได้แต่เชื่อว่าหลายคนอยากได้สัญญายาวมากกว่าเพราะอนาคตจะได้ไม่โอนเอน จับพลัดจับพลูเกิดเจ็บหนักขึ้นมาเข้าสู่ตลาดฟรีเอเย่นต์ในปีหน้าราคาคงตกน่าดู
สุดสัปดาห์นี้แล้วตลาดฟรีเอเย่นต์ศึกคนชนคนมีคิวเปิดอย่างเป็นทางการ แฟนๆ อริโซนา คาร์ดินัลส์ ต้องลุ้นว่า เคิร์ต วอร์เนอร์ จะตกลงใจนำทัพทีมบุก “นกหัวแดง” ต่อหรือไม่ แต่ค่าจ้างระดับ 10-12 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี น่าจะทำให้การตัดสินใจง่ายขึ้นกระมัง ขณะที่ แอนควาน โบลดิน ปีกนอกเจ้าปัญหาออกอาการอิจฉาเพื่อนอยากได้ค่าจ้างแพงๆ บ้าง แม้ แลร์รี ฟิตเจอรัลด์ โชว์สปิริตพร้อมลดค่าเหนื่อยลงมาเพื่อให้ “ซาลารี แคป” โล่งขึ้น แต่ต้องมาวัดใจผู้ใหญ่ในทีมคาร์ดส เพราะ โบลดิน ป่วนทีมอีกแน่ช่วงเทรนนิงแคมป์ ฤาจะลองพิจารณาเทรดให้ทีมอื่นดู ปีกรับบอลระดับพันหลาต้องได้อะไรแลกกลับมาไม่น้อย
แต่ที่แยกทางกันเรียบร้อยแล้วได้แก่ มาร์วิน แฮร์ริสัน ปีกตัวเก๋ากับ อินเดียนาโปลิส โคลต์ส เมื่อไม่ยอมลดค่าจ้างลงมา บิลล์ โพเลียน ประธานทีมไม่มีทางเลือกที่ดีไปกว่าปล่อยปีกมือ 1 วัย 36 ปีสู่ตลาดฟรีเอเย่นต์ ใคร่ครวญอย่างถี่ถ้วนอย่างน้อย เพย์แมน แมนนิง ก็ยังเหลือ เรจจี เวย์น กับ แอนโธนีย์ กอนซาเลซ ให้เลือกขว้างบอลให้อยู่ แต่ก็ต้องมาดูว่าการตัดสินใจของ โพเลียน จะส่งผลดีหรือร้ายมากกว่ากัน
มาถึงย่อหน้าสุดท้ายแม้มีอีกหลายเรื่องราวอยากแบ่งปัน แต่นี่คงเป็นคอลัมน์ฉบับสุดท้ายที่กระผมเขียนให้แก่หนังสือพิมพ์ เอเอสทีวี ผู้จัดการ จากนี้คงต้องเปิดโอกาสให้ “เด็กปั้ม” คนหนุ่มไฟแรงได้มาแชร์เรื่องราววงการความเร็วในมอเตอร์สปอร์ตกันบ้าง อย่างไรก็ตาม พื้นที่ของ “Final Quarter” ยังไม่ได้หายเข้ากลีบเมฆแต่อย่างใด “ลุงแซม” ยังพร้อมแลกเปลี่ยนทรรศนะกับมิตรรักแฟนกีฬาอเมริกันเกมส์ต่อไปในฉบับ “Super Sunday” ที่เตรียมเปิดตัวกันในเร็ววันนี้ทุกแผงหนังสือ...ทว่าตอนนี้ลาก่อน (ฉบับประจำวันพฤหัสบดี)
สัปดาห์ก่อนติดค้างกันไว้เล็กน้อยสำหรับประเด็นตลาดเทรดตัวผู้เล่นในศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) มาวันนี้ขอตบให้ครบกระบวนความเพื่อจะได้พูดคุยถึงเรื่องราวในลีกอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) ที่กำลังน่าจับตามองมากขึ้นทุกขณะก่อนฤดูกาลใหม่ (2009/10) เปิดตัวขึ้นในเดือนกันยายนนี้
