ไมเคิล โอเวน ทำประตูเบิกร่องนาทีที่ 51 พร้อมกับช่วย นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด บุกไปเอาชนะ ปอร์ทสมัธ 3-0 ถึงสนามแปร็ตตัน ปาร์ก ในการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
ปอร์ทสมัธ 0-3 นิวคาสเซิล
ปอร์ทสมัธ ของ โทนี อดัมส์ พลาดการใช้งานสองผู้เล่นเกมรับสำคัญคือ ยูเนส กาบูล และ เกล็น จอห์นสัน เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บ รวมถึง ปาปา บูบา ดิยอฟ มิดฟิลด์เกมรับติดโทษแบน ขณะที่ นิวคาสเซิล ของ โจ คินเนียร์ ได้ผู้เล่นหายเจ็บกลับมาหลายคนทั้ง นิกกี บัตต์, เดเมียน ดัฟฟ์ และ โชลา อเมโอบี
เริ่มเกมครึ่งแรกมา 9 นาที ทีมเยือนมีลุ้นทำประตูก่อนจากจังหวะที่ มาร์ตินส์ ทำเกมรุกขึ้นมาทางด้านขวา ก่อนจะเปิดบอลเข้ากลางของเขตโทษและเป็น โอเวน วิ่งสอดเข้ามายิง แต่โดนไม่เต็มเท้าบอลหลุดเสาสองออกหลังไป
อีกห้านาทีต่อมา ปอร์ทสมัธ มีโอกาสทำประตูบ้างจากความผิดพลาดของ กัทธรี ผู้เล่นทีมเยือนสกัดบอลไม่ดีจากกลางสนาม บอลหลุดไปถึง เคราช์ แตะบอลเข้าไปถึงหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนจะตัดสินใจยิงแต่บอลเหินข้ามคานออกหลังไป
นาทีต่อมา เดโฟ มาได้โอกาสทำประตูบ้างเมื่อรับบอลได้จากนอกกรอบเขตโทษ ก่อนจะเลี้ยงบอลหลบกองหลังคู่แข่งยิงตรงเส้นเขตโทษ แต่ กิฟเวน ปิดมุมไว้ดีใช้มือทุบบอลทิ้งออกไปได้อย่างหวุดหวิด
เกมมาถึงนาทีที่ 19 มาร์ตินส์ รับบอลได้จากหน้าเขตโทษของเจ้าถิ่น ก่อนจะตัดสินใจซัดบอลไกลจากระยะ 30 หลา บอลเลี้ยวหนีมือ เจมส์ ไปแล้วแต่พุ่งไปชนเสากระดอนออกมาพลาดการทำประตูขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย
เดอะปอมปีย์ ทำเกมรุกตอบโต้ขึ้นมาในนาทีที่ 25 จากการลากลุยของ ปามาโร เลี้ยงหนีผู้เล่นทีมเยือนมาถึงริมเขตโทษด้านซ้าย ก่อนจ่ายบอลเข้ากลางให้ ครานชาร์ ยิงบอลไปแฉลบ โคลอชชินี เปลี่ยนทาง แต่ กิฟเวน โชว์ซูเปอร์เซฟพุ่งปัดออกหลังไปได้ทันท่วงที
เกมมาถึงนาทีที่ 37 เอ็นริเก ของฝั่งทีมเยือนตัดบอลได้จากนอกกรอบเขตโทษ ก่อนจะลากลุยเข้ามายิงด้วยซ้าย บอลพุ่งแรงเกือบเสียบสามเหลี่ยมกรอบประตู แต่ยังดีที่นายทวารทีมชาติอังกฤษของเจ้าบ้านใช้มือปัดทิ้งออกหลังไปได้ สุดท้ายจบ 45 นาทีแรกเสมอกันอยู่ 0-0
เกมเข้าสู่ครึ่งหลัง กลายเป็นลูกทีมของ โจ คินเนียร์ ทำผลงานดีกว่าและในที่สุดก็มาได้ประตูออกนำไปก่อนในนาทีที่ 51 จากการตัดบอลได้ของ กูเตียร์เรส ก่อนจะเลี้ยงบอลขึ้นไปจ่ายทะลุช่องให้ โอเวน หลุดเดี่ยวเข้าไปยกบอลผ่านตัว เจมส์ ที่ออกมาปิดมุมเข้าไปทำให้ทีมเยือนขึ้นนำทันที 1-0
