การท่าเรือฯ จัดการยืมตัว พิพัฒน์ ต้นกันยา ดาวยิงฝีเท้าดีจาก ราชประชา มาเสริมประสิทธิภาพในการล่าตาข่าย พร้อมทั้งวางเป้าหมายล่าแชมป์ไทยแลนด์ พรีเมียร์ลีกภายใน 2 ปี
เมื่อช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ 29 มกราคม 2552 การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) จัดงานแถลงข่าวการจัดตั้งสโมสรฟุตบอลการท่าเรือฯ เป็นนิติบุคคล ณ อาคารสำนักงานการท่าเรือฯ ชั้น 19 โดยใช้ชื่อว่า “บริษัท สโมสรฟุตบอลการท่าเรือไทย จำกัด” (Thai Port Football Club Company Limited) ส่วนชื่อย่อที่จะเป็นชื่อสโมสรนับจากนี้ คือ “การท่าเรือไทย เอฟ.ซี.” (Thai Port F.C.)
โดยนอกเหนือจากการชี้แจงวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งสโมสรให้เป็นบริษัทตามมาตรฐานระบบอาชีพที่ สหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) วางไว้ และการเปิดเผยงบทำทีมสำหรับสู้ศึกไทยลีก ฤดูกาล 2009 จำนวน 20 กว่าล้านบาทแล้ว นายพิเชฐ มั่นคง ประธานสโมสรการท่าเรือไทยยังเปิดตัว “เจ้าต้น” พิพัฒน์ ต้นกันยา หัวหอกดีกรีทีมชาติไทย ซึ่งยืมตัวมาจาก ราชประชา ภายใต้สัญญา 1 ปีและพูดถึงเป้าหมายของทีม “สิงห์เจ้าท่า” ด้วย
ซึ่ง พิเชฐ กล่าวว่า “3 ปีที่ผ่านมาเราทำผลงานได้ไม่ดีนัก ต้องหนีตกชั้นมาตลอด ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องหาตัวผู้เล่นที่มีศักยภาพสูงมาเสริมทีม รวมทั้งผ่าตัดทีมเป็นการด่วน ซึ่งเราได้เซ็นสัญญายืมตัว พิพัฒน์ ต้นกันยา ศูนย์หน้าจากสโมสรราชประชาที่ติดทีมชาติไทยชุดก่อนมาร่วมทีม”
“ส่วนเรื่องเป้าหมายในปีนี้เราหวังมากไม่ได้ เพราะหลายทีม เช่น ชลบุรี การไฟฟ้า บีอีซี เทโรฯ เมืองทอง-หนองจอก ต่างก็ซื้อตัวนักเตะฝีเท้าดีเข้าสังกัดกันมาก แต่ผมตั้งใจว่าเราจะขึ้นไปอยู่หัวตารางคะแนนติดอันดับ 1 ใน 5 และน่าจะมีลุ้นแชมป์ภายในไม่เกิน 2 ฤดูกาลนับจากนี้ ซึ่งผมอยู่ในตำแหน่งอีก 2 ปี อย่างน้อยปีหน้าเราไปไม่ถึงแชมป์ก็ต้องได้รองแชมป์ภายใต้ทีมงานชุดนี้ บวกกับการมีสปอนเซอร์หลักมาสนับสนุนจะช่วยให้นักเตะและโค้ชมีกำลังใจพาทีมไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ได้”
ทั้งนี้ ไพบูลย์ เลิศวิมลรัตน์ จะเข้ามาทำหน้าที่หัวหน้าผู้ฝึกสอนของ การท่าเรือไทย เอฟซี ในการลุยศึกไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก 2009 แทน “น้าติ๊ก” สมชาติ ยิ้มศิริ ส่วนสังเวียนเหย้านั้นจะยังคงใช้สนามไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง ต่อไปจนกว่าจะปรับปรุงสนามกีฬาการท่าเรือฯ เสร็จสิ้น ทั้งในส่วนของเก้าอี้ที่นั่งบนอัฒจันทร์ และพื้นหญ้า
