xs
xsm
sm
md
lg

ปาฏิหาริย์มีจริง! "มานะ" ได้แข่งต่อ รั้งที่ 79 ดาการ์สเตจ 7

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

มานะ พรศิริเชิด หนึ่งเดียวของไทยในแรลลีดาการ์ 2009 ได้เฮขนานใหญ่ หลังฝ่ายจัดการแข่งขันไฟเขียวให้นำรถปาเจโร สปอร์ต อีโวลูชัน หมายเลข 368 กลับมาแข่งขันต่อ เนื่องจากความล่าช้าในการช่วยเหลือจากหล่มทราย มาจากฝ่ายจัดการแข่งขันเอง
รถหมายเลข 368 ของมานะ กลับมาลุยดาการ์ 2009 อีกครั้ง
หลังจากที่ทำเอาแฟนๆ กีฬาคนไทยต้องผิดหวังไปตามๆกัน เมื่อก่อนหน้านี้มีรายงานว่าเจ้าหนึ่ง มานะ พรศิริเชิด นักแข่งแรลลี่ชาวไทยในดาการ์ แรลลี่ 2009 อาร์เจนตินา - ชิลี ต้องเดินทางกลับบ้านก่อนกำหนด เนื่องจากรถแข่งติดอยู่ในหล่มทรายสเตจที่ 5 เป็นเวลาหนึ่งวันเต็ม ร่วมกับรถแข่งอีกว่าร้อยคัน

ซึ่งทั้งหมดเกิดจากการที่ผู้จัดการแข่งขันมาให้ความช่วยเหลือรถแข่งของมานะล่าช้ากว่ารถแข่งคันอื่นๆ ทำให้มานะ และ เธียรรี่ เนวิเกเตอร์ มาไม่ทันในการออกสตาร์ทในสเตจที่ 6 ส่งผลให้ต้องออกการแข่งขันที่สุด

ล่าสุดหลังจากที่นายประสาน ดวงวิบูลย์ ผู้จัดการทีมได้เข้าร่วมประชุมพร้อมชี้แจงกับผู้จัดการแข่งขันถึงสาเหตุที่รถแข่งของมานะ ที่มาไม่ทันออกสตาร์ทในสเตจ 6 ที่เกิดจากการช่วยเหลือที่ล่าช้าของผู้จัดการแข่งขันเอง ประกอบกับที่ผู้จัดการแข่งขันประกาศยกเลิกผลการแข่งขันในสเตจที่ 5 และ 6 จึงทำให้มานะ ยังอยู่ในการแข่งขันต่อไป

โดยหลังจากที่มานะ พรศิริเชิด และเธียร์รี่ ลาคอมบ์ สองนักแข่งทีมไทย ต้องก่อกองไฟเพื่อความอยู่รอดกลางทะเลปาทาโกเนีย ที่มีอากาศหนาวจัดถึงขั้นติดลบ เพื่อรอคอยการช่วยเหลือผู้จัดการแข่งขันนั้น ทั้งคู่ได้เดินทางกลับมายังแคมป์ด้วยอาการที่อิดโรย ก็เข้าร่วมประชุมกับทีมใหญ่ทันที พร้อมนำรถแข่งมิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต อีโวลูชั่น หมายเลข 368 เข้ารับการซ่อมบำรุงและตรวจเช็คสภาพความพร้อม ก่อนออกสตาร์ทต่อในสเตจที่ 7

ซึ่งก่อนสตาร์ทในสเตจที่ 7 มานะได้โทรศัพท์มาบอกกับทีมงานที่ประเทศไทยว่า “ตอนนี้ดีใจมากที่ได้แข่งต่อในสเตจที่ 7 ผมและรถแข่งก็มีความพร้อมที่สุดที่ทำการแข่งขันในสเตจต่อไป Race for Thailand ครับ”

