เจอร์เมน เดโฟ ดาวยิงตัวใหม่หน้าเก่าของ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ทำแสบอดีตต้นสังกัดอย่าง ปอร์ทสมัธ ด้วยการกดประตูอย่างเฉียบขาดช่วยให้เกมจบลงด้วยผลเสมอ 1-1 ในศึกพรีเมียร์ชิป อังกฤษ เมื่อคืนวันอาทิตย์
ฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ วันอาทิตย์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2552
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 1 – 1 ปอร์ทสมัธ
ณ สังเวียนไวท์ ฮาร์ท เลน ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ เฝ้าบ้านต้อนรับ ปอร์ทสมัธ เกมนี้ แฮร์รี เรดแนปป์ อดีตกุนซือทีมเยือนที่คุมทัพเจ้าถิ่นส่ง เจอร์เมน เดโฟ ดาวยิงศิษย์เก่าปอมปีย์ลงสนาม ด้านอาคันตุกะจากแดนใต้ก็ไม่น้อยหน้า มี โซล แคมป์เบลล์ นักเตะที่สาวกไก่เดือยทองเกลียดชังลงคุมแนวรับ
เริ่มเกมมาได้ 10 นาที เดโฟ เกือบทำให้สกอร์บอร์ดทำงาน เมื่อได้บอลกระชากหนี แคมป์เบลล์ เข้าไปซัดด้วยซ้ายโดย เดวิด เจมส์ หลงทางไปแล้ว ทว่าเฉี่ยวเสาแรกอย่างน่าเสียดาย 2 นาทีต่อมา เกล็น จอห์นสัน เติมขึ้นมาลุ้นให้ทีมเยือนบ้างด้วยการซัดไกล เออเรลโญ โกเมส ตะครุบไม่อยู่ในทีแรก แต่ยังตามมาปัดบอลทิ้งก่อน ปีเตอร์ เคราช์ จะเข้าซ้ำได้ทัน
จากนั้นเกมก็เปิดแลกกันสนุก นาทีที่ 20 อารอน เลนนอน ลองกดจากนอกเขตโทษ แต่ เดวิด เจมส์พุ่งปัดออกหลังไปได้อย่างยอดเยี่ยม ก่อนที่ เจมี โอฮารา จะเปิดลูกเตะมุมในจังหวะต่อมาให้ โจนาธาน วูดเกต โหม่งเช็ดมาที่เสาสอง โรมัน พาฟลูเชนโก ยืนแปเน้นๆ ทว่าไปติดพวกเดียวกันเองอย่าง เดโฟ
นาทีที่ 23 เลนนอน เปิดจากเส้นหลังฝั่งขวาให้ เดโฟ ขึ้นโขกในกรอบ 6 หลาเน้นๆ แต่ เจมส์ ยังเหนียวแน่นปัดข้ามคานออกไปได้อีกครั้ง 3 นาทีต่อมา สเปอร์ส เกือบเสียท่าบ้าง เมื่อ เดวิด นูเจนท์ หลุดขึ้นมาทางขวาก่อนดึงจังหวะให้ โกเมส ออกมาปิดมุมแล้วจ่ายเข้ากลางให้ อาร์มองด์ ตราโอเร ซัด ทว่า เวดราน ชอร์ลูกา ตามมาบล็อกได้อย่างหวุดหวิด
จากนั้น พาฟลูเชนโก บาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหว ทำให้ ดาร์เรน เบนท์ ถูกส่งลงสนามแทน นาทีที่ 35 ชอร์ลูกา โยนโด่งจากกราบซ้ายให้ เล็ดลีย์ คิง โหม่งกดลงพื้นถูก เจมส์ ซูเปอร์เซฟอีกหน เบนท์ ตามซ้ำก็ยังติดนายทวารทีมชาติอังกฤษอีก 4 นาทีให้หลัง เจมี โอฮารา สบโอกาสยิงไกลเฉี่ยวเสาแรกแบบน่าหวาดเสียว
