เควิน กัลลาเกอร์ และ ไนเจล วินเทอร์เบิร์น ออกมาแสดงความเห็นใจต่อ พอล อินซ์ ที่กลายเป็นคนตกงาน หลังถูก แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส เขี่ยตกเก้าอี้กุนซือเมื่อวันอังคารที่ 16 ธันวาคมที่ผ่านมา
บอร์ดบริหาร “กุหลาบไฟ” นัดหารือกันตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา เพื่อพิจารณาการทำงานของ อินซี ที่ทำทีมชนะแค่ 3 เกมจากการลงเล่นในศึกพรีเมียร์ชิป อังกฤษ 17 นัดในฤดูกาลนี้ โดยเก็บ 3 แต้มไม่ได้ติดต่อกันนาน 11 เกม จนหล่นไปอยู่รองบ๊วย ซึ่งในที่สุดก็ลงมติปลดอดีตนายใหญ่ แม็คเคิลสฟิลด์ และ เอ็มเค ดอนส์ ออกจากตำแหน่ง
ด้าน เควิน กัลลาเกอร์ อดีตศูนย์หน้าทีมชาติสกอตแลนด์ของ แบล็คเบิร์น พูดถึง อินซ์ ที่ต้องเดินออกจากถิ่นอีวูด ปาร์ค หลังเพิ่งเข้ามาทำหน้าที่ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาว่า “ผมคิดว่าเขาควรมีเวลาในการปรับแต่งทีมให้เล่นในสไตล์ของเขามากกว่านี้ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างกลับไม่เป็นใจให้ พอล เลย”
“สองผู้เล่นตัวหลักของทีม (เดวิด เบนท์ลีย์ และ แบรด ฟรีเดล) จากไปในช่วงที่เขาเข้ามา นอกจากนั้นก็ยังไม่ได้งบในการเสริมทัพมากนัก และนักเตะที่เขาดึงมาร่วมทีมก็ถูกอาการบาดเจ็บรบกวนจนไม่สามารถจัดทีมที่ดีที่สุดลงสนามได้เสียที นั่นเป็นปัญหาที่เข้ามารุมเร้าในการทำงานของ พอล”
ขณะที่ ไนเจล วินเทอร์เบิร์น อดีตแบ็กซ้ายระดับตำนานของ อาร์เซนอล ที่ทำน้าที่โค้ชกองหลังแบบพาร์ท-ไทม์ให้กับกุหลาบไฟ ร่วมแสดงทัศนะว่า “มันน่าเสียดาย เพราะผมเฝ้ารอเวลาที่จะได้ทำงานร่วมกับ พอล ในการสรรหาผู้เล่นที่เขาต้องการช่วงตลาดนักเตะเดือนมกราคมนี้”
“ผมเห็นด้วยกับการที่เขาต้องเร่งทำให้ทีมมีผลงานที่ดีขึ้น แต่สโมสรตัดสินใจเร็วเกินไป บางทีบอร์ดบริหารอาจเริ่มกังวลจนรีบดำเนินการ ซึ่งคราวนี้พวกเขาต้องมาขบคิดกันว่าจะหาใครสักคนที่ช่วยผลักดันให้ทีมก้าวไปข้างหน้าได้อย่างที่ต้องการ”
ทั้งนี้ แกรม ซูเนสส์ อดีตกุนซือแบล็คเบิร์น เป็นตัวเต็งที่มีลุ้นกลับมารั้งบังเหียนรอบ 2 โดยที่ ตูกาย เคริโมกลู มิดฟิลด์ตัวเก๋าชาวตุรกีมีสิทธิ์สอดแทรกในฐานะผู้เล่น-ผู้จัดการทีม ส่วนผู้ท้าชิงรายอื่นประกอบด้วย แซม อัลลาร์ไดซ์, สตีฟ แม็คคลาเรน, อลัน เคอร์บิชลีย์, อลัน เชียเรอร์, เชราร์ อุลลิเยร์, อัฟราม แกรนท์ และ กอร์ดอน สตรัคคัน
บอร์ดบริหาร “กุหลาบไฟ” นัดหารือกันตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา เพื่อพิจารณาการทำงานของ อินซี ที่ทำทีมชนะแค่ 3 เกมจากการลงเล่นในศึกพรีเมียร์ชิป อังกฤษ 17 นัดในฤดูกาลนี้ โดยเก็บ 3 แต้มไม่ได้ติดต่อกันนาน 11 เกม จนหล่นไปอยู่รองบ๊วย ซึ่งในที่สุดก็ลงมติปลดอดีตนายใหญ่ แม็คเคิลสฟิลด์ และ เอ็มเค ดอนส์ ออกจากตำแหน่ง
ด้าน เควิน กัลลาเกอร์ อดีตศูนย์หน้าทีมชาติสกอตแลนด์ของ แบล็คเบิร์น พูดถึง อินซ์ ที่ต้องเดินออกจากถิ่นอีวูด ปาร์ค หลังเพิ่งเข้ามาทำหน้าที่ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาว่า “ผมคิดว่าเขาควรมีเวลาในการปรับแต่งทีมให้เล่นในสไตล์ของเขามากกว่านี้ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างกลับไม่เป็นใจให้ พอล เลย”
“สองผู้เล่นตัวหลักของทีม (เดวิด เบนท์ลีย์ และ แบรด ฟรีเดล) จากไปในช่วงที่เขาเข้ามา นอกจากนั้นก็ยังไม่ได้งบในการเสริมทัพมากนัก และนักเตะที่เขาดึงมาร่วมทีมก็ถูกอาการบาดเจ็บรบกวนจนไม่สามารถจัดทีมที่ดีที่สุดลงสนามได้เสียที นั่นเป็นปัญหาที่เข้ามารุมเร้าในการทำงานของ พอล”
ขณะที่ ไนเจล วินเทอร์เบิร์น อดีตแบ็กซ้ายระดับตำนานของ อาร์เซนอล ที่ทำน้าที่โค้ชกองหลังแบบพาร์ท-ไทม์ให้กับกุหลาบไฟ ร่วมแสดงทัศนะว่า “มันน่าเสียดาย เพราะผมเฝ้ารอเวลาที่จะได้ทำงานร่วมกับ พอล ในการสรรหาผู้เล่นที่เขาต้องการช่วงตลาดนักเตะเดือนมกราคมนี้”
“ผมเห็นด้วยกับการที่เขาต้องเร่งทำให้ทีมมีผลงานที่ดีขึ้น แต่สโมสรตัดสินใจเร็วเกินไป บางทีบอร์ดบริหารอาจเริ่มกังวลจนรีบดำเนินการ ซึ่งคราวนี้พวกเขาต้องมาขบคิดกันว่าจะหาใครสักคนที่ช่วยผลักดันให้ทีมก้าวไปข้างหน้าได้อย่างที่ต้องการ”
ทั้งนี้ แกรม ซูเนสส์ อดีตกุนซือแบล็คเบิร์น เป็นตัวเต็งที่มีลุ้นกลับมารั้งบังเหียนรอบ 2 โดยที่ ตูกาย เคริโมกลู มิดฟิลด์ตัวเก๋าชาวตุรกีมีสิทธิ์สอดแทรกในฐานะผู้เล่น-ผู้จัดการทีม ส่วนผู้ท้าชิงรายอื่นประกอบด้วย แซม อัลลาร์ไดซ์, สตีฟ แม็คคลาเรน, อลัน เคอร์บิชลีย์, อลัน เชียเรอร์, เชราร์ อุลลิเยร์, อัฟราม แกรนท์ และ กอร์ดอน สตรัคคัน