ปอร์ทสมัธ มีโอกาสลุ้นทำประตูตีเสมอเช่นกันในอีก 5 นาทีต่อมาซึ่งเป็นจังหวะต่อเนื่องจากลูกเตะมุมของทีมเยือน โดย เดวิส ได้บอลจากแดนของตัวเองก่อนจะลากเลี้ยงยาวขึ้นมาถึงเขตโทษของสาลิกาดงและจ่ายบอลให้ เดโฟ พลิกหนีกองหลังเข้าไปยิงแต่ไม่ตรงบอลออกหลังไป
เกมของทั้งสองทีมทำได้อย่างสูสีแต่แล้วเมื่อถึงนาทีที่ 77 เป็นทีมเยือนที่ทำประตูหนีห่างออกไปเป็น 2-0 จากจังหวะที่ เอ็นริเก ตัดบอลได้จากหน้าเขตโทษ ก่อนจะลากขึ้นมาแทงทะลุช่องให้ มาร์ตินส์ หลุดไปยิงด้วยขวาผ่านมือนายด่านเจ้าถิ่นเข้าไป
หลังจากทำประตูหนีห่างกลายเป็น นิวคาสเซิล ครองเกมได้เหนือกว่าและมาประตูปิดท้ายในช่วงก่อนหมดเวลานาทีเดียวจากจังหวะที่ อเมโอบี ได้บอลหลุดไปถึงเส้นหลัง ก่อนตวัดเรียดกลับมาให้ กัทธรี ยิงตรงกรอบเขตโทษเข้าไปให้ทีมเยือนหนีห่าง 3-0 และจบเวลาด้วยสกอร์นี้
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
ปอร์ทสมัธ : เดวิด เจมส์, ซิลแวง ดิสแต็ง, โซล แคมป์เบลล์, นาดีร์ เบลฮัดจ์, โนเอ ปามาร็อต, ริชาร์ด ฮิวจ์ส, ชอน เดวิส, นิโก ครานชาร์, อาร์โนลด์ เอ็มวูเอ็มบา, เจอร์แมน เดโฟ, ปีเตอร์ เคราช์
นิวคาสเซิล : เชย์ กิฟเวน, เซบาสเตียน บาสซง, ฟาบริซิโอ โคลอชชินี, โฮเซ เอ็นริเก, ฮาบิบ เบย์, แดนนี กัทธรี, นิกกี บัตต์, ชาร์ล เอ็นซอกเบีย, โฮนาส กูเตียร์เรส, ไมเคิล โอเวน, โอบาเฟมี มาร์ตินส์
ผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
ปอร์ทสมัธ 0-3 นิวคาสเซิล
ปอร์ทสมัธ ของ โทนี อดัมส์ พลาดการใช้งานสองผู้เล่นเกมรับสำคัญคือ ยูเนส กาบูล และ เกล็น จอห์นสัน เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บ รวมถึง ปาปา บูบา ดิยอฟ มิดฟิลด์เกมรับติดโทษแบน ขณะที่ นิวคาสเซิล ของ โจ คินเนียร์ ได้ผู้เล่นหายเจ็บกลับมาหลายคนทั้ง นิกกี บัตต์, เดเมียน ดัฟฟ์ และ โชลา อเมโอบี
เริ่มเกมครึ่งแรกมา 9 นาที ทีมเยือนมีลุ้นทำประตูก่อนจากจังหวะที่ มาร์ตินส์ ทำเกมรุกขึ้นมาทางด้านขวา ก่อนจะเปิดบอลเข้ากลางของเขตโทษและเป็น โอเวน วิ่งสอดเข้ามายิง แต่โดนไม่เต็มเท้าบอลหลุดเสาสองออกหลังไป
อีกห้านาทีต่อมา ปอร์ทสมัธ มีโอกาสทำประตูบ้างจากความผิดพลาดของ กัทธรี ผู้เล่นทีมเยือนสกัดบอลไม่ดีจากกลางสนาม บอลหลุดไปถึง เคราช์ แตะบอลเข้าไปถึงหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนจะตัดสินใจยิงแต่บอลเหินข้ามคานออกหลังไป
นาทีต่อมา เดโฟ มาได้โอกาสทำประตูบ้างเมื่อรับบอลได้จากนอกกรอบเขตโทษ ก่อนจะเลี้ยงบอลหลบกองหลังคู่แข่งยิงตรงเส้นเขตโทษ แต่ กิฟเวน ปิดมุมไว้ดีใช้มือทุบบอลทิ้งออกไปได้อย่างหวุดหวิด
