"น้องส้ม" แซมซั่น ส.สิริพร นักชกสาวที่โดนปลดเข็มขัดแชมป์โลก ออกมาแฉทั้งน้ำตาถูก "เสี่ยเอ็ดดี้" ชูวงศ์ ทุมกิจจ์ โปรโมเตอร์ที่ปลุกปั้นมายืมเงินไป 1.5 แสนบาท ก่อนคืนมาแค่ 5 หมื่นเท่านั้น
โดยหลังจากที่ "เอ็ดดี้" ชูวงศ์ ทุมกิจจ์ โปรโมเตอร์ผู้ปลุกปั้น แซมซั่น ส.สิริพร ตั้งแต่ยังเป็นนักโทษเรือนจำจนได้ก้าวขึ้นมาเป็นแชมป์โลกตลอดจนได้มีชื่อลงในกินเนสส์บุ๊ค รวมถึงทางฮอลลีวูดได้ขอ ซื้อชีวประวัติเพื่อนำไปสร้างเป็นหนัง แต่โปรโมเตอร์รายดังกล่าวออกมาเปิดเผยว่าแชมป์โลกสาวรายนี้ถูกปลดจากตำแหน่งแล้ว หลังไม่ยอมขึ้นชกกับ แฮ มิน คิม ผู้ท้าชิงชาวเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 และ น้องหมวย ก่อเกียรติยิม ในวันที่ 24 มกราคม 2552 จนทำให้สภามวยโลกปลดจากการเป็นแชมป์รุ่นไลต์ฟลายเวท แต่ยังได้รับความเห็นใจจาก โฮเซ สุไลมาน ประธานสภามวยโลก ให้เป็น "แชมป์เกียรติคุณ" คือ สามารถขึ้นชิงแชมป์โลกได้ตลอดหากมีสภาพพร้อม
อย่างไรก็ตาม เมื่องวันศุกร์ที่ 21 พฤศจิกายน 2551 ที่ค่ายมวย ต.บัวมาศ ปฐวิกรณ์ "น้องส้ม" แซมซั่น ส.สิริพร หรือ ต.บัวมาสแชมป์โลกหญิงประวัติศาสตร์คนแรกของไทย ที่ประกาศแยกทางเดินกับ "เสี่ยเอ็ดดี้" โปรโมเตอร์คนเก่า โดยไปอยู่กับหัวหน้าคณะคนใหม่ "ณรงค์วัส บัวมาส" พร้อมกับให้สิทธิต่างๆ รวมถึงเรื่องโปรแกรมการชกกับหัวหน้าคณะแต่เพียงผู้เดียวนั้น ได้กล่าวเปิดใจถึงกรณีดังกล่าวว่า
"รู้สึกเสียใจที่ถูกปลดจากแชมป์โลก ซึ่งในความเป็นจริงแล้วไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ไม่เข้าใจด้วยว่าถูกปลดเพราะอะไร ที่จริงแล้ว ไม่เคยคิดอยากจะออกจากคุกเลย เพราะออกมาแล้วมาเจอสังคมแบบนี้ มาเจอกับคนแบบนี้ ซึ่ง เอ็ดดี้ เป็นคนลวงโลก ทนมาหลายปีแล้ว จนตอนนี้ทนไม่ไหว คงจะประกาศแตกหักอย่างแน่นอน"
"ก็ไม่รู้ว่าทำไมเขากล่าวหาแบบนี้ ส่วนตัวไม่เคยหนีเที่ยว ตั้งใจซ้อม แต่เขาอยากจะให้ไปซ้อมที่ค่ายอื่น ซึ่งเราไม่ไป เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแบบนี้ คงเพราะไปทวงเงินที่เขายืมหนูไป 1.5 แสนบาท ซึ่งเขาอ้างว่า เขาเป็นโปรโมเตอร์จัดเราชกมวย 3 ครั้งขาดทุนตลอด ก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมถ้าขาดทุนเขาไม่ให้คนอื่นจัด แล้วพอทวงเงินเขาก็คืนให้ 5 หมื่นบาท แถมเงินเดือนเขาก็ไม่ให้ อีกอย่างเขาก็บอกว่า ภายในวันที่ 1-10 ธันวาคมนี้ จะจัดให้ขึ้นชกมวยอีก ซึ่งไม่มีทางที่ตนจะเสียเข็มขัดแชมป์โลก บอกได้คำเดียวว่า เขาเอาเงินไปเล่นพนัน เขาเสียพนัน ถ้าการป้องกันแชมป์กับนักมวยต่างประเทศก็พร้อมเสมอ ไม่ใช่เจอกับนักมวยไทย อย่าง น้องหมวย ก่อเกียรติยิม ที่จะให้ชกนั้น ก็เป็นนักมวยคนไทยไร้อันดับ"
"ที่ผ่านมาโดนเอาเปรียบทุกอย่าง อย่างการไปชกมวยครั้งล่าสุด ที่พนมเปญ ได้ค่าตัวมา 1.5 แสนบาท นักมวยได้ 1 แสนบาท โปรโมเตอร์ได้ 5 หมื่นบาท แต่เราได้เงินแค่ 5 หมื่นบาท เขาอ้างว่าจะเอาเงิน 5 หมื่นบาทไปให้นายเราที่เรือนจำ แต่ก็ไม่มีใครได้เงินตรงนั้น อีกอย่าง เข็มขัดแชมป์โลกของเรา ถ้วยเกียรติยศต่างๆ อยู่กับเขาหมด พอทวงเข็มขัดคืน เขาก็บอกว่าคนใช้ขโมยไป อย่างการทำสัญญาเรื่องนำชีวิตไปสร้างเป็นหนังฮอลีวู้ดนั้น ตอนเซ็นสัญญาแค่ฉบับเดียว มี 9 ข้อ แต่ถึงเวลา กับกลายเป็น 3 แผ่น ซึ่งคงจะฟ้องตรงนี้ เพราะตอนนั้นไปเซ็นสัญญามีตัวคนเดียว และก็มีลูก 2 คน ของเอ็ดดี้อยู่ด้วย อยากได้เข็มขัดแชมป์โลกคืน เพราะมันเป็นของที่ระลึกของเรา"
"ยังอยากชกมวยต่อ ตั้งใจที่จะป้องกันแชมป์โลก เนื่องจากว่าเป็นแชมป์โลกประวัติศาสตร์ ไม่คิดว่าสังคมนอกคุกจะเลวร้ายแบบนี้ เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น จึงอยากวอนผู้ใหญ่ในวงการช่วยด้วย แต่ยืนยันว่าไม่เคยเซ็นสัญญาให้เขาเป็นผู้จัดการ" แซมซั่น กล่าวด้วยน้ำตานองหน้า