การแข่งขันในสเตจที่ 7 ออกสตาร์ทกันที่เมืองเมนโดซ่าข้ามพรมแดนสู่เมืองวาลปาไดโซ่ประเทศชิลี รวมระยะทาง 816 กิโลเมตร ซึ่งในวันนี้ผู้จัดการแข่งขันได้ลดช่วงจับเวลาพิเศษจากเดิม 491 กิโลเมตร เหลือเพียง 243.36 กิโลเมตร ในวันนี้นักแข่งจะต้องเผชิญกับสภาพเส้นทางที่หลากหลายทั้งทะเลทรายที่ว่ากันว่าโหดกว่าสเตจที่ 5 รวมทั้งช่วงจับเวลาพิเศษที่ต้องวิ่งบนทางที่สูงกว่า 3,000 เมตร ก่อนที่นักแข่งคันที่เหลือรอดจะได้เข้าสู่ประเทศชิลีเป็นวันแรก

ผลการแข่งขันในสเตจนี้ของมานะ พรศิริเชิด และเธียร์รี่ ลาคอมบ์ สองนักแข่งจาก มิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ต สิงห์ ทีมไทยแลนด์ ในรถแข่งมิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต อีโวลูชั่น หมายเลย 368 นั้น สองนักแข่งทีมไทยได้ช่วยกันทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยออกสตาร์ทในอันดับที่ 87 และเข้ามาเป็นอันดับที่ 79 ของสเตจด้วยเวลา 3 ชั่วโมง 52 นาที 24 วินาที รั้งอันดับที่ 80 โอเวอร์ออล ด้วยเวลา 68 ชั่วโมง 15 นาที 2 วินาที ตามหลังผู้นำคาร์ลอส แซงค์ สังกัดโฟล์คสวาเกน อยู่ 44 ชั่วโมง 32 นาที 22 วินาที

สำหรับในวันพรุ่งนี้เป็นวันแรกที่นักแข่งทุกคนจะได้พักผ่อนและตรวจเช็ครถแข่งกันอย่างเต็มที่ หลังจากต้องเหน็ดเหนื่อยจากการแข่งขันกันมาอย่างต่อเนื่องตลอด 7 วันที่ผ่านมา และหากนักแข่งยังมีกำลังใจและรถแข่งยังพร้อมทะยานไปข้างหน้า การแข่งขันที่เหลืออีกครึ่งทางก็คงไม่น่าเกินความสามารถที่จะฝ่าฟันไปให้ถึง

สรุปเวลาสเตจที่ 7
1. คาร์ลอส แซงค์ (สเปน / โฟล์คสวาเกน) เวลา 2 ชั่วโมง 35 นาที 27 วินาที
2. มาร์ค มิลเลอร์ (สหรัฐฯ / โฟล์คสวาเกน) ตามหลัง 3 นาที 41 วินาที
3. ร็อบบี กอร์ดอน (สหรัฐฯ / ฮัมเมอร์) ตามหลัง 4 นาที 13 วินาที
4. นานี โรมา (สเปน / มิตซูบิชิ) ตามหลัง 5 นาที 37 วินาที
5. กูเอร์แลง ชิเชริท (ฝรั่งเศส / บีเอ็มดับเบิลยู) ตามหลัง 6 นาที 8 วินาที
* 79 . มานะ พรศิริเชิด (ไทย/มิตซูบิชิ ปาเจโรฯ) ตามหลัง 3 ชั่วโมง 52 นาที 54 วินาที

สรุปเวลารวมโอเวอร์ออล
1. คาร์ลอส แซงค์ (สเปน / โฟล์คสวาเกน) เวลารวม 23 ชั่วโมง 42 นาที 49 วินาที
2. จิเนล เดอ วิลเลอร์ส (แอฟริกาใต้ / โฟล์คสวาเกน) ตามหลัง 9 วินาที
3. มาร์ค มิลเลอร์ (สหรัฐฯ / โฟล์คสวาเกน) ตามหลัง 13 นาที 53 วินาที
4. นานี โรมา (สเปน / มิตซูบิชิ) ตามหลัง 29 นาที 16 วินาที
5. ร็อบบี กอร์ดอน (สหรัฐฯ / ฮัมเมอร์) ตามหลัง 1 ชั่วโมง 8 นาที 21 วินาที
* 80 . มานะ พรศิริเชิด (ไทย/มิตซูบิชิ ปาเจโรฯ) ตามหลัง 44 ชั่วโมง 32 นาที 22 วินาที

กำลังโหลดความคิดเห็น