“ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ต่ออายุการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ด้วยการพลิกบุกโค่น “สิงห์บลูส์” เชลซี อริร่วมกรุงลอนดอน 2-1 โดย โรบิน ฟาน เพอร์ซี สวมบทฮีโร่เหมาสองประตู
ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
เชลซี 1-2 อาร์เซนอล
หลุยซ์ เฟลิเป สโคลารี นำทัพ “สิงห์บลูส์” เชลซี เปิดสแตมฟอร์ด บริดจ์ ทำศึกลอนดอน ดาร์บีแมตช์ กับ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล โดยเจ้าถิ่นใส่ มิชาเอล บัลลัค มาช่วยแดนกลางแทน ฟลอร็องต์ มาลูดา ขณะที่ตัวหลักยังลงสนามกันครบครัน ด้าน อาร์แซน เวนเกอร์ ได้ผู้เล่นกำลังสำคัญกลับมาหลายคนทั้ง บาการี ซานญา, ซาเมียร์ นาสรี และ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ส่วนเกมรับปรับให้ โยฮัน ฌูรู มาช่วยงาน วิลเลียม กัลลาส
เริ่มเกมการแข่งขัน เชลซี ที่ฟอร์มในบ้านไม่โดดเด่นเหมือนเกมนอกถิ่น ออกมาเล่นอย่างฮึกเฮิมไล่กดดันใส่ อาร์เซนอล อย่างหนักแบบไม่ให้ตั้งตัว กาแอล กลิชี เคลียร์บอลไม่ขาดทำให้ นิโกลาส์ อเนลกา ได้ยิงบอลเฉียดเสาในนาทีที่ 10 ทีมเยือนไม่ปล่อยให้เจ้าถิ่นกดอยู่ฝ่ายเดียว เดินเกมสวนกลับไปเหมือนกัน โรบิน ฟาน เพอร์ซี เปิดจากสุดเส้นหลัง บรานิสลาฟ อิวาโนวิช สกัดบอลเกือบเข้าประตูตัวเอง จังหวะถัดมา เชส ฟาเบรกาส ได้ลองส่องไกลแต่บอลพุ่งไปตรงตัว ปีเตอร์ เช็ก
ผ่านครึ่งทางของครึ่งแรก “สิงห์บลูส์” เดินเครื่องต่อ โฮเซ โบซิงวา เปิดมาให้ แฟรงค์ แลมพาร์ด โหม่งเหน่งๆ แต่ มานูเอล อัลมูเนีย ยืนตำแหน่งดีรับไว้ได้ นาทีที่ 29 เจ้าบ้านได้ฟรีคิก มิชาเอล บัลลัค ซัดไปแฉลบกำแพงออกหลัง จากจังหวะต่อเนื่อง อัลมูเนีย ตัดบอลได้พยายามเปิดเกมเร็วแต่โดนตัดได้ โบซิงวา เปิดบอลไปเสาแรกจะให้ ซาโลมอน คาลู เข้าทำแต่ โยฮัน ฌูรู พลาดสไลด์บอลเข้าประตูตัวเองส่ง เชลซี นำ 1-0
ห้านาทีถัดมา อาร์เซนอล ดันเกมหวังทวงประตูคืนและก็ได้ลุ้น เดนิลสัน หยอดบอลให้ ฟาน เพอร์ซี พักอกลงก่อนซัดด้วยขวาร้อนถึง เช็ก ปัดบอลพ้นอันตรายไป เกมแลกกันหมัดต่อหมัด ฟาเบรกาส ลองยิงไกลอีกครั้งแต่ยังไม่เป็นปัญหาสำหรับ เช็ก ท้ายครึ่งจังหวะสวนกลับของเจ้าบ้านเกือบได้ผล โบซิงวา ซึ่งวันนี้เติมเกมอย่างเมามันเปิดให้ อเนลกา ขวิดลูกหนังถากเสาออกไป จบ 45 นาทีแรก “สิงห์บลูส์” ยังรักษาสกอร์นำไว้ได้