เจ้าถิ่นบุกอยู่เพลินๆ หวิดโดนเจาะตาข่ายในนาทีที่ 43 เมื่อ นูเจนท์ ได้บอลหลุดเดี่ยวเข้าไปดวลกับ โกเมส ตัวต่อตัว ทว่า กลับดีดไม่พ้นมือผู้รักษาประตูชาวบราซิลอย่างน่าเสียดาย ก่อนที่ คิง จะมาเดี้ยงไปอีกราย ทำให้ ไมเคิล ดอว์สัน ถูกเปลี่ยนลงมาทำหน้าที่แทน กระทั่งจบครึ่งแรกทั้งสองทีมยังเสมอ 0-0
กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลัง ไก่เดือยทองเกือบได้ประตูแบบโชคช่วย เมื่อ เลนนอน ผ่านบอลจากริมเขตโทษด้านขวาแฉลบ ซิลแว็ง ดิสแต็ง จนทำท่าจะเข้าเสาแรก แต่ เจมส์ ยังไวทายาทล้มตัวเซฟได้อย่างเหลือเชื่อ ก่อนออกบอลเร็วให้ ตราโอเร เลี้ยงจากกลางสนามมาหน้าเขตโทษ ก่อนจิ้มต่อให้ นูเจนท์ กดเต็มข้อส่งลูกพุ่งเสียบเสาสองอย่างเด็ดขาดให้ ปอมปีย์ พลิกขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 59
อย่างไรก็ตามดี สเปอร์ส มาตีเสมอเป็น 1-1 ได้ในนาทีที่ 70 จากการต่อบอลเข้าทำของ ดิดิเยร์ โซโกรา ที่จ่ายให้ ลูกา โมดริช ก่อนแตะต่อมาที่ เดโฟ ซัดจังหวะเดียวด้วยเท้าซ้ายส่งลูกพุ่งลอดขา แคมป์เบลล์ หนีมือ เจมส์ ตุงตาข่ายอย่างเฉียบคม ถัดมานาทีเดียว ชอร์ลูกา ดันขึ้นมาลองยิงไกล ลูกพุ่งออกหลังไปทางเสาไกล
เจ้าบ้านมีจังหวะลุ้นแซงนำในนาทีที่ 75 เดวิด เบนท์ลีย์ ตัวสำรองที่ลงมาแทน แกเร็ธ เบล ลักไก่ตักฟรีคิกหวังให้เสียบใต้คานเสาสอง แต่ เจมส์ ไม่หลงโดดปัดออกหลังไปได้ ก่อนที่ เบนท์ลีย์ จะเปิดลูกเตะมุมให้ ชอร์ลูกา ขวิดบอลที่เสาแรกทำท่าจะเข้าประตู แต่ ฌอน เดวิส ที่ยืนคุมเส้นอยู่โหม่งเคลียร์เอาไว้ได้
ถึงนาทีที่ 80 ไก่เดือยทองน่าได้ประตูชัยอย่างยิ่ง เมื่อ เบนท์ลีย์ หลุดขึ้นมาทางซ้ายก่อนเปิดให้ เบนท์ โขกคนเดียวโล่งๆ ที่เสาสองหลุดกรอบอย่างไม่น่าเชื่อ จากนั้นนาทีที่ 86 เดโฟ หลุดเข้าไปยิงในเขตโทษออกหลังไปอีก ครบ 90 นาทีจึงเจ๊ากันไป 1-1 สเปอร์ส เก็บเพิ่มเป็น 21 คะแนน ดีดตัวจากบ๊วยขึ้นมาอยู่ที่ 16 ส่วน ปอร์ทสมัธ มี 24 คะแนน รั้งอันดับ 12
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ – เออเรลโญ โกเมส, เวดราน ชอร์ลูกา, โจนาธาน วูดเกต, เล็ดลีย์ คิง, แกเร็ธ เบล, อารอน เลนนอน, ดิดิเยร์ โซโกรา, ลูกา โมดริช, เจมี โอฮารา, โรมัน พาฟลูเชนโก, เจอร์เมน เดโฟ
