ปีเตอร์ รีด กุนซือทีมชาติไทย ออกมายอมรับความพ่ายแพ้ หลังจากถูก เวียดนาม บุกมาคว้าชัยถึงบ้านด้วยสกอร์ 1-2 ในรอบชิงชนะเลิศ นัดแรกของศึก เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2008 ชี้นักเตะเกร็งและกดดันกันเกินไป เชื่อตามหลังแค่ลูกเดียวยังมีโอกาสคว้าแชมป์อยู่ในมือ
ไทย เพิ่งเสียหน้าอย่างแรงเมื่อโดน เวียดนาม บุกมาสอยคาบ้าน 1-2 ในศึก เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2008 รอบชิงชนะเลิศ นัดแรก ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เมื่อช่วงเย็นของวันพุธที่ 24 ธันวาคม ทีมเยือนนำห่างก่อนจาก เหงียด เวียด ทัง นาที 38 และ เล คอง มิน นาที 42 เจ้าถิ่นตีไข่แตกได้จาก รณชัย รังสิโย ตัวสำรองในนาที 75
หลังเกม ปีเตอร์ รีด กุนซือชาวอังกฤษ ของไทย ออกมายอมรับว่า “เกมนี้ เวียดนาม เตรียมทีมมาดีมาก โดยเฉพาะการตั้งรับและสวนกลับ สองประตูที่ยิงได้ทำให้พวกเขามั่นใจมากขึ้น แต่การตามหลังแค่ลูกเดียวต้องบอกว่า ไทย ยังมีโอกาส เกมนี้เรามีจังหวะยิงประตูเยอะแต่ทำไม่ได้กันเอง ที่สำคัญ คือ นายทวารของพวกเขาเหนียวมาก เซฟประตูสวยๆ ได้หลายต่อหลายครั้ง สำหรับนัดหน้าในอีก 4 วันข้างหน้า เราต้องเตรียมสภาพจิตใจให้พร้อมกว่านี้ วันนี้เราเล่นกันแบบเกร็งๆ คงจะเพราะกดดัน”
เมื่อถูกถามถึงลูกยิงของ ธีรศิลป์ แดงดา ที่แปเข้าไปในช่วงครึ่งหลัง แต่กรรมการยกธงล้ำหน้า รีด แสดงความเห็นว่า “หากผู้กำกับเส้นว่าแบบนั้นก็ต้องตามนั้น เพราะเขาอยู่ในมุมที่มองเห็นได้ชัดกว่า ตอนผมเป็นนักเตะ เอฟเวอร์ตัน ผ่านสภาพความกดดันแบบนี้มาเยอะ จากนี้ก็จะพยายามหาทางรับมือให้ได้ในนัดที่สอง”
ผู้สื่อข่าวยังยิงคำถามอีกว่าหาก ไทย ไม่ได้แชมป์จะส่งผลกระทบกับตำแหน่งกุนซือหรือไม่ รีด ตอบว่า “อย่าเพิ่งไปพูดถึงเรื่องนั้น เพราะว่ายังไกลอยู่มาก ผมจะพยายามทำทุกทางเพื่อให้เราคว้าแชมป์ให้ได้ หากไม่ได้ค่อยว่ากันทีหลังจากนี้”
ฝั่ง เอ็นริเก คาริสโต กุนซือชาวโปรตุเกส ของ เวียดนาม ออกมากล่าวว่า “ยอมรับว่าช่วง 15 นาทีแรก ไทย เล่นดีมากกดดันอย่างหนัก แต่พอเราตั้งหลักได้และยิง 2 ประตูติดต่อกันนักเตะก็มั่นใจ เกมนี้เราทำได้ตามแผนก็คือตั้งรับและสวนกลับ เกมรอบแรกที่แพ้ ไทย ส่งผลเยอะมาก แต่พอเรารวมใจกันได้ก็ทะลุเข้าถึงรอบชิงได้สำเร็จ ตอนนี้เหลืออีกครึ่งทางเท่านั้น งานเรายังไม่เสร็จ ต้องไปดูอีกนัดที่ ฮานอย ในวันที่ 28 ธันวาคมนี้”