ลงมาลุยต่อครึ่งหลัง เชลซี ตั้งหลักบุกได้ก่อน คาลู พยายามแทงให้ อเนลกา หลุดเข้ากรอบโทษแต่ ฌูรู เคลียร์ออกมาไม่พ้นอันตราย แลมพาร์ด สวนตูมเดียวบอลโด่งไปหน่อย เกมของ อาร์เซนอล ยังตั้งกันไม่ติดแต่ถึงนาทีที่ 59 สกอร์กลับมาเสมอกัน 1-1 เมื่อ เดนิลสัน แทงทะลุกับดักล้ำหน้าแบบก่ำกึ่งของเจ้าถิ่นให้ ฟาน เพอร์ซี ตะบันเต็มข้อส่งลูกหนังเสียบสามเหลี่ยม
สามนาทีถัดมาสถานการณ์กลับพลิกผันเมื่อ “ปืนใหญ่” ออกนำ 2-1 ฟาเบรกาส หยอดฟรีคิกให้ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ โหม่งตั้งต่อให้ ฟาน เพอร์ซี หมุนตัวซัดด้วยเท้าซ้ายส่งบอลผ่านมือ เช็ก เข้าไปตุงตาข่ายอีกครั้ง จากนั้นขุนพล “ยังกันส์” ดูเล่นกันอย่างมั่นใจ เข้าสู่ช่วง 20 นาทีสุดท้าย สโคลารี ต้องแก้เกมส่ง ฟลอร็องต์ มาลูดา มาเติมสีสันเกมรุกและก็ถอดตัวรับอย่าง จอห์น โอบี มิเกล ออกมา
นาทีที่ 78 การที่เกมรุกเริ่มเจาะไม่เข้าทำให้ แลมพาร์ด ต้องลองยิงบอลหลุดกรอบไป ท้ายเกม “บิ๊กฟิล” ต้องส่ง มิโรสลาฟ สตอช กองหน้าดาวรุ่งร่างเล็กลงมาเล่นแทน เดโก ซูซา ที่เกมนี้แทบไม่มีบทบาท แต่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเมื่อครบ 90 นาที อาร์เซนอล บุกมาเก็บชัยมีเพิ่มเป็น 26 คะแนนจากการลงสนาม 15 นัด ขยับขึ้นมารั้งอันดับ 4 ตามหลัง เชลซี อยู่ 7 แต้ม ความพ่ายแพ้ของ “สิงห์บลูส์” อาจทำให้หล่นจากจ่าฝูงหาก “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เปิดรังจิกชนะหรือแค่เสมอ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในเกมมันเดย์ไนท์
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก , โฮเซ โบซิงวา , จอห์น เทอร์รี , บรานิสลาฟ อิวาโนวิช , แอชลีย์ โคล , จอห์น โอบี มิเกล , แฟรงค์ แลมพาร์ด , เดโก ซูซา , มิชาเอล บัลลัค , ซาโลมอน คาลู , นิโกลาส์ อเนลกา
อาร์เซนอล : มานูเอล อัลมูเนีย , บาการี ซานญา , โยฮัน ฌูรู , วิลเลียม กัลลาส , กาแอล กลิชี , เดนิลสัน , เชส ฟาเบรกาส , อเล็กซานเดอร์ ซง , ซาเมียร์ นาสรี , เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ , โรบิน ฟาน เพอร์ซี
ผลฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำคืนวันอาทิตย์
แมนเชสเตอร์ ซิตี 0-1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
[0-1 : เวย์น รูนีย์ (น.42)]
ปอร์ทสมัธ 3-2 แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส
[1-0 : ปีเตอร์ เคราช์ (น.49) , 2-0 : เจอร์เมน เดโฟ (น.53) , 2-1 : แมตต์ ดาร์บีเชียร์ (น.62) , 2-2 : ตูกาย เคริโมกลู (น.67) , 3-2 : ฌอน เดวิส (น.79)]
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 0-1 เอฟเวอร์ตัน
[0-1 : สตีเวน พีนาร์ (น.51)]
เชลซี 1-2 อาร์เซนอล