ปอร์ทสมัธ - เดวิด เจมส์, เกล็น จอห์นสัน, โซล แคมป์เบลล์, ซิลแว็ง ดิสแต็ง, นาเดียร์ เบลฮัดจ์, ยูเนส กาบูล, เดวิด นูเจนท์, ฌอน เดวิส, นิโก ครานชาร์, อาร์มองด์ ตราโอเร, ปีเตอร์ เคราช์
ฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ วันอาทิตย์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2552
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 1 – 1 ปอร์ทสมัธ
ณ สังเวียนไวท์ ฮาร์ท เลน ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ เฝ้าบ้านต้อนรับ ปอร์ทสมัธ เกมนี้ แฮร์รี เรดแนปป์ อดีตกุนซือทีมเยือนที่คุมทัพเจ้าถิ่นส่ง เจอร์เมน เดโฟ ดาวยิงศิษย์เก่าปอมปีย์ลงสนาม ด้านอาคันตุกะจากแดนใต้ก็ไม่น้อยหน้า มี โซล แคมป์เบลล์ นักเตะที่สาวกไก่เดือยทองเกลียดชังลงคุมแนวรับ
เริ่มเกมมาได้ 10 นาที เดโฟ เกือบทำให้สกอร์บอร์ดทำงาน เมื่อได้บอลกระชากหนี แคมป์เบลล์ เข้าไปซัดด้วยซ้ายโดย เดวิด เจมส์ หลงทางไปแล้ว ทว่าเฉี่ยวเสาแรกอย่างน่าเสียดาย 2 นาทีต่อมา เกล็น จอห์นสัน เติมขึ้นมาลุ้นให้ทีมเยือนบ้างด้วยการซัดไกล เออเรลโญ โกเมส ตะครุบไม่อยู่ในทีแรก แต่ยังตามมาปัดบอลทิ้งก่อน ปีเตอร์ เคราช์ จะเข้าซ้ำได้ทัน
จากนั้นเกมก็เปิดแลกกันสนุก นาทีที่ 20 อารอน เลนนอน ลองกดจากนอกเขตโทษ แต่ เดวิด เจมส์พุ่งปัดออกหลังไปได้อย่างยอดเยี่ยม ก่อนที่ เจมี โอฮารา จะเปิดลูกเตะมุมในจังหวะต่อมาให้ โจนาธาน วูดเกต โหม่งเช็ดมาที่เสาสอง โรมัน พาฟลูเชนโก ยืนแปเน้นๆ ทว่าไปติดพวกเดียวกันเองอย่าง เดโฟ
นาทีที่ 23 เลนนอน เปิดจากเส้นหลังฝั่งขวาให้ เดโฟ ขึ้นโขกในกรอบ 6 หลาเน้นๆ แต่ เจมส์ ยังเหนียวแน่นปัดข้ามคานออกไปได้อีกครั้ง 3 นาทีต่อมา สเปอร์ส เกือบเสียท่าบ้าง เมื่อ เดวิด นูเจนท์ หลุดขึ้นมาทางขวาก่อนดึงจังหวะให้ โกเมส ออกมาปิดมุมแล้วจ่ายเข้ากลางให้ อาร์มองด์ ตราโอเร ซัด ทว่า เวดราน ชอร์ลูกา ตามมาบล็อกได้อย่างหวุดหวิด
จากนั้น พาฟลูเชนโก บาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหว ทำให้ ดาร์เรน เบนท์ ถูกส่งลงสนามแทน นาทีที่ 35 ชอร์ลูกา โยนโด่งจากกราบซ้ายให้ เล็ดลีย์ คิง โหม่งกดลงพื้นถูก เจมส์ ซูเปอร์เซฟอีกหน เบนท์ ตามซ้ำก็ยังติดนายทวารทีมชาติอังกฤษอีก 4 นาทีให้หลัง เจมี โอฮารา สบโอกาสยิงไกลเฉี่ยวเสาแรกแบบน่าหวาดเสียว