เส้นตายเทรดตัว NBA ปิดฉากแบบไม่หวือหวาเท่าที่ควร วินซ์ คาร์เตอร์, เทรซีย์ แม็คเกรดี, ชาคิว โอนีล, อมาเร สเตาดาไมร์ เป็น “ทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์” อยู่พักใหญ่แต่ไม่ใครย้ายบ้านใหม่กันเลย โดยเฉพาะสองรายหลัง สตีฟ เคอร์ ผู้จัดการทั่วไปของ ฟีนิกซ์ ซันส์ ทำเรื่องที่ถูกที่ควรตามความคิดเห็นของผมด้วยการเลือกเก็บ “ซูเปอร์แชค” และ สเตาดาไมร์ ไว้กับทีม เนื่องจากทั้งคู่ถือเป็นกลจักรสำคัญวงในที่เกื้อกูลกันได้เป็นอย่างดี
โอเค แชค ในวัย 36 ปี ไม่แกร่งพอสำหรับลงสนามคืนละครึ่งชั่วโมงแถมค่าจ้างแพงหูฉี่ แต่ในแง่ของการตลาดไม่มีใครกินขาดเกินเซ็นเตอร์ยักษ์ใหญ่รายนี้ที่เรียกแฟนๆ เข้ามาเต็มความจุ ยูเอส แอร์เวย์ส เซ็นเตอร์ สัปดาห์ออล-สตาร์ พี่ท่านเล่นสวมหน้ากากแร็พโยว์เปิดตัวอย่างมีสีสัน ขืนเทรดออกไปโดนด่าตายชัก เช่นเดียวกับ สเตาดาไมร์ นี่ขนาดมีปัญหาที่เข่าทั้งสองข้าง แต่พาวเวอร์ ฟอร์เวิร์ด ทีมชาติสหรัฐฯ ยังอุตสาห์ทำคะแนนและรีบาวด์สูงสุดของทีม 3 ฤดูกาลติด ไม่รู้ว่า เคอร์ เอาหัวแม่เท้าข้างไหนคิดถึงมีข่าวเทรด สเตาดาไมร์
ส่วนการเทรดที่เข้าตาผมที่สุดเห็นจะหนีไม่พ้น ออร์แลนโด แมจิก เทรดสามทางกับ ฮุสตัน ร็อคเก็ตส์ และ เมมฟิส กริซลีย์ส นำมาซึ่ง ราเฟอร์ อัลสตัน การ์ดวัย 32 ปีที่เข้ามาทดแทน จาเมียร์ เนลสัน การ์ดจ่ายตัวหลักซึ่งผ่าไหล่ต้องพักทั้งฤดูกาล ถึงวันนี้ แมจิก ถูกหยิบยกให้เป็นคู่แข่งแย่งแชมป์ฝั่งตะวันออกกับ “แชมป์เก่า” บอสตัน เซลติกส์ และ คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส แม้ อัลสตัน ทำแต้มไม่ได้เป็นกอบเป็นกำเหมือน เนลสัน แต่ประสบการณ์จะช่วยให้ แมจิก ได้ลุ้นถึงเกมชิงแชมป์สายแน่นอน
ใช้หนี้สัญญากันไปเรียบร้อย ข้ามฟากมาที่ NFL กันเลย พ้นเส้นตายการปัก “เฟรนไชส์ เพลย์เยอร์” กันไป ปีนี้มี 14 ทีมใช้สิทธิเลือกเก็บผู้เล่นคนสำคัญไว้กับทีมอีกหนึ่งปี (หมายเหตุ หากทีมอื่นสู้ราคาก็เอาดราฟท์รอบแรก 2 หนมาแลก) ซึ่งผู้เล่นที่รับทรัพย์ก้อนโตแน่ๆ ในฤดูกาลหน้าก็มีอาทิเช่น แมตต์ คาสเซล (แพทริออตส์), แบรนดอน จาค็อบส์ (ไจแอนท์ส), เทอร์เรลล์ ซักก์ส (เรฟเวนส์), จูเลียส เพพเพอร์ส (แพนเธอร์ส) หรือ ดาร์เรน สโปรลส์ (ชาร์จเจอร์ส) การรับค่าเหนื่อยเฉลี่ย 5 อันดับแรกของแต่ละตำแหน่ง ใครบ้างไม่อยากได้แต่เชื่อว่าหลายคนอยากได้สัญญายาวมากกว่าเพราะอนาคตจะได้ไม่โอนเอน จับพลัดจับพลูเกิดเจ็บหนักขึ้นมาเข้าสู่ตลาดฟรีเอเย่นต์ในปีหน้าราคาคงตกน่าดู
สุดสัปดาห์นี้แล้วตลาดฟรีเอเย่นต์ศึกคนชนคนมีคิวเปิดอย่างเป็นทางการ แฟนๆ อริโซนา คาร์ดินัลส์ ต้องลุ้นว่า เคิร์ต วอร์เนอร์ จะตกลงใจนำทัพทีมบุก “นกหัวแดง” ต่อหรือไม่ แต่ค่าจ้างระดับ 10-12 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี น่าจะทำให้การตัดสินใจง่ายขึ้นกระมัง ขณะที่ แอนควาน โบลดิน ปีกนอกเจ้าปัญหาออกอาการอิจฉาเพื่อนอยากได้ค่าจ้างแพงๆ บ้าง แม้ แลร์รี ฟิตเจอรัลด์ โชว์สปิริตพร้อมลดค่าเหนื่อยลงมาเพื่อให้ “ซาลารี แคป” โล่งขึ้น แต่ต้องมาวัดใจผู้ใหญ่ในทีมคาร์ดส เพราะ โบลดิน ป่วนทีมอีกแน่ช่วงเทรนนิงแคมป์ ฤาจะลองพิจารณาเทรดให้ทีมอื่นดู ปีกรับบอลระดับพันหลาต้องได้อะไรแลกกลับมาไม่น้อย
แต่ที่แยกทางกันเรียบร้อยแล้วได้แก่ มาร์วิน แฮร์ริสัน ปีกตัวเก๋ากับ อินเดียนาโปลิส โคลต์ส เมื่อไม่ยอมลดค่าจ้างลงมา บิลล์ โพเลียน ประธานทีมไม่มีทางเลือกที่ดีไปกว่าปล่อยปีกมือ 1 วัย 36 ปีสู่ตลาดฟรีเอเย่นต์ ใคร่ครวญอย่างถี่ถ้วนอย่างน้อย เพย์แมน แมนนิง ก็ยังเหลือ เรจจี เวย์น กับ แอนโธนีย์ กอนซาเลซ ให้เลือกขว้างบอลให้อยู่ แต่ก็ต้องมาดูว่าการตัดสินใจของ โพเลียน จะส่งผลดีหรือร้ายมากกว่ากัน
มาถึงย่อหน้าสุดท้ายแม้มีอีกหลายเรื่องราวอยากแบ่งปัน แต่นี่คงเป็นคอลัมน์ฉบับสุดท้ายที่กระผมเขียนให้แก่หนังสือพิมพ์ เอเอสทีวี ผู้จัดการ จากนี้คงต้องเปิดโอกาสให้ “เด็กปั้ม” คนหนุ่มไฟแรงได้มาแชร์เรื่องราววงการความเร็วในมอเตอร์สปอร์ตกันบ้าง อย่างไรก็ตาม พื้นที่ของ “Final Quarter” ยังไม่ได้หายเข้ากลีบเมฆแต่อย่างใด “ลุงแซม” ยังพร้อมแลกเปลี่ยนทรรศนะกับมิตรรักแฟนกีฬาอเมริกันเกมส์ต่อไปในฉบับ “Super Sunday” ที่เตรียมเปิดตัวกันในเร็ววันนี้ทุกแผงหนังสือ...ทว่าตอนนี้ลาก่อน (ฉบับประจำวันพฤหัสบดี)