[1-0 : โยฮัน ฌูรู (ทำเข้าประตูตัวเอง น.31) , 1-1 : โรบิน ฟาน เพอร์ซี (น.59) , 1-2 : โรบิน ฟาน เพอร์ซี (น.62)]
ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
เชลซี 1-2 อาร์เซนอล
หลุยซ์ เฟลิเป สโคลารี นำทัพ “สิงห์บลูส์” เชลซี เปิดสแตมฟอร์ด บริดจ์ ทำศึกลอนดอน ดาร์บีแมตช์ กับ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล โดยเจ้าถิ่นใส่ มิชาเอล บัลลัค มาช่วยแดนกลางแทน ฟลอร็องต์ มาลูดา ขณะที่ตัวหลักยังลงสนามกันครบครัน ด้าน อาร์แซน เวนเกอร์ ได้ผู้เล่นกำลังสำคัญกลับมาหลายคนทั้ง บาการี ซานญา, ซาเมียร์ นาสรี และ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ส่วนเกมรับปรับให้ โยฮัน ฌูรู มาช่วยงาน วิลเลียม กัลลาส
เริ่มเกมการแข่งขัน เชลซี ที่ฟอร์มในบ้านไม่โดดเด่นเหมือนเกมนอกถิ่น ออกมาเล่นอย่างฮึกเฮิมไล่กดดันใส่ อาร์เซนอล อย่างหนักแบบไม่ให้ตั้งตัว กาแอล กลิชี เคลียร์บอลไม่ขาดทำให้ นิโกลาส์ อเนลกา ได้ยิงบอลเฉียดเสาในนาทีที่ 10 ทีมเยือนไม่ปล่อยให้เจ้าถิ่นกดอยู่ฝ่ายเดียว เดินเกมสวนกลับไปเหมือนกัน โรบิน ฟาน เพอร์ซี เปิดจากสุดเส้นหลัง บรานิสลาฟ อิวาโนวิช สกัดบอลเกือบเข้าประตูตัวเอง จังหวะถัดมา เชส ฟาเบรกาส ได้ลองส่องไกลแต่บอลพุ่งไปตรงตัว ปีเตอร์ เช็ก
ผ่านครึ่งทางของครึ่งแรก “สิงห์บลูส์” เดินเครื่องต่อ โฮเซ โบซิงวา เปิดมาให้ แฟรงค์ แลมพาร์ด โหม่งเหน่งๆ แต่ มานูเอล อัลมูเนีย ยืนตำแหน่งดีรับไว้ได้ นาทีที่ 29 เจ้าบ้านได้ฟรีคิก มิชาเอล บัลลัค ซัดไปแฉลบกำแพงออกหลัง จากจังหวะต่อเนื่อง อัลมูเนีย ตัดบอลได้พยายามเปิดเกมเร็วแต่โดนตัดได้ โบซิงวา เปิดบอลไปเสาแรกจะให้ ซาโลมอน คาลู เข้าทำแต่ โยฮัน ฌูรู พลาดสไลด์บอลเข้าประตูตัวเองส่ง เชลซี นำ 1-0
ห้านาทีถัดมา อาร์เซนอล ดันเกมหวังทวงประตูคืนและก็ได้ลุ้น เดนิลสัน หยอดบอลให้ ฟาน เพอร์ซี พักอกลงก่อนซัดด้วยขวาร้อนถึง เช็ก ปัดบอลพ้นอันตรายไป เกมแลกกันหมัดต่อหมัด ฟาเบรกาส ลองยิงไกลอีกครั้งแต่ยังไม่เป็นปัญหาสำหรับ เช็ก ท้ายครึ่งจังหวะสวนกลับของเจ้าบ้านเกือบได้ผล โบซิงวา ซึ่งวันนี้เติมเกมอย่างเมามันเปิดให้ อเนลกา ขวิดลูกหนังถากเสาออกไป จบ 45 นาทีแรก “สิงห์บลูส์” ยังรักษาสกอร์นำไว้ได้
ลงมาลุยต่อครึ่งหลัง เชลซี ตั้งหลักบุกได้ก่อน คาลู พยายามแทงให้ อเนลกา หลุดเข้ากรอบโทษแต่ ฌูรู เคลียร์ออกมาไม่พ้นอันตราย แลมพาร์ด สวนตูมเดียวบอลโด่งไปหน่อย เกมของ อาร์เซนอล ยังตั้งกันไม่ติดแต่ถึงนาทีที่ 59 สกอร์กลับมาเสมอกัน 1-1 เมื่อ เดนิลสัน แทงทะลุกับดักล้ำหน้าแบบก่ำกึ่งของเจ้าถิ่นให้ ฟาน เพอร์ซี ตะบันเต็มข้อส่งลูกหนังเสียบสามเหลี่ยม