เกมมาถึงนาทีที่ 19 มาร์ตินส์ รับบอลได้จากหน้าเขตโทษของเจ้าถิ่น ก่อนจะตัดสินใจซัดบอลไกลจากระยะ 30 หลา บอลเลี้ยวหนีมือ เจมส์ ไปแล้วแต่พุ่งไปชนเสากระดอนออกมาพลาดการทำประตูขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย
เดอะปอมปีย์ ทำเกมรุกตอบโต้ขึ้นมาในนาทีที่ 25 จากการลากลุยของ ปามาโร เลี้ยงหนีผู้เล่นทีมเยือนมาถึงริมเขตโทษด้านซ้าย ก่อนจ่ายบอลเข้ากลางให้ ครานชาร์ ยิงบอลไปแฉลบ โคลอชชินี เปลี่ยนทาง แต่ กิฟเวน โชว์ซูเปอร์เซฟพุ่งปัดออกหลังไปได้ทันท่วงที
เกมมาถึงนาทีที่ 37 เอ็นริเก ของฝั่งทีมเยือนตัดบอลได้จากนอกกรอบเขตโทษ ก่อนจะลากลุยเข้ามายิงด้วยซ้าย บอลพุ่งแรงเกือบเสียบสามเหลี่ยมกรอบประตู แต่ยังดีที่นายทวารทีมชาติอังกฤษของเจ้าบ้านใช้มือปัดทิ้งออกหลังไปได้ สุดท้ายจบ 45 นาทีแรกเสมอกันอยู่ 0-0
เกมเข้าสู่ครึ่งหลัง กลายเป็นลูกทีมของ โจ คินเนียร์ ทำผลงานดีกว่าและในที่สุดก็มาได้ประตูออกนำไปก่อนในนาทีที่ 51 จากการตัดบอลได้ของ กูเตียร์เรส ก่อนจะเลี้ยงบอลขึ้นไปจ่ายทะลุช่องให้ โอเวน หลุดเดี่ยวเข้าไปยกบอลผ่านตัว เจมส์ ที่ออกมาปิดมุมเข้าไปทำให้ทีมเยือนขึ้นนำทันที 1-0
ปอร์ทสมัธ มีโอกาสลุ้นทำประตูตีเสมอเช่นกันในอีก 5 นาทีต่อมาซึ่งเป็นจังหวะต่อเนื่องจากลูกเตะมุมของทีมเยือน โดย เดวิส ได้บอลจากแดนของตัวเองก่อนจะลากเลี้ยงยาวขึ้นมาถึงเขตโทษของสาลิกาดงและจ่ายบอลให้ เดโฟ พลิกหนีกองหลังเข้าไปยิงแต่ไม่ตรงบอลออกหลังไป
เกมของทั้งสองทีมทำได้อย่างสูสีแต่แล้วเมื่อถึงนาทีที่ 77 เป็นทีมเยือนที่ทำประตูหนีห่างออกไปเป็น 2-0 จากจังหวะที่ เอ็นริเก ตัดบอลได้จากหน้าเขตโทษ ก่อนจะลากขึ้นมาแทงทะลุช่องให้ มาร์ตินส์ หลุดไปยิงด้วยขวาผ่านมือนายด่านเจ้าถิ่นเข้าไป
หลังจากทำประตูหนีห่างกลายเป็น นิวคาสเซิล ครองเกมได้เหนือกว่าและมาประตูปิดท้ายในช่วงก่อนหมดเวลานาทีเดียวจากจังหวะที่ อเมโอบี ได้บอลหลุดไปถึงเส้นหลัง ก่อนตวัดเรียดกลับมาให้ กัทธรี ยิงตรงกรอบเขตโทษเข้าไปให้ทีมเยือนหนีห่าง 3-0 และจบเวลาด้วยสกอร์นี้
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
ปอร์ทสมัธ : เดวิด เจมส์, ซิลแวง ดิสแต็ง, โซล แคมป์เบลล์, นาดีร์ เบลฮัดจ์, โนเอ ปามาร็อต, ริชาร์ด ฮิวจ์ส, ชอน เดวิส, นิโก ครานชาร์, อาร์โนลด์ เอ็มวูเอ็มบา, เจอร์แมน เดโฟ, ปีเตอร์ เคราช์
นิวคาสเซิล : เชย์ กิฟเวน, เซบาสเตียน บาสซง, ฟาบริซิโอ โคลอชชินี, โฮเซ เอ็นริเก, ฮาบิบ เบย์, แดนนี กัทธรี, นิกกี บัตต์, ชาร์ล เอ็นซอกเบีย, โฮนาส กูเตียร์เรส, ไมเคิล โอเวน, โอบาเฟมี มาร์ตินส์