เจ้าถิ่นบุกอยู่เพลินๆ หวิดโดนเจาะตาข่ายในนาทีที่ 43 เมื่อ นูเจนท์ ได้บอลหลุดเดี่ยวเข้าไปดวลกับ โกเมส ตัวต่อตัว ทว่า กลับดีดไม่พ้นมือผู้รักษาประตูชาวบราซิลอย่างน่าเสียดาย ก่อนที่ คิง จะมาเดี้ยงไปอีกราย ทำให้ ไมเคิล ดอว์สัน ถูกเปลี่ยนลงมาทำหน้าที่แทน กระทั่งจบครึ่งแรกทั้งสองทีมยังเสมอ 0-0
กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลัง ไก่เดือยทองเกือบได้ประตูแบบโชคช่วย เมื่อ เลนนอน ผ่านบอลจากริมเขตโทษด้านขวาแฉลบ ซิลแว็ง ดิสแต็ง จนทำท่าจะเข้าเสาแรก แต่ เจมส์ ยังไวทายาทล้มตัวเซฟได้อย่างเหลือเชื่อ ก่อนออกบอลเร็วให้ ตราโอเร เลี้ยงจากกลางสนามมาหน้าเขตโทษ ก่อนจิ้มต่อให้ นูเจนท์ กดเต็มข้อส่งลูกพุ่งเสียบเสาสองอย่างเด็ดขาดให้ ปอมปีย์ พลิกขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 59
อย่างไรก็ตามดี สเปอร์ส มาตีเสมอเป็น 1-1 ได้ในนาทีที่ 70 จากการต่อบอลเข้าทำของ ดิดิเยร์ โซโกรา ที่จ่ายให้ ลูกา โมดริช ก่อนแตะต่อมาที่ เดโฟ ซัดจังหวะเดียวด้วยเท้าซ้ายส่งลูกพุ่งลอดขา แคมป์เบลล์ หนีมือ เจมส์ ตุงตาข่ายอย่างเฉียบคม ถัดมานาทีเดียว ชอร์ลูกา ดันขึ้นมาลองยิงไกล ลูกพุ่งออกหลังไปทางเสาไกล
เจ้าบ้านมีจังหวะลุ้นแซงนำในนาทีที่ 75 เดวิด เบนท์ลีย์ ตัวสำรองที่ลงมาแทน แกเร็ธ เบล ลักไก่ตักฟรีคิกหวังให้เสียบใต้คานเสาสอง แต่ เจมส์ ไม่หลงโดดปัดออกหลังไปได้ ก่อนที่ เบนท์ลีย์ จะเปิดลูกเตะมุมให้ ชอร์ลูกา ขวิดบอลที่เสาแรกทำท่าจะเข้าประตู แต่ ฌอน เดวิส ที่ยืนคุมเส้นอยู่โหม่งเคลียร์เอาไว้ได้
ถึงนาทีที่ 80 ไก่เดือยทองน่าได้ประตูชัยอย่างยิ่ง เมื่อ เบนท์ลีย์ หลุดขึ้นมาทางซ้ายก่อนเปิดให้ เบนท์ โขกคนเดียวโล่งๆ ที่เสาสองหลุดกรอบอย่างไม่น่าเชื่อ จากนั้นนาทีที่ 86 เดโฟ หลุดเข้าไปยิงในเขตโทษออกหลังไปอีก ครบ 90 นาทีจึงเจ๊ากันไป 1-1 สเปอร์ส เก็บเพิ่มเป็น 21 คะแนน ดีดตัวจากบ๊วยขึ้นมาอยู่ที่ 16 ส่วน ปอร์ทสมัธ มี 24 คะแนน รั้งอันดับ 12
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ – เออเรลโญ โกเมส, เวดราน ชอร์ลูกา, โจนาธาน วูดเกต, เล็ดลีย์ คิง, แกเร็ธ เบล, อารอน เลนนอน, ดิดิเยร์ โซโกรา, ลูกา โมดริช, เจมี โอฮารา, โรมัน พาฟลูเชนโก, เจอร์เมน เดโฟ
ปอร์ทสมัธ - เดวิด เจมส์, เกล็น จอห์นสัน, โซล แคมป์เบลล์, ซิลแว็ง ดิสแต็ง, นาเดียร์ เบลฮัดจ์, ยูเนส กาบูล, เดวิด นูเจนท์, ฌอน เดวิส, นิโก ครานชาร์, อาร์มองด์ ตราโอเร, ปีเตอร์ เคราช์