สามนาทีถัดมาสถานการณ์กลับพลิกผันเมื่อ “ปืนใหญ่” ออกนำ 2-1 ฟาเบรกาส หยอดฟรีคิกให้ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ โหม่งตั้งต่อให้ ฟาน เพอร์ซี หมุนตัวซัดด้วยเท้าซ้ายส่งบอลผ่านมือ เช็ก เข้าไปตุงตาข่ายอีกครั้ง จากนั้นขุนพล “ยังกันส์” ดูเล่นกันอย่างมั่นใจ เข้าสู่ช่วง 20 นาทีสุดท้าย สโคลารี ต้องแก้เกมส่ง ฟลอร็องต์ มาลูดา มาเติมสีสันเกมรุกและก็ถอดตัวรับอย่าง จอห์น โอบี มิเกล ออกมา
นาทีที่ 78 การที่เกมรุกเริ่มเจาะไม่เข้าทำให้ แลมพาร์ด ต้องลองยิงบอลหลุดกรอบไป ท้ายเกม “บิ๊กฟิล” ต้องส่ง มิโรสลาฟ สตอช กองหน้าดาวรุ่งร่างเล็กลงมาเล่นแทน เดโก ซูซา ที่เกมนี้แทบไม่มีบทบาท แต่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเมื่อครบ 90 นาที อาร์เซนอล บุกมาเก็บชัยมีเพิ่มเป็น 26 คะแนนจากการลงสนาม 15 นัด ขยับขึ้นมารั้งอันดับ 4 ตามหลัง เชลซี อยู่ 7 แต้ม ความพ่ายแพ้ของ “สิงห์บลูส์” อาจทำให้หล่นจากจ่าฝูงหาก “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เปิดรังจิกชนะหรือแค่เสมอ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในเกมมันเดย์ไนท์
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก , โฮเซ โบซิงวา , จอห์น เทอร์รี , บรานิสลาฟ อิวาโนวิช , แอชลีย์ โคล , จอห์น โอบี มิเกล , แฟรงค์ แลมพาร์ด , เดโก ซูซา , มิชาเอล บัลลัค , ซาโลมอน คาลู , นิโกลาส์ อเนลกา
อาร์เซนอล : มานูเอล อัลมูเนีย , บาการี ซานญา , โยฮัน ฌูรู , วิลเลียม กัลลาส , กาแอล กลิชี , เดนิลสัน , เชส ฟาเบรกาส , อเล็กซานเดอร์ ซง , ซาเมียร์ นาสรี , เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ , โรบิน ฟาน เพอร์ซี
ผลฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำคืนวันอาทิตย์
แมนเชสเตอร์ ซิตี 0-1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
[0-1 : เวย์น รูนีย์ (น.42)]
ปอร์ทสมัธ 3-2 แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส
[1-0 : ปีเตอร์ เคราช์ (น.49) , 2-0 : เจอร์เมน เดโฟ (น.53) , 2-1 : แมตต์ ดาร์บีเชียร์ (น.62) , 2-2 : ตูกาย เคริโมกลู (น.67) , 3-2 : ฌอน เดวิส (น.79)]
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 0-1 เอฟเวอร์ตัน
[0-1 : สตีเวน พีนาร์ (น.51)]
เชลซี 1-2 อาร์เซนอล
[1-0 : โยฮัน ฌูรู (ทำเข้าประตูตัวเอง น.31) , 1-1 : โรบิน ฟาน เพอร์ซี (น.59) , 1-2 : โรบิน ฟาน เพอร์ซี (น.62)]